นักการศึกษาชี้สอนปรัชญาพอเพียงเหลว แค่ท่องจำ แนะสร้างหลักสูตรจากชุมชน
ศูนย์เรียนรู้ทางไกลเศรษฐกิจพอเพียงเตรียมจับมือกรมวิชาการเกษตร นำทฤษฎีสร้างรูปธรรม รุกขยายผลพื้นที่ต้นแบบทางอินเตอร์เน็ต ดร.วิจิตร ชี้สอนแต่ท่องจำไม่นำสู่การปฏิบัติ ต้องสร้างความเข้าใจใหม่ ดร.วิวัฒน์แจง"พอเพียง" ไม่ใช่เฉพาะเกษตรกร แต่คลุมทุกมิติ
วันที่ 2 ธ.ค. ที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช(มสธ.) จัดสัมมนา “การศึกษาไทยกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง” โดย รศ.ดร.ปราณี สังขะตะวรรธน์ อธิการบดี มสธ. กล่าวถึงผลการดำเนินงานของศูนย์เรียนรู้ทางไกลเศรษฐกิจพอเพียงว่า 1 ปีที่ผ่านมาได้สร้างยุทธศาสตร์ฐานข้อมูลเศรษฐกิจพอเพียง ขยายเครือข่าย และเชื่อมโยงข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งในปีที่ 2 นี้ทางจะร่วมมือกับกรมวิชาการเกษตร พัฒนาหลักสูตรทางไกลที่เน้นการนำเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การปฏิบัติ ระยะแรกอาจเน้นกลุ่มเกษตรกรก่อน
รศ.ดร.เทพศักดิ์ บุณยรัตพันธุ์ จาก มสธ. กล่าวว่า ที่ต้องเน้นต่อคือการนำสื่อทางไกลไปเชื่อมกับสื่ออื่น โดยข้อมูลทั้งภาพและเสียงเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงจะจัดทำให้ประชาชนดาวน์โหลดส่วนที่เข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ตจะจัดทำเป็นซีดีและดีวีดี ส่วนของสื่ออินเทอร์เน็ตขณะนี้ มสธ.ร่วมมือกับกระทรวงต่างๆเพื่อจัดทำหลักสูตรโดยรวบรวมตัวอย่างจากชุมชนพื้นที่ตำแบบ และเปิดพื้นที่ให้ผู้เรียนกับชุมชนมีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน ทั้งนี้ตั้งเป้าว่าจะทำให้เป็นเสิร์ซเอ็นจินเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ สุดท้ายคือการนำประเด็นดังกล่าวมาอยู่บนสื่อโทรศัพท์มือถือ (Moblie learning) เพื่อการเผยแพร่ที่กว้างขวางขึ้น
“ชาวบ้านและเกษตรกรที่เรียนบอกว่า อยากให้มอบวุฒิการศึกษาแก่เขาด้วย เพราะบางครั้งเกษตรกรทำได้และรู้เยอะกว่านักศึกษาปริญญาตรีด้วยซ้ำ ตรงนี้เป็นประเด็นที่ต้องหารือต่อไป”
ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน นายกสภา มสธ. กล่าวว่า แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8-9 พูดถึงการใช้กรอบแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงในการพัฒนาประเทศ สถาบันการศึกษาทุกแห่งทุกระดับ นำไปดำเนินการจัดการเรียนการสอนตามพร้อมและความสามารถ แต่จากการติดตามผลพบว่าสถาบันการศึกษาต่างๆยังสอนแบบนามธรรม คือให้ผู้เรียนแค่รู้ จดจำและถ่ายทอด ซึ่งถือว่าล้มเหลว เพราะปรัชญานี้ต้องนำไปสู่การปฏิบัติให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นระบบการศึกษาทางใกล้หรือทางไกล และควรทำให้ครบวงจร ถ่ายทอดตัวอย่าง เป็นเรื่องที่ที่ต้องพยายามกันต่อไป
“ตอนนี้มีบางแห่งตั้งเป็นวิทยาลัยเฉพาะสอนแบบครบวงจร ปฏิบัติร่วมกันกับชุมชน หลายแห่งพยายามเสาะหาต้นแบบดีๆเพื่อให้ชาวบ้านได้ศึกษา เป็นความสัมพันธ์ระหว่างความรู้กับการกระทำที่นำไปสู่การปฏิบัติได้จริง ทำให้เศรษฐกิจพอเพียงไม่เป็นแค่เรื่องนโยบายระดับชาติ แต่เป็นเรื่องที่กลืนไปกับชุมชนด้วย”
ในประเด็นทิศทางการศึกษาไทยกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร ประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ กล่าวว่า สถาบันศึกษาต้องจับมือกับสื่อและภาคส่วนอื่น นำต้นแบบจากพื้นที่ที่ประสบความสำเร็จมาทำเป็นทฤษฎี เปลี่ยนหลักสูตรการเรียนการสอนใหม่, เปลี่ยนความคิด วิธีสอนของครู เครื่องมือและสภาพแวดล้อมการเรียนการสอนที่อิงพื้นที่ ชุมชน หากตัวอย่างความสำเร็จขยายไปมากเท่าไร จะเป็นการขับเคลื่อนที่เปลี่ยนแปลงได้จริง
“ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงครอบคลุมทุกมิติอาชีพแต่คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าทำได้เฉพาะเกษตรกรรมกรรม กระทรวงศึกษาและมหาวิทยาลัยต้องทบทวนใหม่ว่าทำจะทำอย่างไรให้คนเข้าใจถูกต้องเพราะโลกกำลังวิกฤติและมาถึงทางตัน ซึ่งปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงคือทางออกของอนาคต”
ทั้งนี้มีการนำเสนอรูปธรรมการศึกษาเศรษฐกิจพอเพียง โดย พระอาจารย์สรยุทธ์ ชยปัญโญ จากวัดพระบรมธาตุดอยผาส้ม จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ลักษณะการจัดการศึกษาทำในลักษณะ Home School ไม่เน้นสอนวิชาการแต่เน้นพัฒนาจิตใจเด็ก ขณะนี้มีเยาวชนกว่า 20 หมู่บ้านมาร่วมกับวัด ใช้เศรษฐกิจพอเพียงเป็นเครื่องมือสอนการสร้างฝ้าย เกษตรอินทรีย์ ไบโอดีเซล เพื่อปูพื้นฐานให้เด็กเข้าใจว่าเป้าหมายในชีวิตคือการพึ่งตนเองได้ ไม่ใช่ความมั่งคั่ง ซึ่งแต่ละคนจะต้องคิดเขียนโครงการโดยวิเคราะห์จากฐานปัญหาที่ตนประสบ โดยผลคาดหวังสุดท้ายจะประเมินจากผลผลิตที่ออกไปสู่ชุมชนและประเมินเป็นเกรด
นางกนกวลี กรเกศกมล ผอ.โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์นางรอง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ปัญหาสำคัญคือเด็กร้อยละ 80 เป็นเด็กกลุ่มยากจนพิเศษและมีปัญหา จึงนำหลักดังกล่าวมาจับโดยยึดแนวทางบริหารประโยชน์สูง ประหยัดสุด เพื่อให้เด็กที่ออกไปไม่เป็นภาระสังคมและพึ่งตนเองได้ จึงมาวิเคราะห์ว่างบประมาณมากที่สุดคือค่าอาหาร จึงฟื้นโรงสีที่เคยปิดไปดำเนินการใหม่ในรูปสหกรณ์ ปีหนึ่งได้กำไรกว่าแสนบาท, เปิดธนาคารผักผลิตเข้าโรงครัว หนึ่งปีเหลืองบประมาณเป็นล้านบาท .