สรุปบทเรียนถล่มจุดตรวจ ชคต.ปัตตานี ..กำลังน้อย ไร้ทางหนี สู้จนตัวตาย!
ฝ่ายความมั่นคงสรุปข้อมูลการข่าว การสืบสวน หลักฐานจากการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ และการสอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์ สรุปเป็นแนวทางการคลี่คลายคดี และถอดบทเรียนเหตุการณ์คนร้ายบุกโจมตีฐานปฏิบัติการและจุดตรวจของชุดคุ้มครองตำบล หรือ ชคต. ในหมู่บ้านกอแลบิเละ ตำบลปะกาฮะรัง อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี
ข้อมูลและข้อสังเกตที่น่าสนใจมีดังนี้
1. จุดเกิดเหตุเป็นลักษณะจุดตรวจของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ. ใช้กำลังร่วมกันระหว่างกำลัง ชคต. กับกำลัง ชรบ.ในหมู่บ้าน โดย ชคต.ในพื้นที่จะหมุนเวียนจัดกำลัง อส. หรือ อาสารักษาดินแดน มาร่วมตั้งจุดตรวจ โดยมีเจ้าหน้าที่โครงทหาร (จ่าสิบเอกที่เสียชีวิตในเหตุการณ์) ควบคุมมา 1 นาย
2. ที่ตั้งจุดตรวจมีพื้นที่จำกัด อยู่ริมถนนในหมู่บ้าน ด้านหน้ามีบ้านเรือนประชาชนตั้งอยู่ บ้านผู้ใหญ่บ้านอยู่เยื้องๆ ด้านหน้าของจุดตรวจ ส่วนด้านหลังเป็นป่า ไม่ใช่เส้นทางสัญจร บริเวณจุดตรวจมีที่พักสำหรับ อส.และ ชรบ.ที่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 2-3 หลัง
3. ห่างจากจุดตรวจไม่ไกลนัก มีสิ่งปลูกสร้างอยู่ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 418 (ปัตตานี-ยะลา) สามารถมองเห็นจุดตรวจได้ชัดเจน และคนร้ายอาจใช้เป็นสถานที่นัดหมายในการใช้กำลังเข้าระดมยิงจุดตรวจ
4. คนร้ายใช้กำลังกว่า 20 คน แทรกซึมวางกำลังบริเวณรอยต่อและช่วงห่างของบ้านเรือนตรงข้ามจุดตรวจ เมื่อได้เวลาขณะเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่บนถนน 4 นาย คนร้ายก็เปิดฉากระดมยิงพร้อมระเบิดขว้างใส่ ทำให้ ชรบ.เสียชีวิตคาที่ 2 คน ส่วนเจ้าหน้าที่โครงทหาร (จ.ส.อ.ชูธวัช มาศศรี) และ อส.ที่ทำหน้าที่อยู่ ถอยเข้าไปด้านในจุดตรวจ และยิงต่อสู้จนกระสุนหมด ทำให้คนร้ายซึ่งมีมากกว่า และมีอาวุธพร้อมกว่า ระดมยิงจนเสียชีวิต
ส่วน อส.ที่อยู่ในที่พัก โดนระเบิดขว้างเข้าไป 2 ลูก มี อส. 1 นายเข้าที่กำบังหลังบังเกอร์กระสอบทราย พยายามยิงต่อสู้ แต่สู้ไม่ไหว กระทั่งโดนยิงได้รับบาดเจ็บ แต่หนีออกด้านหลังได้
5. เมื่อเสียงปืนของฝ่ายเจ้าหน้าที่สงบลง คนร้ายก็เริ่มปรากฏตัว เข้าไปชิงอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ไป 5 กระบอก แล้วถอนกำลัง
6. จุดอ่อนของฝ่ายเจ้าหน้าที่คือ มีกำลังน้อย อาวุธจำกัด และออกปฏิบัติหน้าที่ในเวลาซ้ำเดิมบ่อยๆ ทำให้คนร้ายกำหนดเป็นช่วงเวลานัดหมายในการเข้าโจมตีได้ง่าย นอกจากนั้นคนร้ายยังแทรกซึมมาตามบ้านเรือนประชาขนที่อยู่ด้านหน้าได้ ขณะที่ภายในจุดตรวจไม่มีช่องทางออก หนีออกลำบาก ทำให้ต้องสู้จนตัวตาย
พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ยอมรับว่า คนร้ายเตรียมการมาเป็นอย่างดี แบ่งหน้าที่กันทำ มีชุดยิง ชุดเฝ้าระวัง ชุดโจมตี ชุดที่เข้าไปชิงอาวุธ และชุดที่เผายางรถยนต์ โปรยตะปูเรือใบ
"เชื่อว่ากลุ่มที่ทำงานได้แบบนี้ ต้องมีแนวร่วมในพื้นที่คอยดูต้นทาง พามา พาหนี และชิงอาวุธปืนไป ส่วนยุทธวิธีในการก่อเหตุยังเป็นแบบเดิมๆ คือขว้างระเบิดเปิดทาง แล้วยิง จากนั้นก็ชิงอาวุธ แต่เบื้องหลังการก่อเหตุจริงๆ จะเริ่มจากการประชุมวางแผน มีการรับส่งอาวุธ มีการนำทางมาสู่จุดก่อเหตุ จุดพาหนี รวมทั้งพวกที่เผายาง โปรยตะปูเรือใบ" พล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าว
ขณะที่ พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ยืนยันว่า ชรบ.ที่เสียชีวิตและถูกไฟเผาร่างนั้น ไม่ได้เกิดจากคนร้ายราดน้ำมันแล้วจุดไฟเผา แต่เป็นเพราะระเบิดไปป์บอมบ์ที่คนร้ายปาเปิดทาง ตกลงบริเวณรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ที่จอดอยู่หน้าฐานในบริเวณจุดตรวจพอดี ทำให้เพลิงลุกท่วมจากน้ำมันรถจักรยานยนต์
---------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : ภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ช่วงที่คนร้ายบุกโจมตีและระดมยิงใส่เจ้าหน้าที่ในที่พักข้างจุดตรวจ
อ่านประกอบ :