ไฟใต้ผ่าน 15 ปี...ชาวพุทธที่นี่ยังต้องเวียนเทียนกลางวัน
ผ่าน 15 ปีไฟใต้ พี่น้องชาวพุทธในสามจังหวัดปลายด้ามขวานยังต้องทำพิธีเวียนเทียนกันตอนกลางวันในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ท่ามกลางการสร้างกระแสของรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงว่าสถานการณ์ความรุนแรงลดลงอย่างต่อเนื่อง
แต่ภาพพระสงฆ์และฆราวาสพากันเดินรอบโบสถ์ และรอบพระพุทธรูปกลางแจ้งคู่บ้านคู่เมือง ช่วงวันอาสาฬหบูชา ต่อเนื่องวันเข้าพรรษา สะท้อนว่าสถานการณ์ในพื้นที่ยังไม่น่าไว้วางใจ
ก่อนเข้าสู่เทศกาลหยุดยาวสืบเนื่องจากวันสำคัญของพี่น้องชาวพุทธ ก็มีระบบแจ้งเตือนจากหน่วยข่าวและฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ว่า กลุ่มก่อความไม่สงบวางแผนก่อเหตุใหญ่ แต่เคราะห์ดีที่เมื่อผ่านพ้นห้วงเวลาอ่อนไหว มีเหตุระเบิดอย่างรุนแรงเพียงเหตุเดียว มีกำลังพลของนาวิกโยธินได้รับบาดเจ็บ 3 นาย
สถานการณ์ที่ปลายด้ามขวานปะทุรุนแรงขึ้นเมื่อต้นปี 2547 หรือ 15 ปีที่แล้ว เริ่มจากวันเสียงปืนแตก 4 มกราคม มีปฏิบัติการปล้นปืน 413 กระบอกจากค่ายทหารในอำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส จากนั้นก็มีเหตุรุนแรงรายวันรูปแบบต่างๆ เกิดต่อเนื่องมา
แต่เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ก็คือเหตุลอบทำร้ายพระสงฆ์ ซึ่งเป็นนักบวชในบวรพระพุทธศาสนา ทั้งๆ ที่ในดินแดนแห่งนี้มีวัดวาอารามมากกว่า 200 วัด สำนักสงฆ์ทั้งที่ขึ้นทะเบียนและไม่ขึ้นทะเบียนอีกเป็นร้อย และก็อยู่ร่วมกันกับชุมชนในพื้นที่อย่างสงบสุขมาเนิ่นนาน...
เหตุการณ์ทำร้ายพระเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2547 หลังจากเกิดเหตุปล้นปืนเพียง 18 วัน คนร้ายใช้มีดฟัน พระจัด มากมณี พระลูกวัดอุไรรัตนาราม อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส มรณภาพขณะกำลังบิณฑบาต
ถัดจากนั้นเพียง 2 วัน คนร้ายก่อเหตุทำร้ายสามเณรวัดเวฬุวัน จังหวัดยะลา ขณะออกบิณฑบาต ทำให้ สามเณรเจตศักดิ์ หนูสงค์ มรณภาพ และยังเกิดเหตุใช้มีดฟัน พระวิชัย ปานบุญ พระวัดคูหาภิมุข อำเภอเมืองยะลา ขณะกำลังบิณฑบาต มรณภาพ รวมทั้งใช้มีดฟัน พระจุลเดช จุลนาโก รองเจ้าอาวาสวัดลำใหม่ อำเภอเมืองยะลา ได้รับบาดเจ็บ
หลังจากนั้นก็มีเหตุทำร้ายพระเรื่อยมา และในพื้นที่ปลายด้ามขวานก็เริ่มมีปรากฏการณ์ไม่ให้พระออกบิณฑบาต และจัดพิธีเวียนเทียนตอนกลางวัน
กระทั่งถึงปีปัจจุบัน คือปี 2562 วันที่ 18 มกราคม คนร้ายกราดยิงพระในวัดรัตนานุภาพ อำเอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ทำให้พระสงฆ์มรณภาพ 2 รูป ได้รับบาดเจ็บ 2 รูป
โดยปกติแล้ว "การเวียนเทียน" นิยมทำกันตอนเย็นย่ำหรือกลางคืน เป็นการเดินเวียนรอบปูชนียสถานสำคัญ เช่น โบสถ์ หรือพระพุทธรูป เพื่อรำลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วิธีการเวียนเทียนจะใช้เทียน ธูป และดอกไม้เป็นเครื่องสักการะบูชา และเดินเวียนขวา 3 รอบ เพื่อแสดงออกถึงความเคารพบูชาอย่างสูงสุด
แต่เรื่องเลวร้ายที่เกิดอย่างไม่หยุดหย่อนที่ปลายด้ามขวานที่ทำให้วันพระใหญ่หนนี้ พี่น้องชาวพุทธที่นี่ก็ยังต้องเวียนเทียนตอนกลางวันเช่นเดิม
16 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตรงกับวันพระใหญ่ คือวันอาสาฬหบูชา ซึ่งเป็นวันก่อนวันเข้าพรรษา 1 วัน ที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ซี่งมีชุมชนชาวพุทธอยู่จำนวนไม่น้อย ได้ร่วมกันจั้ดพิธีกรรมทางศาสนาที่พุทธศาสนิกชนน้อมใจกันปฏิบัติอย่างพร้อมเพรียง
ที่พุทธมณฑลจังหวัดนราธิวาส นายธรรมรงค์ คงวัดใหม่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรและเวียนเทียน ในงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาประจำปี 2562 โดยมี พระครูวิสิฐพรหมคุณ เจ้าอาวาสวัดพรหมนิวาส เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมี นายสมหวัง เรืองเพ็ง ปลัดจังหวัดนราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการ รวมทั้งประชาชนเข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่ง เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
ในการนี้ พระครูวิสิฐพรหมคุณ ได้แสดงพระธรรมเทศนา โดยขอให้ประชาชนนำพระธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปปฏิบัติในชีวิต
จากนั้นได้มีพิธีทำบุญตักบาตร และร่วมกันเวียนเทียนรอบองค์พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล พระพุทธรูปกลางแจ้งคู่บ้านคู่เมืองบางนรา
จังหวัดนราธิวาสได้จัดกิจกรรมสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาประจำปี 2562 ขึ้น ระหว่างวันที่ 11-12 และ 16 กรกฎาคม โดยจัดให้มีพิธีหล่อเทียน สมโภชเทียนพรรษา และนำเทียนพรรษาไปถวายยังวัดต่างๆ พร้อมจัดกิจกรรมเนื่องในวันอาสาฬหบูชา เพื่อปลุกจิตสำนึกคนในชาติให้ยึดมั่นและเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา รวมทั้งเป็นการสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ของคนในชาติ โดยใช้มิติทางศาสนา เพื่อให้ประชาชนมีความรักสามัคคีในหมู่คณะมากขึ้น อีกทั้งได้น้อมนำหลักธรรมคำสอนไปประพฤติปฏิบัติสร้างคุณความดี เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว และได้ส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบไป
ส่วนที่จังหวัดยะลา ตั้งแต่เช้าตรู่ 07.20 น. นายสำอาง ศิริรัตน์ ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้ไปร่วมพิธีทำบุญตักบาตรที่วัดเมืองยะลา (พระอารามหลวง) โดยมี นายเจษฎา จิตรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานในพิธี พร้อมนำข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ ลูกจ้างในหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ สถานศึกษา ทหาร ตำรวจ ชุมชน ตลอดจนบุคคลในครอบครัว ทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุ สามเณรจำนวน 40 รูป รอบบริเวณพระมหาธาตุเจดีย์ เพื่อความเป็นสิริมงคล สืบทอดประเพณีการทำบุญในวันสำคัญทางศาสนา โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารคอยดูแลรักษาความปลอดภัยแก่ประชาชนทั้งภายนอกและภายในวัดอย่างเข้มงวด
จากนั้นเวลา 10.00 น. ที่วัดเวฬุวัน อำเภอเมืองยะลา รองผู้ว่าฯเจษฎา ได้ไปร่วมพิธีเวียนเทียนตอนเที่ยงวัน รอบพระอุโบสถจำนวน 3 รอบ เพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณพระศรีรัตนตรัย ตั้งจิตภาวนาปฏิบัติธรรม งดเว้นการกระทำความชั่ว และทำจิตใจให้ผ่องใส ภาวนาให้ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และประเทศชาติมีความสงบสุขร่มเย็น
สำหรับบรรยากาศทั่วไปในพื้นที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนใหญ่ประชาชนไปทำบุญที่วัดใกล้กับชุมชนของตนเอง
จังหวัดยะลามีพิธีเวียนเทียนทุกวัด โดยจะแบ่งการเวียนเทียนออกเป็น 2 ช่วงเวลา คือ เวียนเทียนเวลา 11.00 น. ที่วัดเวฬุวัน และวัดหลักห้า อำเภอเมืองยะลา ส่วนวัดอื่นๆ ในเขตอำเภอเมืองมีพิธีเวียนเทียนเวลา 17.00 น.
นี่คือสถานการณ์จริง ณ ปลายด้ามขวานที่เกือบทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม...เหมือนตลอด 15 ปีที่ผ่านมา