สธ.เผยชาวบ้านป่วยจากเคมี 1,524 ราย “จุรินทร์” สั่ง 4 ก.บูรณาการแผนแก้มาบตาพุด
“จุรินทร์” ให้ 4 กระทรวง บูรณาการแผนแก้ไขปัญหามาบตาพุด พัฒนาเกณฑ์มาตรฐาน-ดัชนีชี้วัดสุขภาพ หนุน อปท.เฝ้าระวังเชิงรุก สั่งทุกหน่วยรายงานการครอบครองสารเคมี รับมือปัญหาเคมีรั่วไหลในพื้นที่ เลขาสธ.เผยตั้งแต่ปี 52 ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากอุบัติภัยเคมีแล้ว 1,524 ราย
เมื่อวันที่ 22 กันยายน ที่อาคารรัฐสภา 1 กรุงเทพฯ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วยนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดสธ.ประชุมคณะกรรมการอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 2/2553 เพื่อติดตามการดำเนินงานแก้ไขปัญหามาบตาพุดและปัญหาสุขภาพผู้ได้รับผลกระทบจากบ่อขยะภาคอุตสาหกรรม จ.สระบุรี
นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรี สธ. กล่าวว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 ก.ค. เห็นชอบให้ 4 กระทรวงหลัก ได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย ไปดำเนินการแก้ไขปัญหามาบตาพุด จ.ระยอง ที่มีการขยายตัวของอุตสาหกรรมโดยเฉพาะพื้นที่ ต.มาบตาพุด ซึ่งประสบปัญหาผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากมลพิษอุตสาหกรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมปิโตรเคมี, กลั่นน้ำมัน, อุตสาหกรรมผลิตเหล็ก, ไฟฟ้า, ปุ๋ย และเคมี
นายบุณย์ธีร์ กล่าวต่อไปว่า นายจุรินทร์สั่งการให้ดำเนินการ 3 ประเด็น คือ 1.ให้จัดทำแผนการดำเนินงานแบบบูรณาการระหว่างหน่วยงานทุกภาคส่วนแบบมีส่วนร่วม โดยแต่ละหน่วยงานต้องแบ่งงานกันทำมีเป้าหมายและขอบเขตหน้าที่ที่ชัดเจน 2.พัฒนาเกณฑ์มาตรฐานสุขภาพและดัชนีชี้วัดสุขภาพ เพื่อคัดกรองความเสี่ยงภัยและเพื่อช่วยวินิจฉัยโรคจากสารเคมี สำหรับผู้ประกอบอาชีพและประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเป็นรูปธรรม และ3.สนับสนุนให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สามารถดำเนินการเฝ้าระวังสุขภาพเชิงรุก เพื่อป้องกันและควบคุมโรค ได้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย อย่างไรก็ตามได้ขอให้ทุกกระทรวงรายงานผลการดำเนินงานให้คณะกรรมการทราบ ในการประชุมคณะกรรมการครั้งต่อไปด้วย
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกจังหวัด ประกอบด้วย กรมควบคุมมลพิษ กรุงเทพมหานคร และกรมการขนส่งทางบก ได้รายงานการครอบครองและการใช้สารเคมีของโรงงานและหน่วยงานต่างๆ ให้สำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม สธ.ทราบ เพื่อจะได้เตรียมการแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงทีต่อไป หากมีการรั่วไหลหรือแพร่กระจายของสารเคมีในพื้นที่ใดๆก็ตามทั่วประเทศ
ทั้งนี้ จากสถานการณ์อุบัติภัยสารเคมี จ.ระยอง ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา มีผู้ได้รับผลกระทบทั้งสิ้น 1,524 ราย สธ.ได้ออกตรวจสุขภาพทั้งในเขตควบคุมมลพิษและเขตอุตสาหกรรมนอกเขตควบคุมมลพิษ จ.ระยอง จากกลุ่มเป้าหมายทั้งสิ้น 13,000 ราย ตรวจสุขภาพทั้งสิ้น 12,069 ราย คิดเป็นร้อยละ 93 โดยการตรวจหาการสัมผัสสารอินทรีย์ระเหยง่าย จำนวน 12,069 ราย และตรวจหาการสัมผัสสารโลหะหนัก ได้แก่ ปรอท ตะกั่ว สารหนู จำนวน 500 ราย.