เปิดผลสอบลับ 'สตง.' ชี้มูลฮั้วห้องเรียนอัจฉริยะโคราช ชงฟันอาญา-แพ่ง 'นายกอบจ.-พวก'
"... อบจ.นครราชสีมา ได้จัดซื้อสินค้าตามราคากลางที่ได้มีการกำหนดไว้ ซึ่งมีราคาสูงกว่าราคาที่ซื้อขายทั่วไปในตลาดทางการค้า และสูงกว่าราคาที่ อบจ.นครราชสีมาจัดซื้อในเวลาใกล้เคียงกัน ซึ่งไม่มีแผนการจัดซื้อและไม่ได้ตั้งงบประมาณไว้ นายก อบจ.นครราชสีมา (ในขณะนั้น) จึงได้ให้นโยบายเจ้าหน้าที่งบประมาณหางบประมาณในการจัดซื้อครุภัณฑ์ตามโครงการดังกล่าว..."
หากสาธารณชนยังจำกันได้ในช่วงปลายปี 2558 สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เคยนำข้อมูลเชิงลึกการตรวจสอบการดำเนินงานโครงการปรับปรุงห้องเรียน ( E-Classroom) และห้องสมุดคุณภาพสู่มาตรฐานสากล ( E – Library) ของสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งใช้งบประมาณ 342,500,000 บาท จากงบแปรญัตติ ปี 2555 (ยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) จัดสรรให้กับโรงเรียนจำนวน 100 แห่ง ซึ่งพบความผิดปกติ ไม่โปร่งใส ตั้งแต่ขั้นตอนการขอเปลี่ยนแปลงงบประมาณจนถึงการดำเนินโครงการ มาเสนอให้สาธารณชนได้รับ
โดย สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบข้อมูลการดำเนินงานโครงการดังกล่าว พบว่า ไม่ได้จัดทำขึ้นจากความต้องการ ความจำเป็น ความขาดแคลน ของโรงเรียนอย่างแท้จริงแต่ได้มีการระบุชื่อโรงเรียนไว้ก่อนแล้ว โดยมีบุคคลที่อ้างว่าเป็นผู้ประสานงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไปประสานงานกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียน ให้โรงเรียนเลือกว่าจะรับโครงการนี้หรือไม่เท่านั้น ซึ่งโรงเรียนเลือกรับโครงการทั้งๆ ที่ไม่มีความรู้ในระบบงานซอฟต์แวร์ เนื่องจากต้องการพัฒนาโรงเรียน นอกจากนี้ ยังมีการจัดสรรงบประมาณในลักษณะผูกขาดโดยพฤติการณ์ของผู้ประสานงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอ้างว่า งบแปรญัตติเป็นของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ต้องดำเนินการตามรายละเอียด TOR และคุณลักษณะเฉพาะที่โครงการกำหนดเท่านั้น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนรายละเอียดใด ๆ ได้ ทำให้โรงเรียนบางแห่งไม่สามารถดำเนินการได้ ต้องขอคืนงบประมาณ
ส่วนกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างโครงการดังกล่าว สตง.ตรวจสอบพบว่า มีการกำหนดราคากลางสูงเกินกว่าที่ควรจะเป็น และกำหนดราคากลางซ้ำซ้อนทำให้เกิดความเสียหายเป็นเงินรวมประมาณ 173,806,790 บาท มีการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้รับจ้างรายใดรายหนึ่ง รวมทั้งมีพฤติการณ์สมยอมการเสนอราคาและมีผลประโยชน์ร่วมกัน และมีครุภัณฑ์ที่จัดซื้อแต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เป็นเงิน 26,686,000 บาท พร้อมส่งรายงานผลการตรวจสอบไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป (อ่านประกอบ : เปิดหมดพฤติการณ์-หลักฐานมัด 2 เอกชน คว้าห้องเรียนอัจฉริยะ ยุค 'ยิ่งลักษณ์', รัฐเสียหาย 178 ล. คนใกล้ชิด ส.ส. เอี่ยว! สตง.สรุปผลสอบห้องเรียนอัจฉริยะ ยุค "ปู")
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า การดำเนินงานโครงการพัฒนาโรงเรียนต้นแบบองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครรชสีมา สู่ความเป็นเลิศวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และด้านอื่นๆ (ห้องเรียนอัจฉริยะ) ปีงบประมาณ 2554 และโครงการห้องเรียนคุณภาพสำหรับโรงเรียนในสังกัด อบจ.นครราชสีมา ปีงบประมาณ 2555 เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ ถูก สตง. ตรวจสอบพบปัญหาความไม่โปร่งใสในการดำเนินงานโครงการ และมีการส่งเรื่องให้หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ดำเนินคดีทางอาญาและทางแพ่ง กับนายกอบจ.นครราชสีมา และผู้เกี่ยวข้องไปแล้ว
ปรากฎข้อมูลรายละเอียดผลการตรวจสอบดังต่อไปนี้
จากการตรวจสอบโครงการพัฒนาโรงเรียนต้นแบบองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา สู่ความเป็นเลิศวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และด้านอื่นๆ (ห้องเรียนอัจฉริยะ) ปีงบประมาณ 2554 และโครงการห้องเรียนคุณภาพสำหรับโรงเรียนในสังกัด อบจ.นครราชสีมา ปีงบประมาณ 2555 จำนวน3 สัญญา พบข้อตรวจพบที่สำคัญ ดังนี้
1. กรณีการกำหนดราคากลางและการกำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ
ผลการตรวจสอบไม่พบเอกสารหลักฐานการสืบราคาของคณะกรรมการฯ ไม่มีรายละเอียดที่มาว่ามาจากการสืบจากท้องตลาดที่ซื้อขายทั่วไปหรือมาจากมาตรฐานครุภัณฑ์
โดยผู้ที่ได้รับคำสั่งแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการกำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะและประมาณราคากลาง ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ให้มาลงนามรับทราบคำสั่งและลงนามในเอกสารรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะและการกำหนดราคากลางที่ได้มีการจัดทำไว้แล้วที่กองการศึกษาฯ
จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2535 ข้อ 20 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2553 ข้อ 10 ตรี เนื่องจากไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับแต่งตั้งเป็นเพียงการลงนามในเอกสารที่มีการจัดทำรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะและกำหนดราคากลางไว้แล้ว
จากการตรวจสอบยังพบว่า อบจ.นครราชสีมา ได้จัดซื้อสินค้าตามราคากลางที่ได้มีการกำหนดไว้ ซึ่งมีราคาสูงกว่าราคาที่ซื้อขายทั่วไปในตลาดทางการค้า และสูงกว่าราคาที่ อบจ.นครราชสีมา จัดซื้อในเวลาใกล้เคียงกัน ซึ่งไม่มีแผนการจัดซื้อและไม่ได้ตั้งงบประมาณไว้
นายก อบจ.นครราชสีมา (ในขณะนั้น) จึงได้ให้นโยบายเจ้าหน้าที่งบประมาณหางบประมาณในการจัดซื้อครุภัณฑ์ตามโครงการดังกล่าว
โดยมีการโอนงบประมาณตามบัญชีโอนงินงบประมาณรายจ่ายในการจัดทำบัญชีโอนงินงบประมาณรายจ่ายดังกล่าว มีรายละเอียดการกำหนคุณลักษณะเฉพาะครุภัณฑ์ที่จะจัดซื้อไว้ในเอกสารการโอนงบประมาณ ซึ่งนายก อบจ.นครราชสีมา เป็นผู้นำเอกสารายละเอียดการกำหนดคุณลักษณะเฉพาะครุภัณฑ์มาให้เจ้าหน้าที่ลงในเอกสารการโอนงบประมาณเพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องกำหนดให้เป็นไปตามเอกสารนั้น
และกลุ่มผู้ประกอบการค้าที่เข้ายื่นเสนอราคามีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน
การเสนอราคาจึงเข้าข่ายเป็นการตกลงร่วมกันในการเสนอราคาเพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิ์ทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐโดยการหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมหรือโดยการเอาเปรียบแก่หน่วยงาน ของรัฐ อันมิใช่เป็นไปในทางการประกอบธุรกิจปกติตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 ทำให้ทางราชการได้รับความเสียหายเป็นจำนวนงินทั้งสิ้น 24.66 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในรายงานผลการตรวจสอบ สตง. ยังระบุด้วยว่า กรณีการส่งมอบและการตรวจรับพัสดุตามสัญญาซื้อขายจำนวน 3 สัญญาดังกล่าว ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการตรวจรับพัสดุไมได้ตรวจรับพัสดุให้ถูกต้องครบถ้วนแต่ตรวจรับพัสดุโดยดูจากเอกสารใบส่งสินค้าของบริษัทที่ส่งให้แต่โรงเรียนซึ่งมีของครบถ้วนตามใบส่งของ
ต่อมาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่พัสดุ ของกองการศึกษาฯ ให้ลงลายมือชื่อในเอกสารใบตรวจรับพัสดุที่กองการศึกษาฯ อบจ.นครราชสีมา
และจากการตรวจสอบสังเกตการณ์สภาพครุกัณฑ์ของจริงที่ติดตั้งใช้งานตามโรงเรียน พบว่า ครุภัณฑ์ ที่ส่งมอบไม่เป็นไปตามคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่ระบุตามสัญญาครุภัณฑ์ที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ คือ รายการสายสัญญาณพร้อมติดตั้งในสัญญาซื้อขายไม่ได้ระบุรายละเอียดรูปแบบของงานติดตั้ง ครุภัณฑ์ชำรุด ไม่มีให้ตรวจสอบ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2535 ข้อ 64
2. ผลการตรวจสอบและข้อเสนอแนะ
เบื้องต้น สตง. ได้แจ้งผลการตรวจสอบและข้อเสนอแนะให้หน่วยรับตรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการทางอาญากับ นายก อบจ. นครราชสีมา (ในขณะนั้น) ผู้อำนวยการกองการศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม เจ้าหน้าที่พัสดุกองการศึกษาและผู้เสนอราคาตามสัญญาดังกล่าว และให้ดำเนินการทางแพ่งกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง และหรือดำเนินการทางละเมิดกับนายก อบจ.นครราชสีมา และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาผู้รับผิดชอบให้มีการชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 2.26 ล้านบาท รวมทั้งให้ดำเนินการทางวินัยกับผู้อำนวยการกองการศึกษาศาสนาและวัฒนธรม เจ้าหน้าที่พัสดุกองการศึกษา คณะกรรมการกำหนดคุณลักษณะเฉพาะ และประมาณราคากลาง คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ
โดยในปัจจุบัน อบจ.นครราชสีมาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดและได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยกับข้าราชการผู้เกี่ยวข้องแล้ว
ทั้งหมดนี่ คือ บทสรุปการตรวจสอบความไม่โปร่งใส ในการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดิน เพื่อการดำเนินงานโครงการพัฒนาโรงเรียนต้นแบบองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครรชสีมา สู่ความเป็นเลิศวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และด้านอื่นๆ (ห้องเรียนอัจฉริยะ) ปีงบประมาณ 2554 และโครงการห้องเรียนคุณภาพสำหรับโรงเรียนในสังกัด อบจ.นครราชสีมา ปีงบประมาณ 2555 ของ สตง. ที่ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/