รายได้แสนล.!ธุรกิจปั๊มน้ำมัน-อสังหาฯ ‘รัชกิจประการ’ 10 แห่งทุน 1.5 หมื่นล.ก่อนคั่ว รมต.?
โพรไฟล์ธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิง-ขนส่งของเหลว-อสังหาริมทรัพย์ ‘รัชกิจประการ’ 10 แห่ง ทุน 1.5 หมื่นล้าน 5 บริษัทปั๊มน้ำมันกวาดรายได้ 1.1 แสนล้าน ‘นาที-พิพัฒน์’ คอนเนคชั่นลึกการเมืองกลุ่ม ‘เพื่อนเนวิน’ สามีคั่วเก้าอี้ รมว.ท่องเที่ยวฯ
ท่ามกลางฝุ่นตลบการจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 2/1 เกลี่ยเก้าอี้โควตารัฐมนตรีเสร็จเรียบร้อย เหลือแค่ไม่กี่คนที่ถูก ‘เพ่งเล็ง’ เรื่องปัญหาภาพลักษณ์-ถูกร้องเรียนในอดีต บางพรรคมีการปรับแก้ไขเปลี่ยนตัวบุคคล บางพรรคยังคงให้โควตาอยู่ แต่เอาญาติพี่น้องมานั่งเก้าอี้แทน เป็นต้น
โฟกัสไปที่พรรคภูมิใจไทย หนึ่งในตัวแปรสำคัญจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้ ได้โควตาเก้าอี้รัฐมนตรีอย่างน้อย 8 ที่นั่ง นอกเหนือจากเก้าอี้สำคัญ ๆ อย่าง รมว.คมนาคม รมช.เกษตรและสหกรณ์ แล้ว ยังได้โควตาระดับ ‘รัฐมนตรีว่าการ’ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ด้วย จากเดิมที่อยู่ภายใต้การจองของพรรคชื่อดังภาคกลางมาโดยตลอด
รายชื่อบุคคลที่ได้รับความไว้วางใจให้มานั่งเก้าอี้ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ หรือ ‘โกเกี๊ยะ’ เจ้าของอาณาจักรปั๊มน้ำมันรายใหญ่ระดับชาติอย่างเครือพีที สามีนางนาที รัชกิจประการ หรือ ‘เจ๊เปี๊ยะ’ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคภูมิใจไทย แม่ทัพใหญ่ดูแลงานเลือกตั้งภาคใต้ และประสบความสำเร็จหักโค่นวลีพรรคสีฟ้า ‘ส่งเสาไฟฟ้าลงก็ชนะ’ ได้ในหลายพื้นที่
มุมการเมือง ‘โกเกี๊ยะ-เจ๊เปี๊ยะ’ มีความสนิทสนมกับสกุล ‘ชิดชอบ’ มาตั้งแต่ทำธุรกิจน้ำมันร่วมกับกลุ่มนายวัฒนา อัศวเหม อดีตนักการเมืองชื่อดังเมืองปากน้ำ โดยช่วงปี 2550 นางนาที เป็นแม่ทัพนำพรรคพลังประชาชนสู้ศึกภาคใต้ฝั่งอันดามัน แม้แพ้เรียบ แต่ได้นั่งเก้าอี้เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร (นายชัย ชิดชอบ) หลังจากนั้นล่มหัวจมท้ายกับกลุ่ม ‘เพื่อนเนวิน’ เรื่อยมา และอยู่ภายใต้สังกัดพรรคภูมิใจไทยจนถึงปัจจุบัน
มาคราวนี้สร้างผลงานดี ภาคใต้ฝั่งอันดามัน ‘พรรคสีน้ำเงิน’ คว้าได้หลายเก้าอี้ จึงได้คั่วโควตา รมว.ท่องเที่ยวฯ ?
มุมธุรกิจ หลายคนอาจทราบกันดีอยู่แล้วว่า ‘โกเกี๊ยะ-พิพัฒน์’ และสกุล ‘รัชกิจประการ’ คือเจ้าของอาณาจักรปั๊มน้ำมันพีที และทำธุรกิจเกี่ยวกับการขนส่งทางเรือรายใหญ่ภาคใต้ฝั่งอันดามัน
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สืบค้นข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2562 พบรายละเอียด ดังนี้
@บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ 2 แห่ง ปั๊มน้ำมัน-ขนส่งสินค้าเหลว-เชื้อเพลิงทางเรือ รวมทุนปัจจุบันกว่า 1,928 ล้านบาท
1.บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เดิมก่อตั้งในชื่อบริษัท ภาคใต้เชื้อเพลิง จำกัด ตั้งแต่ปี 2531 ก่อนแปรสภาพเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เมื่อปี 2556 ทุนปัจจุบัน 1,670 ล้านบาท แจ้งประกอบธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิง ธุรกิจค้าปลีกแก๊ส LPG ภายใต้สถานีบริการน้ำมัน PT มีนายพิทักษ์ รัชกิจประการ หรือ ‘โกนั้ง’ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
มีบริษัท รัชกิจ โฮลดิ้ง จำกัด ธุรกิจครอบครัว ‘รัชกิจประการ’ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 25.12% นายพิทักษ์ รัชกิจประการ 2.5% นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ 2.37%
แจ้งงบการเงินล่าสุด ไตรมาสที่ 1/2562 มีรายได้รวม 28,732 ล้านบาท กำไรสุทธิ 519.7 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ในปี 2561 มีรายได้รวม 108,142 ล้านบาท กำไรสุทธิ 642.7 ล้านบาท
2.บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA เดิมชื่อบริษัท อาม่า มารีน จำกัด แปรสภาพเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2559 ทุนปัจจุบัน 258,958,386 บาท แจ้งประกอบธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าเหลว และน้ำมันเชื้อเพลิง ทางรถในประเทศ และทางเรือระหว่างประเทศ มีนายพิศาล รัชกิจประการ เป็นกรรมการผู้จัดการ
มีบริษัท รัชกิจ โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้นใหญ่สุด 25.12% บริษัท พีทีจี โลจิสติกส์ จำกัด ของคนสกุล ‘รัชกิจประการ’ ถือหุ้นรองลงมา 24% นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ 7.5% นายพิศาล รัชกิจประการ 2.59% และคนสกุลรัชกิจประการอีกหลายรายร่วมถือหุ้น
แจ้งงบการเงินล่าสุด ไตรมาสที่ 1/2562 รายได้รวม 430.11 ล้านบาท กำไรสุทธิ 12.46 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ในปี 2561 มีรายได้รวม 1,767.76 ล้านบาท กำไรสุทธิ 89.52 ล้านบาท
(ภาพนางนาที และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ, ภาพจาก คมชัดลึกออนไลน์)
@เครือข่ายธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิง-อสังหาริมทรัพย์ 8 แห่ง รวมทุนปัจจุบัน 1.3 หมื่นล้านบาท
หากนับเฉพาะบริษัทที่นายพิพัฒน์ เป็นกรรมการในปัจจุบันอย่างน้อย 3 แห่ง ได้แก่ บริษัท ซีเคไฟว์ เทรดดิ้ง จำกัด บริษัท พี แอนด์ ซี ปิโตรเลียม จำกัด บริษัท พี แอนด์ ซี กรุ๊ป จำกัด หากนับที่นายพิพัฒน์เข้าไปร่วมถือหุ้นอย่างน้อย 8 แห่ง ได้แก่ บริษัท ซีเคไฟว์ เทรดดิ้ง จำกัด บริษัท เคทีพี ปิโตรเลียม จำกัด บริษัท พี แอนด์ ซี ปิโตรเลียม จำกัด บริษัท พี แอนด์ ซี กรุ๊ป จำกัด บริษัท รัชกิจ คอร์โปเรชั่น จำกัด บริษัท รัชกิจ โฮลดิ้ง จำกัด บริษัท เอ็ม แอนด์ ซี มินิมาร์ท จำกัด และบริษัท จิตแก้ว จำกัด รวมทุนปัจจุบัน 13,687,200,450 บาท
หากไม่นับบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ มีอีกอย่างน้อย 3 แห่งที่สร้างรายได้หลักพันล้านบาทขึ้นไปให้แก่ตระกูล ‘รัชกิจประการ’ ได้แก่
บริษัท ซีเคไฟว์ เทรดดิ้ง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2543 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท แจ้งประกอบธุรกิจขายส่งน้ำมันเชื้อเพลิง มีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ นางฉัตรแก้ว คชเสนี และนางกชกรณ์ พิบูลธรรมศักดิ์ เป็นกรรมการ นางฉัตรแก้ว ถือหุ้นใหญ่ 28% ส่วนนายพิพัฒน์ ถือหุ้น 25%
เมื่อปี 2561 แจ้งรายได้รวม 3,140,162,376 บาท รายจ่ายรวม 3,130,641,104 บาท กำไรสุทธิ 3,622,669 บาท
บริษัท เคทีพี ปิโตรเลียม จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2539 ทุนปัจจุบัน 20 ล้านบาท แจ้งประกอบธุรกิจขายน้ำมันเชื้อเพลิง มีนางฉัตรแก้ว คชเสนี และนางกชกรณ์ พิบูลธรรมศักดิ์ เป็นกรรมการ บริษัท พี แอนด์ ซี ปิโตรเลียม จำกัด (ธุรกิจของสกุลรัชกิจประการ) ถือหุ้นใหญ่ 25% นายพิพัฒน์ ถือหุ้น 13.7%
เมื่อปี 2561 แจ้งรายได้รวม 3,101,189,243 บาท รายจ่ายรวม 3,086,834,837 บาท ค่าดอกเบี้ยจ่าย 17,016,936 บาท ขาดทุนสุทธิ 2,662,530 บาท
บริษัท พี แอนด์ ซี ปิโตรเลียม จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2536 ทุนปัจจุบัน 50 ล้านบาท แจ้งประกอบธุรกิจขายส่งน้ำมันเชื้อเพลิง มีนางฉัตรแก้ว คชเสนี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ นางกชกรณ์ พิบูลธรรมศักดิ์ เป็นกรรมการ
เมื่อปี 2560 แจ้งรายได้รวม 2,738,977,413 บาท รายจ่ายรวม 2,737,324,891 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 9,706,840 บาท ขาดทุนสุทธิ 8,054,317 บาท
หากนับรวมรายได้เฉพาะธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิงของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 2 แห่ง และบริษัทจำกัด 3 แห่ง มีรายได้ประมาณ 118,888 ล้านบาท
(ภาพนางนาที กับนายเนวิน ชิดชอบ, ภาพจาก คมชัดลึกออนไลน์)
ส่วนบริษัท พี แอนด์ ซี กรุ๊ป จำกัด ธุรกิจการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ จดทะเบียนเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2534 ทุนปัจจุบัน 300 ล้านบาท มีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ นางฉัตรแก้ว คชเสนี นางกชกรณ์ พิบูลธรรมศักดิ์ นายพิทักษ์ รัชกิจประการ น.ส.ภัคจิรา รัชกิจประการ เป็นกรรมการ
เมื่อปี 2560 แจ้งรายได้รวม 119,040,099 บาท รายจ่ายรวม 102,960,386 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 16,737,423 บาท ขาดทุนสุทธิ 657,710 บาท
ส่วน 2 บริษัทโฮลดิ้งที่ลงทุน-ถือหุ้นใหญ่บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ได้แก่ บริษัท รัชกิจ โฮลดิ้ง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2559 ทุนปัจจุบัน 12,952,200,450 บาท (ราว 1.29 หมื่นล้านบาท) มีนางฉัตรแก้ว คชเสนี นายชลัฐ รัชกิจประการ นางกชกรณ์ พิบูลธรรมศักดิ์ นายพิทักษ์ รัชกิจประการ น.ส.ภัคจิรา รัชกิจประการ น.ส.ชนัญชิกา รัชกิจประการ เป็นกรรมการ เมื่อปี 2561 แจ้งรายได้รวม 73,147,320 บาท รายจ่ายรวม 3,070,086 บาท กำไรสุทธิ 68,060,406 บาท
อีกแห่งบริษัท รัชกิจ คอร์โปเรชั่น จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2559 ทุนปัจจุบัน 361 ล้านบาท มีนางฉัตรแก้ว คชเสนี น.ส.ภัคจิรา รัชกิจประการ และนางกชกรณ์ พิบูลธรรมศักดิ์ เป็นกรรมการ เมื่อปี 2561 แจ้งรายได้รวม 4,048,413 บาท รายจ่ายรวม 2,542,155 บาท ขาดทุนสุทธิ 634,905 บาท
ส่วนนางนาที รัชกิจประการ เคยเป็นหุ้นส่วน หจก.ธามสคว็อต ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายนาฬิกา ทุน 1 ล้านบาท แต่เสร็จการชำระบัญชีไปแล้ว
นี่คือโพรไฟล์ด้านธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิง-อสังหาริมทรัพย์ เฉพาะของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ และครอบครัวใกล้ชิด ไม่นับรวมการนำบริษัทโฮลดิ้งไปถือหุ้นในธุรกิจอื่น ๆ ในตลาดหลักทรัพย์
ก่อนที่ ‘เจ๊เปี๊ยะ-นาที’ นั่งเก้าอี้ ส.ส. เป็นแม่ทัพใหญ่ภาคใต้พรรคภูมิใจไทย ส่วน ‘โกเกี๊ยะ-พิพัฒน์’ สามีคั่วเก้าอี้ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา อยู่ในขณะนี้!
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/