แกะรอยไฮโซฯแดง“ดารุณี กฤตบุญญาลัย”หลุดคดีล้มละลาย-เล่นละคร
แกะรอยธุรกิจ-ชีวิตโลดโผน“เจ๊ดา ดารุณี กฤตบุญญาลัย”คู่ปรับ“ออฟ-พงษ์พัฒน์”จากไฮโซฯ เครื่องเพชร แกนนำคนเสื้อแดงราชประสงค์ ธุรกิจล้มละลาย กระทั่งหวนคืนโลกมายายุคเพื่อไทยเรืองอำนาจ
ในขณะที่แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)หลายคนเข้าสู่อำนาจรัฐด้วยตำแหน่งทางการเมือง ไม่ว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ (อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ) นายยศวริศ ชูกล่อม (เจ๋ง ดอกจิกผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอารีย์ ไกรนารา ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ แม้กระทั่ง นายวิสา คัญคัพ ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ฯลฯ
ทว่า นางดารุณี กฤตบุญญาลัย อดีตไฮโซไซตี้ แกนนำแถวหลัง กลับเดินสู่โลกมายาด้วยบทนักแสดงละครทางฟรีทีวีอีกครั้งในช่วงเย็น
นางดารุณี และนายประกิจ กฤตบุญญาลัย สามี เคยทำธุรกิจขายเครื่องปรับอากาศ ในนาม หจก. พี.แอนด์.พี.เอ็นจิเนียริ่ง ก่อตั้งวันที่ 5 เมษายน 2516 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท (ศาลล้มละลายกลางได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2549 ให้ ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล พี.แอนด์.พี.เอ็นจิเนียริ่ง ล้มละลาย คดีหมายเลขแดงที่ 35822548 ) และ บริษัท สยาม เอ.อาร์.ไอ. จำกัด ก่อตั้งวันที่ 13 มกราคม 2526 ทุนจดทะเบียน 35 ล้านบาท (ศาลล้มละลายกลางได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2550 ให้ บริษัท สยาม เอ.อาร์.ไอ. จำกัด ล้มละลาย คดีหมายเลขแดงที่ 35822548)
กิจการขนส่งชื่อ บริษัท ไทย แอร์-คอน พาร์ทส์ จำกัด เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2536 ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท เลิกกิจการในปี 2544
กิจการขายอาหารร่วมกับ พล.ท.เจริญศักดิ์ เที่ยงธรรม ในชื่อ บริษัท ซุปเปอร์แฝด จำกัด ก่อตั้งวันที่ 23 พฤศจิกายน 2544 ทุนจดทะเบียน 6 แสนบาท เลิกกิจการปีใน 2547
ปัจจุบันกิจการแห่งเดียวที่เปิดดำเนินการ คือ บริษัท ซีเนเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ขายเครื่องปรับอากาศ ก่อตั้งวันที่ 9 พฤษภาคม 2522 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท แต่ไม่ได้ส่งงบการเงินหลายปีติดต่อกัน ข้อมูลตามที่ส่งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าล่าสุด ปี 2547 ระบุว่ามีรายได้ 24.1 ล้านบาท กำไรสุทธิ 7 แสนบาทเศษ สินทรัพย์ 38.1 ล้านบาท
ขณะที่นายไอยคุปต์ กฤตบุญญาลัย บุตรชาย เปิดร้านขายโทรศัพท์มือถือร่วมกับนายพานทองแท้ ชินวัตร ในชื่อ บริษัท มาสเตอร์โฟน จำกัด ก่อตั้งวันที่ 9 ธันวาคม 2546 ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท และ บริษัท ฮาวคัม เอวี จำกัด ก่อตั้งวันที่ 4 ตุลาคม 2547 ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท แต่เลิกกิจการแล้วทั้ง 2 แห่ง
ส่วนนางสาวธารนที บุตรสาว เป็นเจ้าของกิจการอาหารชื่อ บริษัท สวีทพาย จำกัด ก่อตั้งวันที่ 30 เมษายน 2550 ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท อยู่ในอาคารเพรสิเดนท์ ถนนสุขุมวิท เลิกกิจการ 20 สิงหาคม 2553 และบริษัท สวีท แอนด์ เซเวอรี่ จำกัด ขายอาหาร เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2552 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
เจ้าหนี้ของบริษัท “เจ๊ดา” คือ บริษัท เงินทุนบุคคลัภย์ จำกัด (มหาชน) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลางขอให้ลูกหนี้ล้มละลายและศาลได้มีคำสั่งลงวันที่ 14 กันยายน 2548 ให้พิทักษ์ทรัพย์ ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล พี.แอนด์.พี.เอ็นจิเนียริ่ง ที่ 1 นายประกิจ กฤตบุญญาลัย ที่ 2 นางดารุณี กฤตบุญญาลัยที่ 3 บริษัท สยาม เอ.อาร์.ไอ. จำกัด ที่ 4 นางสาววิรุฬกานต์ กฤตบุญญาลัย ที่ 5 นางสาวธารนที กฤตบุญญาลัย ที่ 6 ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พุทธศักราช 2483
ต่อมาถูกปลดจากลูกหนี้ล้มละละลาย ตามประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์นับแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2552 แต่เพิ่งลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 19 ม.ค.2553
“เจ๊ดา”ตัดสินใจเข้าร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองกับคนเสื้อแดงมาตั้งแต่ปี 2552 เคยลับฝีปากกับ “ออฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง” กรณี“คนไม่รักในหลวงให้ออกจากบ้าน”(ออฟประกาศบนเวทีรับรางวัลทางสถานีทีวี)ว่า คนเสื้อแดงชุมนุมอย่างสันติ อหิงสา
กระทั่งถูกศาลออกหมายจับฐานฝ่าฝืนประกาศตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพร้อมพรรคพวก 17 คน เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2553 ต่อมาถูกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ห้ามทำธุรกรรมทางการเงินพร้อมบุคคลและนิติบุคคลอื่น รวม 106 ราย ( คำสั่งที่ 49/2553) เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2553
เมื่อแดงพ่าย แกนนำเข้ามอบตัว กลางดึกวันที่ 18 พฤษภาคม 2553 ถึงเช้ามืดวันที่ 19 พฤษภาคม ไม่มีใครเห็นเงาเธออยู่นั่น มีข่าวว่าเธอหลบหนีไปกัมพูชา ต่อมาเดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอหลังพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล
ในช่วงปลายเดือนมีนาคมก่อนมีข่าวระบุว่าประสบอุบัติเหตุ ตกบันได 11 ขั้น ในบ้านพักที่ชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างการทัวร์เดี่ยวไมโครโฟนสู้ไปสวยไป และเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงในอเมริกาจนศีรษะแตกหมดสติ
หลังจากนั้นมาปรากฏตัวด้วยบทนักร้องนำ บนเวทีรำลึก 2 ปี 19 พ.ค. 2555
กระทั่งกลับมารับบท“นักแสดง”ผ่านจอทีวีอีกครั้ง