สถานเอกอัครราชทูตไทยและเอสซีจี จัดโครงการรักษาสุขภาพฟันให้แก่พระสงฆ์และสามเณร
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ เวียงจันทน์ สปป. ลาว ร่วมกับ เอสซีจี ที่ดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในภูมิภาคอาเซียน พร้อมผู้ประกอบการไทยใน สปป. ลาว ร่วมกันจัดกิจกรรมตรวจสุขภาพและรักษาฟันให้แก่พระสงฆ์และสามเณร 999 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ประจำปีพุทธศักราช 2562 โดยมีคณะทันตแพทย์ จากหน่วยทันตกรรมพระราชทาน คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมเจ้าหน้าที่สนับสนุน รวมกว่า 70 คน มาให้บริการในวันที่ 5 และ 6 มิถุนายน 2562 ณ วัดองค์ตื้อมหาวิหาร นครหลวงเวียงจันทน์ สปป. ลาว
นายเกียรติคุณ ชาติประเสริฐ เอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ กล่าวว่า การบริการทันตกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นเนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 และวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ประจำปีพุทธศักราช 2562 โดยเป็นความร่วมมือระหว่างสถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และวิทยาลัยสงฆ์องค์ตื้อ วัดองค์ตื้อมหาวิหาร และนับเป็นครั้งแรกที่มีการออกหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ของไทยถวายแด่พระสงฆ์และสามเณรลาว และยังเป็นการส่งเสริมความร่วมมือด้านสาธารณสุขไทย – ลาว รวมทั้งการทำบุญทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ในโอกาสนี้ นายเกียรติคุณฯ ได้ขอบคุณภาคเอกชนไทย – ลาว และผู้มีจิตศรัทธาชาวไทยใน สปป. ลาวและชาวลาวที่ให้การสนับสนุนโครงการดี ๆ ในครั้งนี้
นายนิธิ ภัทรโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี กล่าวว่า “เอสซีจีเล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะการส่งเสริมสุขภาพที่ดีเพื่อเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต และเพื่อนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งด้านสังคม และวัฒนธรรม จึงจัดกิจกรรมครั้งนี้ขึ้น เพื่อช่วยลดปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นแก่พระสงฆ์ ให้พระสงฆ์สามารถปฏิบัติกิจ และสืบสอดพุทธศาสนาต่อไปได้อย่างยั่งยืน”
นายนิธิ กล่าวย้ำว่า กิจกรรมครั้งนี้ เกิดขึ้นได้ด้วยความร่วมมือของหลายฝ่าย โดยยินดีที่ได้เห็นทุกคนร่วมเป็นจิตอาสา ทำความดีตามแนวพระราชดำริฯ มีความสมัครสมานสามัคคี ร่วมแรง ร่วมใจประกอบกิจกรรมสาธารณประโยชน์เพื่อส่วนรวม โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน และยังได้ชักชวนนักเรียนทุนระดับมหาวิทยาลัยจากโครงการ SCG Sharing the Dream มาเป็นอาสาสมัครร่วมกิจกรรมอีกด้วย นอกจากนี้ เอสซีจีต้องขอขอบคุณพระอาจารย์ใหญ่ ดร.พวงประเสริฐ พูมมาวง ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์องค์ตื้อ และเจ้าอาวาสวัดองค์ตื้อมหาวิหาร ที่อนุญาตให้ใช้สถานที่ของวัดและอำนวยความสะดวกในการจัดกิจกรรม อีกทั้งภาครัฐและภาคเอกชนของ สปป.ลาว ที่มีส่วนร่วมให้โครงการนี้ดำเนินได้อย่างราบรื่น
ทั้งนี้ เอสซีจี ได้มอบเงินจำนวน 850,000 บาท เพื่อเป็นค่าอุปกรณ์การแพทย์และการดำเนินงานในการจัดกิจกรรม และคาดว่าจะมีพระภิกษุสงฆ์และสามเณรจากทั่วนครหลวงเวียงจันทน์ เดินทางมารับบริการรักษาทางทันตกรรม รวม 999 รูป ซึ่ง เอสซีจี หวังว่าผลสำเร็จจากความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้ภาคเอกชนไทยร่วมมือกันจัดกิจกรรมเพื่อสังคม สปป.ลาว ในด้านต่างๆ เพิ่มขึ้นต่อไป