เครื่องเคียงปมแย่งโควตา รมต.? ชำแหละงบ ก.เกษตรฯ ปี’62 แสนล.-กรมชลฯอู้ฟู่สุด
“…ข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2562 ระบุว่า ปัจจุบันกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำหนดวงเงินงบประมาณ 108,996 ล้านบาทเศษ คำนวณเป็นค่าใช้จ่ายประจำ 43,050 ล้านบาทเศษ หรือ 39.50% และรายจ่ายจากการลงทุนในโครงการต่าง ๆ 65,946 ล้านบาทเศษ คิดเป็น 60.50% …”
การต่อรองจัดตั้งรัฐบาล ณ เวลานี้ (วันที่ 1 มิ.ย. 2562) งวดเข้าไปทุกขณะ และในห้วงที่ผ่านมาคงเห็นภาพค่อนข้างชัดเจแล้วว่า รัฐบาลสมัยหน้า นำโดยพรรคพลังประชารัฐ ร่วมกับพรรคอื่นรวม 20 พรรค ขณะที่อีก 7 พรรค ที่นำโดยพรรคเพื่อไทย และอนาคตใหม่ ไปนั่งเป็นฝ่ายค้าน
ความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลขณะนี้ เหลือเพียงแค่การ ‘ดีลโควตารัฐมนตรี’ ระหว่าง พรรคพลังประชารัฐ และพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะ ‘เก้าอี้ร้อน’ อย่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เป็นประเด็นยืดเยื้อกันมาหลายวัน
เนื่องจากฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์ ต้องการเพื่อไปผลักดันนโยบายผลผลิตสินค้าทางการเกษตร ขณะที่ ‘กลุ่มสามมิตร’ ในพรรคพลังประชารัฐต้องการเก็บเก้าอี้ตัวนี้ไว้ เนื่องจากในช่วงก่อนเลือกตั้งได้หาเสียงตามนโยบาย ‘โคบาลประชารัฐ’ ต่อยอดนโยบายพลังประชารัฐของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
โดยเฉพาะความเอาจริงจังของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร และแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ที่แถลงข่าวยืนยันต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2562 ที่ผ่านมา ต้องการโควตาระดับ ‘รัฐมนตรีว่าการ’ กระทรวงเกษตรฯ ไม่ใช่แค่ ‘รัฐมนตรีช่วยว่าการ’
ไม่ว่าปัจจัยทางการเมืองอะไรทำให้ กระทรวงเกษตรฯ ถึงกลายเป็นที่จับจองของพรรคการเมืองระดับชาติขนาดนี้ ?
แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า กระทรวงเกษตรฯ คือกระทรวง 'เกรด A' โดยเฉพาะในปี 2562 ได้รับงบประมาณเกินหลัก 1 แสนล้านบาทด้วย
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณ และด้านการจัดซื้อจัดจ้างของกระทรวงเกษตรฯ มานำเสนอ ดังนี้
ตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2562 แจกแจงงบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เบื้องต้น 25,476,695,800 บาท หรือราว 2.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น
กรมชลประทาน ได้งบเยอะสุด 6,481,921,000 บาท รองลงมาเป็น กรมส่งเสริมการเกษตร 4,007,247,500 บาท กรมปศุสัตว์ 3,448,509,000 บาท กรมประมง 2,232,494,300 บาท กรมวิชาการเกษตร 2,186,032,800 บาท กรมส่งเสริมสหกรณ์ 1,826,323,700 บาท กรมพัฒนาที่ดิน 1,091,528,100 บาท
ส่วนงบประมาณต่ำกว่าพันล้านบาท แต่อยู่ในหลักร้อยล้านบาท ได้แก่ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ 837,217,800 บาท สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม 801,298,800 บาท กรมการข้าว 757,365,100 บาท สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรฯ 741,340,000 บาท สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร 354,779,700 บาท กรมหม่อนไหม 287,788,900 บาท กรมฝนหลวงและการบินเกษตร 213,596,700 บาท
ที่เหลือเป็นสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตร และอาหารแห่งชาติ 89,853,600 บาท สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) 80,821,200 บาท และสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) 38,577,600 บาท
อย่างไรก็ดีหากนับรวมงบประมาณเสริมด้านอื่น ๆ กระทรวงเกษตรฯ และหน่วยงานภายใน จะมีงบประมาณในปี 2562 รวมทั้งสิ้น 108,996 ล้านบาทเศษ
ข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2562 ระบุว่า ปัจจุบันกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำหนดวงเงินงบประมาณ 108,996 ล้านบาทเศษ คำนวณเป็นค่าใช้จ่ายประจำ 43,050 ล้านบาทเศษ หรือ 39.50% และรายจ่ายจากการลงทุนในโครงการต่าง ๆ 65,946 ล้านบาทเศษ คิดเป็น 60.50%
ในปี 2562 เบิกจ่ายงบประมาณไปแล้ว 48,667,332,386 บาท หรือ 44.65% คงเหลือ 60,329,568,413 บาท คิดเป็น 55.35% โดยผลจากการเบิกจ่ายงบประมาณ เป็นรายจ่ายประจำ 24,008 ล้านบาทเศษ หรือ 49.33% และรายจ่ายจากการลงทุนโครงการต่าง ๆ 24,659 ล้านบาทเศษ คิดเป็น 50.67%
หากชำแหละวงเงินงบประมาณ แบ่งแยกตามรายจ่าย มี 5 ด้านหลัก ๆ ได้แก่
1.งบลงทุนโครงการต่าง ๆ เยอะที่สุด 65,676 ล้านบาทเศษ คิดเป็น 60.26%
2.งบบุคลากร 24,739 ล้านบาทเศษ คิดเป็น 22.70%
3.งบดำเนินงาน 14,596 ล้านบาทเศษ คิดเป็น 13.39%
4.งบอุดหนุน 2,979 ล้านบาทเศษ คิดเป็น 2.73%
5.รายจ่ายอื่น 1,005 ล้านบาทเศษ คิดเป็น 0.92%
สำหรับหน่วยงานภายในกระทรวงเกษตรฯ ที่ได้รับงบประมาณมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่
1.กรมชลประทาน 66,472.19 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 26,128.38 ล้านบาท
2.กรมส่งเสริมการเกษตร 6,317.49 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 3,276.83 ล้านบาท
3.กรมปศุสัตว์ 6,203.22 ล้านบาท
4.กรมพัฒนาที่ดิน 5,678.70 ล้านบาท
5.กรมวิชาการเกษตร 4,102.83 ล้านบาท
6.กรมประมง 4,093.65 ล้านบาท
7.กรมการข้าว 3,091.30 ล้านบาท
8.กรมส่งเสริมสหกรณ์ 3,042.69 ล้านบาท
9.กรมฝนหลวงและการบินเกษตร 2,224.42 ล้านบาท
10.สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม 1,923.02 ล้านบาท
นี่เป็นเพียงแค่เกร็ดข้อมูลด้านวงเงินงบประมาณของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เฉพาะในปี 2562 เท่านั้น ไม่นับรวมในอดีตที่ผ่านมา อาจสะท้อนบางมุมได้ว่า ทำไมเก้าอี้กระทรวงเกษตรฯ จึงถูกยเป็น ‘เกรด A’ และโดนแย่งกันตาเป็นมันขนาดนี้
ท้ายที่สุดใครจะได้โควตานี้ไประหว่างพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคพลังประชารัฐ ต้องรอดูอย่ากระพริบตา!
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/