พฤติการณ์ นายช่างรังวัด4 โดนคุก15 ปี! ปลอมโฉนดที่ราชพัสดุกองทัพอากาศ-เรียกเงินฉบับละ7พัน
"...นายไพโรจน์ หรือรามเดช อุมาพร เรียกเงินจากนาง ส. เป็นค่าดำเนินการออกโฉนดที่ดิน จำนวน 5,000 บาท และเป็นค่าใช้จ่ายในการรังวัดออกโฉนดที่ดินจำนวน 2,000 บาท รวมเป็นเงิน 7,000 บาท นาง ส. มอบเงิน 7,000 บาท ให้แก่ นายไพโรจน์ หรือรามเดช อุมาพร แล้วจึงมีการออกโฉนดที่ดิน เลขที่ 16401 มีชื่อนาง ส. เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ อันเป็นการกระทำโดยมิชอบด้วยหน้าที่...."
"นายไพโรจน์ หรือ รามเดช อุมาพร มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และ 157 ลงโทษตามมาตรา 91 ฐานเรียกรับทรัพย์สินจำคุก กระทงละ 5 ปี รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 10 ปี และฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จำคุกอีก 5 ปี รวมโทษจำคุก 15 ปี"
คือ ผลคำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ที่สั่งจำคุก 15 ปี นายไพโรจน์ หรือรามเดช อุมาพร ขณะดำรงตำแหน่งช่างรังวัด 4 สำนักมาตรฐานการออก หนังสือสำคัญ กรมที่ดิน ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตามโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินและสอบเขตที่ดินทั้งตำบล โดยสำนักงานที่ดินจังหวัดและสำนักงานที่ดินจังหวัดสาขา ปีงบประมาณ พ.ศ.2546 ในคดีออกโฉนดที่ดินทับที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน หรือ ที่ราชพัสดุ ในเขตปฏิรูปที่ดินและเขตหวงห้ามที่ดิน โดยมิชอบ จังหวัดลพบุรี ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบ มาตรา 83 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2557 ที่ผ่านมา ที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบกันไปแล้ว (อ่านประกอบ : คุก15 ปี! นายช่างรังวัด 4 ออกโฉนดทับที่ราชพัสดุ ลพบุรี-โทษหนักเรียกรับทรัพย์สิน 2 กระทง)
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบรายละเอียดคำพิพากษา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ในคดีนี้ เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2561 พบว่า มีการระบุข้อมูลพฤติการณ์การกระทำความผิดของ นายไพโรจน์ หรือรามเดช อุมาพร ในคำร้องฟ้องคดีไว้ ดังนี้
@ ทำโฉนดที่ดินปลอมขึ้นทั้งฉบับ
เมื่อระหว่างวันที่ 12 พฤษภาคม 2546 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 10 ตุลาคม 2596 เวลากลางวันต่อเนื่องกันตลอดมา นายไพโรจน์ หรือรามเดช อุมาพร พร้อมจำเลยอีกราย ร่วมกันออกโฉนดที่ดิน เลขที่ 16801 เลขที่ 16406 และเลขที่ 17226 ตำบลโคกสลุง อำเกอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ในเขตที่ราชพัสดุที่กองทัพอากาศใช้เป็นสนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศ โดยฝ่าฝืนระเบียบและกฎหมายด้วยการร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
กล่าวคือ นายไพโรจน์ หรือรามเดช อุมาพร พร้อมจำเลยอีกราย ร่วมกันเบิกแบบพิมพ์โฉนดที่ดิน หมายเลข 46-012663 หมายเลข 46-012664 และหมายเลข 46-455961 โดยจำเลยรายหนึ่ง เป็นผู้อนุมัติให้เบิกแบบพิมพ์
เมื่อนายไพโรจน์ หรือรามเดช อุมาพร ได้รับแบบพิมพ์ดังกล่าวแล้วอาศัยโอกาสที่ตนเอง เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร กรอกข้อความลงในเอกสารหรือดูแลรักษาเอกสาร ทำโฉนดที่ดินปลอมขึ้นทั้งฉบับ
โดยใช้แบบพิมพ์โฉนดที่ดิน หมายเลข 46-012663 ออกโฉนดที่ดิน เลขที่ 16801 มีชื่อ นาง ส. (ตัวย่อ) เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ออกเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2546
ใช้แบบพิมพ์โฉนดที่ดิน หมายเลข 46 -012664 ออกโฉนดที่ดิน เลขที่ 16802 มีชื่อนาง บ. เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ออกเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2546
โดยปลอมลายมือชื่อของ นางสาว ล. (เจ้าหน้าที่) ในช่องผู้ตรวจ ใช้ตรายางซึ่งแกะเป็นลายมือชื่อ ของนาย ธ. (เจ้าหน้าที่) ประทับในช่องผู้ตรวจแผ่นที่ ใช้ตรายางซึ่งแกะเป็นลายมือซื่อของนาย ส. (เจ้าหน้าที่) ประทับในช่องหัวหน้าการ และใช้ตราประทับเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดลพบุรี ปลอมประทับลงในโฉนดที่ดินดังกล่าว
และใช้แบบพิมพ์โฉนดที่ดิน หมายเลข 46-455461 ออกโฉนดที่ดิน เลขที่ 17066 มีชื่อนาย อ. เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ออกเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2546 โดยปลอมลายมือชื่อนางสาว ก. (เจ้าหน้าที่) ในช่องผู้ทาน ปลอมลายมือชื่อของ นางสาว ล. (เจ้าหน้าที่) ในช่องผู้ตรวจ ปลอมลายมือซื่อของนาย ธ. (เจ้าหน้าที่) ในช่องผู้ตรวจแผนที่ ปลอมลายมือชื่อของนาย ส. (เจ้าหน้าที่) ในช่องหัวหน้าการ และใช้ตราประทับเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดลพบุรีปลอมประทับลงในโฉนดที่ดินดังกล่าว
ทั้งนี้ในการออกโฉนดที่ดินทั้ง 3 ฉบับดังกล่าว นายไพโรจน์ หรือรามเดช อุมาพร และ นาย อ. เป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 8 ตำบลโคกสลุง รู้อยู่แล้วว่า ตำแหน่งที่ดินที่ออกโฉนดที่ดินทั้งสามแปลงดังกล่าวอยู่ในเขตที่ราชพัสดุที่กองทัพอากาศใช้เป็นสนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศเป็นที่สงวนหวงห้าม ซึ่งต้องห้ามมิให้ออกโฉนดที่ดินตามพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.20497 แต่ นายไพโรจน์ หรือรามเดช อุมาพร และนาย อ. ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยไม่ได้รังวัดสอบสวนสิทธิตามระเบียบกฎหมาย
เมื่อ นายไพโรจน์ หรือรามเดช อุมาพร ดำเนินการออกโฉนดที่ดินเสร็จแล้ว ได้รายงานตามบันทึกการส่งมอบงานว่า ตนส่งมอบโฉนดที่ดินทั้งสามฉบับดังกล่าว และเรื่องราวการออกโฉนดที่ดินให้แก่สำนักงานที่ดินจังหวัดลพบุรีแล้ว
โดยมีจำเลยอีกราย เป็นผู้ลงนามรับมอบ ซึ่งเป็นความเท็จ ความจริงแล้ว นายไพโรจน์ หรือรามเดช อุมาพร ไม่ได้ส่งมอบโฉนดที่ดินและเรื่องราวการออกโฉนดที่ดินทั้งสามฉบับดังกล่าวแต่อย่างใด
@ เรียกค่าดำเนินการ-ค่าใช้จ่ายฉบับละ 7,000 บ.
ศาลพิพากษายังระบุด้วยว่า เมื่อระหว่างวันที่ 12 พฤษภาคม 2546 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 10 ตุลาคม 2546 เวลากลางวัน วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด นายไพโรจน์ หรือรามเดช อุมาพร เรียกเงินจากนาง ส. เป็นค่าดำเนินการออกโฉนดที่ดิน จำนวน 5,000 บาท และเป็นค่าใช้จ่ายในการรังวัดออกโฉนดที่ดินจำนวน 2,000 บาท รวมเป็นเงิน 7,000 บาท
นาง ส. มอบเงิน 7,000 บาท ให้แก่ นายไพโรจน์ หรือรามเดช อุมาพร แล้วจึงมีการออกโฉนดที่ดิน เลขที่ 16401 มีชื่อนาง ส. เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ อันเป็นการกระทำโดยมิชอบด้วยหน้าที่
ขณะที่ เมื่อระหว่างวันที่ 10 พฤษภาคม 2546 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 10 ตุลาคม 2546 เวลากลางวัน วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด นายไพโรจน์ หรือรามเดช อุมาพร เรียกเงินจากนาง บ. เป็นค่าดำเนินการออกโฉนดที่ดิน จำนวน 5,000 บาท และเป็นค่าใช้จ่ายในการรังวัดออกโฉนดที่ดิน จำนวน 2,000 บาท รวมเป็นเงิน 7,000 บาท
นาง บ. มอบเงิน 7,000 บาท ให้แก่ นายไพโรจน์ หรือรามเดช อุมาพร แล้วจึงมีการออกโฉนดที่ดิน เลขที่ 16802 มีชื่อนาง บ. เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ อันเป็นการกระทำโดยมิชอบด้วยหน้าที่
นอกจากนี้ มีการระบุข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2596 เวลากลางวัน จำเลยรายหนึ่ง ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยลงชื่อ รับรองในบันทึกการส่งมอบงานออกโฉนดที่ดินระหว่าง นายไพโรจน์ หรือรามเดช อุมาพร และจำเลยอีกราย ว่า ได้รับมอบโฉนดที่ดิน และเรื่องราวการออกโฉนดที่ดินที่ นายไพโรจน์ หรือรามเดช อุมาพร เบิกแบบพิมพ์โฉนดที่ดินไปดำเนินการคืนให้แก่สำนักงานที่ดินจังหวัดลพบุรีไว้ถูกต้องครบถ้วนแล้วซึ่งเป็นความเท็จ
ความจริงแล้ว นายไพโรจน์ หรือรามเดช อุมาพร ไม่ได้ส่งมอบโฉนดที่ดินและเรื่องราวการออกโฉนดที่ดินดังกล่าวให้แก่สำนักงานที่ดินจังหวัดลพบุรีแต่อย่างใดเป็นเหตุให้นายไพโรจน์ หรือรามเดช อุมาพร นำแบบพิมพ์โฉนดที่ดิน ไปทำปลอมโฉนดที่ดิน เลขที่ 16801 ให้แก่นาง ส. ปลอมโฉนดที่ดิน เลขที่ 16802 ให้แก่นาง บ. และปลอมโฉนดที่ดิน เลขที่ 17026 ให้แก่นาย อ. เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่กองทัพอากาศ กรมที่ดิน และทางราชการ
และเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2547 เวลากลางวัน จำเลยรายหนึ่ง จดทะเบียนนิติกรรมจำนองที่ดินตามโฉนดที่ดิน เลขที่ 17226 ให้แก่นาย อ. ที่จำนองไว้แก่ธนาคารออมสินเป็นเงิน 1,500,000 บาท
โดยจำเลยรายนี้ รู้อยู่แล้วว่าที่ดินตังกล่าวอยู่ในเขตที่ราชพัสดุที่กองทัพอากาศใช้เป็นสนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศ ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิให้แก่บุคคลผู้อ้างการครอบครองได้ และไม่สามารถจดทะเบียนนิติกรรมจำนองได้ การกระทำของจำเลยรายนี้ เป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ธนาคารออมสินและเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตทำให้นาย อ. ได้เงินจำนวน 1,500,000 บาท จากธนาคารออมสินด้วย
ทั้งนี้ เหตุตามฟ้องทั้งหมดเกิดที่ตำบลโคกสลุง และตำบลพัฒนานิคม อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี และตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี เกี่ยวพันกัน
อนึ่งก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า ในการพิจารณาคดีนี้ ศาลฯ พิพากษายกฟ้องคดี จำเลยบางราย เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอที่จะชี้ว่า มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำความผิดด้วย
ขณะที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2561 มีมติขอความอนุเคราะห์มายังอัยการสูงสูดเพื่อพิจารณาอุทธรณ์คำพิพากษาของ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ต่อไป
ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไร ต้องรอติดตามดูกันต่อไป
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
หมายเหตุ : ภาพเจ้าหน้าที่รังวัดที่ดินจาก ช่องยูทูป Saichon Yodmalai ไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีแต่อย่างใด