ผู้ช่วยผู้ว่าการแบงก์ชาติ ชี้สงครามการค้าสหรัฐ-จีน กระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ 3 ด้าน
สถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐ-จีน โดยรวมเป็นผลเสียต่อเศรษฐกิจ ตลาดการเงินโลก 'จันทวรรณ สุจริตกุล' ชี้ให้เฝ้าระวัง เรื่องการระบายสินค้าที่ส่งไปขายไม่ได้ในระหว่างคู่ค้าหลักเข้ามาทุ่มในตลาดในไทย แนะให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง
วันที่ 14 พ.ค. 62 นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐกับจีนโดยรวมเป็นผลเสียมากกว่าผลดีต่อเศรษฐกิจและตลาดการเงินโลก เนื่องจากจะกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจใน 3 ด้าน ได้แก่
(1) การชะลอตัวของการค้าโลก จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่มีความเชื่อมโยงกับต่างประเทศสูงรวมทั้งไทย ทั้งด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว
(2) ด้านการค้า (Trade Diversion) ผลกระทบจะมีทั้งด้านบวกและด้านลบในแต่ละอุตสาหกรรม เช่น สินค้าไทยที่ส่งไปประกอบในจีนและเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่การผลิตที่ส่งต่อไปยังตลาดสหรัฐฯ จะได้รับผลกระทบ แต่ขณะเดียวกันสินค้าที่ได้รับประโยชน์จะเป็นกลุ่มที่สามารถส่งไปยังตลาดสหรัฐฯ เพื่อทดแทนสินค้าจากจีน (Substitution Effect)
(3) ด้านการลงทุน (Investment Diversion) อาจจะมีการย้ายฐานการผลิตมายังอาเซียนและไทย เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบแหล่งกำเนิดสินค้า ซึ่งการลงทุนอาจใช้เวลาในบางอุตสาหกรรมเพื่อวางแผนการย้ายกระบวนการผลิต
นางจันทวรรณ กล่าวว่า โดยรวมแล้ว สงครามการค้ากระทบต่อบรรยากาศการค้าและการลงทุนที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง จึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยสิ่งที่ต้องเฝ้าระวัง คือ เรื่องการระบายสินค้าที่ส่งไปขายไม่ได้ในระหว่างคู่ค้าหลักเข้ามาทุ่มในตลาดประเทศที่สามอย่างไทย และควรให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ธปท. จะมีการประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ในการประชุม กนง. เดือน มิ.ย. นี้ต่อไป