บันทึกพฤษภาฯ ณ ปัตตานี

ต้นเดือนพฤษภาคมปีนี้ ตัวเมืองปัตตานีมีสีสันมากเป็นพิเศษ เพราะมีกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติและถวายราชสดุดีเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ที่ปวงชนชาวไทยล้วนปลื้มปีติ 

ขณะเดียวกันยังเป็นช่วงเริ่มต้นของเดือนรอมฎอน เดือนแห่งการถือศีลอดซึ่งถือเป็นเดือนแห่งบุญของพี่น้องมุสลิมด้วย

เทศบาลเมืองปัตตานี โดย นายพิทักษ์ ก่อเกียรติพิทักษ์ นายกเทศมนตรี ได้มอบหมายให้สำนักการช่างของเทศบาล ตกแต่งไฟประดับอย่างสวยงามบริเวณริมฝั่งแม่น้ำปัตตานีและถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาล เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 โดยมีประชาชนให้ความสนใจไปร่วมชมและถ่ายภาพเป็นที่ระลึกเป็นจำนวนมาก

ขณะเดียวกันก็ประดับไฟต่อเนื่องเพื่อเฉลิมฉลองและสร้างความรู้สึกอุ่นใจในช่วงเดือนรอมฎอนที่พี่น้องมุสลิมต้องออกปฏิบัติศาสนกิจในยามค่ำคืน

วันที่ 1 ของเดือนรอมฎอนเริ่มตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา ช่วงกลางวัน พี่น้องมุสลิมในปัตตานีจะไปจับจ่ายซื้ออาหารเพื่อเตรียมไว้ละศีลอดตามตลาดต่างๆ เช่นตลาดจะบังติกอ ตลาดปากน้ำ ตลาดสาย ม.อ. และตามจุดขายอาหารทั่วไปในตัวเมือง

ตลาดจะบังติกอ ถนนยะรัง ซอย 6 เป็นย่านชุมชนเก่าแก่ของเมืองปัตตานี เปิดขายอาหารทั้งคาวหวานหลากหลายประเภทให้เลือกซื้อกันตลอดทั้งเดือนรอมฎอน ตลาดเริ่มเปิดช่วงบ่าย 2 โมง ขายยาวไปถึง 6 โมงเย็น ไม่เพียงเเต่พี่น้องมุสลิมเท่านั้นที่ไปซื้ออาหาร แต่ยังมีพี่น้องไทยทุกศาสนิกไปร่วมช้อปด้วยเช่นกัน ทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ช่วงนี้คึกคักเป็นพิเศษ

การถือศีลอดของพี่น้องมุสลิมเป็นศาสนกิจที่ทำเป็นประจำทุกปีเมื่อเข้าเดือน 9 หรือเดือนรอมฎอนตามปฏิทินอิสลาม โดยผู้ถือศีลต้องไม่รับประทานอาหารตั้งแต่รุ่งอรุณจนถึงตะวันลับขอบฝ้า จากนั้นผู้ถือบวชจึงจะสามารถรับประทานอาหารได้ ทำให้บรรยากาศการเดินจ่ายตลาดช่วงบ่ายถึงเย็นคึกคักเป็นพิเศษกว่าเดือนทั่วไป เพราะมุสลิมที่ชายแดนใต้ส่วนใหญ่ยังนิยมปรุงอาหารเองที่บ้าน หรือไม่ก็จับจ่ายซื้อกับข้าวที่ปรุงสุกเสร็จเรียบร้อย แต่นำกลับไปทานร่วมกันที่บ้าน

ทำให้บรรยากาศช่วงเย็น โดยเฉพาะ 2 ชั่วโมงใกล้จะถึงเวลาละศีลอด จะมีผู้ถือศีลอดออกมาจ่ายตลาดเพื่อซื้อกับข้าว ขนมหวาน เครื่องดื่มเป็นจำนวนมาก ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าก็วางจำหน่ายอาหารคาวหวานหลากหลายเมนู ทั้งเมนูมลายู ไทย อาหรับ เกาหลี แม้กระทั่งเมนูอาหารญี่ปุ่นก็มีวางขาย ถือเป็นอีกหนึ่งสีสันของเดือนรอมฎอน

หลังละศีลอด มุสลิมทั้งชายหญิงก็จะหอบลูกจูงหลานไปร่วมละมาดตะรอเวียะฮ์ที่มัสยิดใกล้บ้าน...

การละหมาดตะรอเวียะฮ์ เป็นการปฏิบัติศาสนกิจของมุสลิมในห้วงเดือนรอมฎอน ซึ่งจะมีเฉพาะเดือนนี้เท่านั้น เป็นการละหมาดใหญ่หลังจากละศีลอดเมื่อสิ้นแสงตะวันในแต่ละวัน เริ่มตั้งแต่คืนที่ 1 ของเดือนรอมฎอนไปจนถึงคืนที่ 30

ทุกๆ ปีพี่น้องมุสลิมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทั้งหญิงและชายจะไปร่วมละหมาดตะรอเวียะฮ์กันอย่างเนืองแน่นเกือบทุกมัสยิด โดยเฉพาะที่มัสยิดกลางของแต่ละจังหวัด เช่น มัสยิดกลางปัตตานี

--------------------------------------------------------------------------------------------------

อ่านประกอบ : ละหมาดตะรอเวียะห์ล้นมัสยิด...อานุภาพแห่งความหวังสันติภาพ