เปิดปม! ปัญหาเช่าที่องค์การสะพานปลาภูเก็ต บ.โรงน้ำแข็ง เปลี่ยนทำร้านอาหาร ไม่ผ่านบอร์ด?
"...ตามหลักการแล้วการประกอบกิจการในพื้นที่สะพานปลานั้น ถ้าหากมีการเพิ่มวัตถุประสงค์การให้บริการของเอกชน เอกชนรายนั้นจะต้องเสียค่าเช่าที่เพิ่มเติมด้วย ซึ่งกรณีของบริษัททีโซ่ นั้น ได้เพิ่มวัตถุประสงค์การใช้พื้นที่จากประกอบกิจการโรงน้ำแข็ง ไปเป็นร้านอาหาร โดยที่บอร์ดสะพานปลานั้นไม่ทราบเรื่อง ส่งผลทำให้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในอัตราค่าเช่าของบริษัทต่อองค์การสะพานปลา ซึ่งกรณีนี้ทำให้องค์การสะพานปลาเสียผลประโยชน์เป็นอย่างมาก..."
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับการเปิดเผยข้อมูลจากแหล่งข่าวระดับสูงในองค์การสะพานปลา หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า ขณะนี้คณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) องค์การสะพานปลา อยู่ระหว่างการตรวจสอบปัญหาความไม่ชอบมาพากลในการบริหารจัดการพื้นที่สะพานปลา ท่าเรือภูเก็ต ซึ่งปรากฎว่ามีบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ได้เช่าพื้นที่ท่าเรือภูเก็ต เพื่อประกอบกิจการโรงน้ำแข็ง โดยทำบันทึกข้อตกลงเช่าที่เป็นระยะเวลา 20 ปี ตั้งแต่ 1 ต.ค.2546 – 30 ก.ย. 2566 ปัจจุบันอยู่ในสัญญาเช่างวดที่ 6 คือ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2561 – 30 ก.ย.2564 แต่จากการตรวจสอบพื้นที่ประกอบกิจการดังกล่าวพบว่า ปัจจุบันบริษัทเอกชนรายนี้ ได้ประกอบกิจการร้านอาหารควบคู่ไปด้วยกันกับกิจการโรงน้ำแข็งด้วย
"บริษัทที่ว่านี่คือ บริษัท ทีโซ่ จำกัด ตามขั้นตอนการจะขอเพิ่มวัตถุประสงค์ประกอบธุรกิจในพื้นที่สะพานปลานั้น ผู้ที่มีอำนาจจะดำเนินการอนุมัติได้จะต้องเป็นความเห็นชอบจากทางบอร์ดสะพานปลาเท่านั้น โดยยื่นเรื่องไปยังท่าเทียบเรือประมงภูเก็ตก่อน จากนั้น จึงส่งเรื่องไปยังผู้อำนวยการองค์การสะพาน แต่จากการตรวจสอบ ไม่ปรากฎว่ามีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาของเพิ่มวัตถุประสงค์เข้าสู่การพิจารณาของบอร์ดสะพานปลาแต่อย่างใด" แหล่งข่าวระบุ
แหล่งข่าวรายนี้ กล่าวอีกว่า ตามหลักการแล้วการประกอบกิจการในพื้นที่สะพานปลานั้น ถ้าหากมีการเพิ่มวัตถุประสงค์การให้บริการของเอกชน เอกชนรายนั้นจะต้องเสียค่าเช่าที่เพิ่มเติมด้วย ซึ่งกรณีของบริษัททีโซ่ นั้น ได้เพิ่มวัตถุประสงค์การใช้พื้นที่จากประกอบกิจการโรงน้ำแข็ง ไปเป็นร้านอาหาร โดยที่บอร์ดสะพานปลานั้นไม่ทราบเรื่อง ส่งผลทำให้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในอัตราค่าเช่าของบริษัทต่อองค์การสะพานปลา ซึ่งกรณีนี้ทำให้องค์การสะพานปลาเสียผลประโยชน์เป็นอย่างมาก
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า จากกรณีดังกล่าวนั้นทางบอร์ดองค์การสะพานปลากำลังตรวจสอบในเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทต่าง ๆ ที่เช่าพื้นที่สะพานปลาว่า ได้มีการจ่ายเงินค่าเช่าให้กับทางท่าเรือถูกต้องหรือไม่ด้วย (ดูภาพประกอบ)
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้ตรวจสอบข้อมูล บริษัท ทีโซ่ จำกัด พบว่าจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2525 ทุนปัจจุบัน 17 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 2/25 ถนนศรีสุทัศน์ ตำบลรัษฎา อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต แจ้งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำแข็ง ปรากฎชื่อ นาง เบญจวรรณ ตัมพานุวัตร เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ และถือหุ้นใหญ่
ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายวันที่ 13 พ.ค.2562 สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยังบริษัท ทีโซ่ จำกัด เพื่อขอสัมภาษณ์ผู้บริหารให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้
นางเบญจวรรณ ตัมพานุวัตร ให้สัมภาษณ์ชี้แจงสำนักข่าวอิศรา ว่า เพิ่งทราบจากสำนักข่าวอิศราว่า การแจ้งขอเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์พื้นที่องค์การสะพานปลา จากโรงน้ำแข็ง เป็นร้านอาหาร ไม่เคยมีการนำเสนอเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของบอร์ดสะพานปลาเหมือนกัน
"ส่วนตัวแล้ว ค่อนข้างไม่สบายใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่วนการทำธุรกิจขอชี้แจงรายละเอียดว่า ที่ผ่านมานั้น บริษัทนั้นทำโรงงานน้ำแข็ง แต่ประสบปัญหาว่าเครื่องพัง ไม่ได้กำไร ก็เลยมีการรื้อถอนโรงงาน แล้วก็ปิดโรงงานไปได้ประมาณสองสามปีกว่าแล้ว แต่พอทราบข้อมูลว่าท่าเรือสะพานปลาภูเก็ตนั้นมีการรับส่งนักท่องเที่ยวด้วย ก็เลยมีการชักชวนหุ้นส่วนเพื่อมาลงทุนให้เปิดร้านอาหารกัน ซึ่งยังไม่ได้เปิดร้านอย่างจริงจัง โดยเพิ่งจะเปิดเมื่อประมาณ 2-3เดือนนี้เอง"
นางเบญจวรรณ ยังกล่าวด้วยว่า "ที่ผ่านมานั้นมีการร้องขอ ทำเรื่องเปลี่ยนแปลงกิจการจากโรงน้ำแข็งไปเป็นร้านอาหารแล้ว กับทางผู้อำนวยการสะพานปลาภูเก็ต และทางผู้อำนวยการสะพานปลาใหญ่ที่กรุงเทพอย่างถูกต้อง พร้อมทั้งมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโรงน้ำแข็งเดิมเป็นร้านอาหาร เพื่อให้มีความสะอาด ถูกต้องตามหลักการ พร้อมที่จะเปิดกิจการเป็นร้านอาหารได้ โดยผู้อำนวยการก็ยังบอกเลยว่า ไม่เป็นไร เจ๊ทำไปเลย เห็นเจ๊จ่ายค่าเช่ามาตลอดทุกเดือน"
นางเบญจวรรณ ยังกล่าวย้ำว่า "เข้าใจว่าทางผู้อำนวยการองค์การสะพานปลา คงจะหวังดีและมองว่าธุรกิจของบริษัทนั้นไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนแต่อย่างใด ก็เลยมีการอำนวยความสะดวกให้ ทีนี่พอมีประเด็นว่าเรื่องไม่ได้ถูกเสนอไปยังบอร์ดแล้ว ส่วนตัวก็เลยมีความไม่สบายใจ เพราะต้องการจะทำให้การเปิดธุรกิจนี้มีความถูกต้องมากที่สุด เนื่องจากทางหุ้นส่วนบริษัทเองก็ลงทุนไปกับธุรกิจนี้เยอะแล้ว ส่วนทางบอร์ดสะพานปลาถ้าหากจะมาตรวจสอบการทำธุรกิจของบริษัท รวมถึงประเด็นในเรื่องการเสียค่าเช่านั้น ทางบริษัทก็พร้อมจะให้ทางบอร์ดสะพานปลาตรวจสอบได้ในทุกประเด็น"
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/