ศรีลังกา ยอมรับงานข่าวกรองผิดพลาด ทำเกิดเหตุสลด
รัฐบาลศรีลังกา ยอมรับ งานด้านข่าวกรองผิดพลาดครั้งใหญ่ ทำให้เกิดเหตุระเบิดโจมตี ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงเมื่อวันอีสเตอร์ที่ผ่านมา ขณะที่ข้อมูลใหม่ชี้ มือระเบิดส่วนใหญ่เป็นคนมีฐานะดีและมีการศึกษา
กระแสความโกรธแค้นรัฐบาลศรีลังกาที่ไม่สามารถป้องกันเหตุระเบิดโจมตีในวันอีสเตอร์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 359 คน บาดเจ็บอีกกว่า 500 คน ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด นาย รูวัน วิเชวาร์เดนี (Ruwan Wijewardene) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมของศรีลังกา ออกมายอมรับว่า เกิดความผิดพลาดด้านข่าวกรองครั้งใหญ่จนทำให้ภาครัฐไม่สามารถป้องกันโศกนาฏกรรมครั้งนี้ได้
รายงานระบุว่า หน่วยข่าวกรองอินเดียได้แจ้งเบาะแสว่าจะเกิดเหตุโจมตีให้กับหน่วยงานความมั่นคงศรีลังกาตั้งแต่เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา แต่เห็นได้ชัดว่า ข้อมูลไม่ได้ถูกส่งต่อไปยังรัฐบาล จึงไม่มีการออกมาตรการเพื่อป้องกัน หรือ คลี่คลายจากหนักให้เป็นเบาได้
ขณะที่เมื่อวานนี้ ทางการได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผู้ก่อเหตุ โดยจากจำนวนผู้ก่อเหตุทั้ง 9 คน ขณะนี้พบว่ามี 8 คน ที่เป็นชาวศรีลังกา นอกจากนี้ ยังพบว่า ผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่มาจากครอบครัวชนชั้นกลางที่มีการศึกษาดี โดยหน่วยงานความมั่นคงของอังกฤษได้เผยชื่อของผู้ก่อเหตุคนหนึ่ง คือ นายอัลดุล ลาธีฟ จามีล โมฮาเหม็ด ซึ่งเคยไปศึกษาที่อังกฤษ ระหว่างปี 2006-2007 นอกจากนี้ เขายังเคยไปเรียนที่ออสเตรเลียด้วย
ขณะที่มือระเบิดอีก 2 คน เป็นทายาทของนักธุรกิจเจ้าของบริษัทส่งออกเครื่องเทศรายใหญ่จากกรุงโคลัมโบด้วย
ขณะที่เดียวกัน มีการเปิดเผยภาพกล้องวงจรปิดจากโบสถ์ที่ตกเป็นเป้าหมาย เผยให้เห็นว่า คนร้ายซึ่งไว้เครา สวมเสื้อแขนสั้นสีฟ้าอ่อน และสะพายเป้ เดินเข้าไปที่โบสถ์อย่างใจเย็น ระหว่างนั้นได้เดินผ่านเด็กหญิงคนหนึ่ง จึงหยุดลูบศีรษะและหลังของเด็ก ก่อนเดินตรงเข้าไปปลดชนวนระเบิด ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากรวมทั้งตัวเอง ด้วย