ศาลเมียนมาปฏิเสธคำอุทธรณ์คดีสองนักข่าวรอยเตอร์ยืนจำคุก 7 ปีตามศาลชั้นต้น
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเผยว่าการที่ศาลฎีกาเมียนมาปฏิเสธคำอุทธรณ์ของสองนักข่าวรอยเตอร์ ถือเป็นการปฏิเสธความยุติธรรมที่น่าเศร้าใจ และเน้นย้ำถึงความมืดมนของเสรีภาพสื่อมวลชนในเมียนมาต่อไป
นิโคลัส เบเคลัง ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเผยหลังจากศาลฎีกาเมียนมาพิพากษายืนยันคำตัดสินให้ "วาโลน" และ "จอโซอู" สองนักข่าวรอยเตอร์มีความผิด และให้จำคุกเป็นเวลาเจ็ดปีตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นว่า การที่ศาลฎีกาไม่รับพิจารณาอุทธรณ์คำสั่งในคดีของทั้งสอง เป็นการซ้ำเติมความอยุติธรรมที่รุนแรง และถือเป็นอีกวันที่มืดมนของเสรีภาพสื่อมวลชนในเมียนมา คดีนี้แสดงให้เห็นทางการมีเจตนาที่จะกำราบไม่ให้มีการรายงานข่าวอย่างเป็นอิสระเกี่ยวกับการปฏิบัติที่โหดร้ายของกองทัพในรัฐยะไข่ แม้จะส่งผลให้เกิดความอัปยศต่อระบบยุติธรรมในประเทศก็ตาม
“คดีของวาโลนและจอโซอู ไม่ใช่เป็นเพียงคดีเดียวที่เกิดขึ้นในลักษณะนี้ ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้เห็นคนจำนวนมากถูกจับกุมในข้อหาที่มีแรงจูงใจทางการเมือง ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการวิพากษ์วิจารณ์กองทัพ
“ก่อนจะถึงการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2563 ประชาคมโลกต้องกดดันรัฐบาลเมียนมามากขึ้น ให้ปล่อยตัวนักโทษทางความคิดโดยทันทีและอย่างไม่มีเงื่อนไข และให้แก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกกฎหมายเผด็จการที่ถูกใช้เพื่อปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออก”
โดย วาโลนและจอโซอู นักข่าวรอยเตอร์ถูกจับที่กรุงย่างกุ้งเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2560 ระหว่างการทำข่าวเกี่ยวกับการสังหารหมู่ผู้ชายและเด็กผู้ชายชาวโรฮิงญา 10 คน โดยเจ้าหน้าที่จากกองกำลังของเมียนมาในภาคเหนือของรัฐยะไข่ ซึ่งต่อมาเป็นเหตุให้ศาลทหารตัดสินจำคุกทหารเมียนมาเจ็ดคน
นักข่าวทั้งสองคนถูกดำเนินคดีฐานละเมิดพระราชบัญญัติความลับทางราชการ และในวันที่ 3 ก.ย. 2561 ได้ถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลาเจ็ดปี ศาลสูงแห่งกรุงย่างกุ้งปฏิเสธไม่รับพิจารณาคำอุทธรณ์เมื่อเดือนมกราคม 2562 หลังจากนั้นในวันที่ 16 เม.ย. 2562 วาโลน จอโซอู และทีมงานของพวกเขาได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ประจำปี 2562 ในสาขารายงานข่าวระหว่างประเทศ
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก สำนักข่าวไทย