สายตรงนักวิชาการไทย ทัวร์บุญศรีลังกาขณะเกิดระเบิดใหญ่-ประกาศเคอร์ฟิว
เหตุระเบิดใหญ่ในศรีลังกา เป้าหมายมีทั้งโบสถ์คริสต์ และโรงแรมหรูในกรุงโคลัมโบ เมืองหลวงทางการค้าของประเทศ รวมทั้งเมืองใกล้เคียง คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 150 ราย บาดเจ็บอีกหลายร้อย
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโคลัมโบ ออกประกาศเตือนให้คนไทยในศรีลังกาทุกคนหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน และติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ข้อมูลจากสถานทูตยังระบุว่ามีข่าวระเบิดเกิดขึ้น 6 จุดเฉพาะในกรุงโคลัมโบ และยังมีระเบิดในเมืองอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะสถานที่สำคัญทางคริสตศาสนา
ข้อมูลอัพเดต ณ เวลา 19.09 น.ตามเวลาในประเทศไทย มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 169 คน เฉพาะที่โคลัมโบกว่า 50 คน เนกอมโบ (Negombo) 67 คน และเมืองบัตติคคาโล (Batticoloa) 25 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติ 35 คน
สื่ออินเดียรายงานว่า เหตุระเบิดบางจุด เช่น ที่โรงแรมแชงกรี-ล่า ในโคลัมโบ เป็นการกระทำของ "มือระเบิดพลีชีพ"
สำหรับคนไทยในศรีลังกาแม้จะมีจำนวนไม่มากนัก แต่ศรีลังกากำลังเป็นปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยวคนไทย โดยเฉพาะ "สายบุญ" เพราะเป็นเมืองพุทธนิกายเถรวาท มีสถานที่ท่องเที่ยวแนวศาสนาและเมืองมรดกโลกมากมาย
ช่วงที่เกิดเหตุรุนแรงในศรีลังกา ก็มีคนไทยกลุ่มหนึ่งเดินทางไปเที่ยวพอดี เป็นกลุ่มของ ดร.ถวิลวดี บุรีกุล ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า มีบทบาทเป็นนักวิจัยการเมืองและประชาธิปไตยเชิงคุณภาพ มีงานวิจัย บทความ และบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับการเมืองการปกครองไทยมากมาย
คณะของ ดร.ถวิลวดี มีกัน 5 คน ไปถึงศรีลังกาตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย. และค้าง 1 คืนที่โคลัมโบ จากนั้นก็ท่องไปตามเมืองเก่า เมืองมรดกโลก วัด และสถาปัตยกรรมศักดิ์สิทธิ์ของพุทธศาสนา
ช่วงที่เกิดเหตุระเบิด คณะของ ดร.ถวิลวดี กำลังเดินทางเข้าโคลัมโบ และขึ้นเครื่องบินกลับไทย แต่เมื่อเกิดเหตุรุนแรงระดับสะเทือนโลกเสียก่อน ทำให้ต้องเปลี่ยนแผน มุ่งหน้าจากเมืองกอลล์ (Galle) ไปท่าอากาศยานนานาชาติบันดารานายาเก ทันที
"บ่ายนี้ว่าจะเข้าโคลัมโบ แต่ตอนนี้เปลี่ยนแผนไปสนามบินเลย เพราะรัฐบาลศรีลังกาประกาศเคอร์ฟิว ต้องขึ้นมอเตอร์เวย์ไปสนามบิน ตอนแรกถนนโล่งมาก แต่พอใกล้สนามบินก็เจอรถติด คงมีการตั้งด่านของเจ้าหน้าที่ เพราะระหว่างทางก็เห็นตำรวจเยอะมาก" ดร.ถวิลวดี กล่าว
กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยในศรีลังกาเล่าให้ฟังอีกว่า ขณะเกิดเหตุระเบิด กำลังท่องเที่ยวอยู่ที่เมืองกอลล์ ซึ่งเป็นเมืองท่า และมีป้อมที่พวกโปรตุเกสเคยสร้างไว้ โดยเมืองกอลล์ห่างจากโคลัมโบประมาณ 2 ชั่วโมง
"พอมีข่าวระเบิด คนที่นี่ก็ตื่นตัวกันมาก แท็กซี่ที่เราใช้บริการมาบอกเราเองเลยว่าให้ไปสนามบินเลย เข้าโคลัมโบไม่ได้แล้ว เพราะประกาศเคอร์ฟิว ทีแรกเรามีแผนกินข้าวเย็นที่โคลัมโบ ก็ต้องยกเลิกทั้งหมด บรรยากาศดูเครียดๆ คนฟังข่าวกันตลอด ทั้งดูทีวี ฟังวิทยุ เท่าที่ทราบตอนนี้รัฐบาลสั่งปิดโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะเฟซบุ๊คแล้ว" ดร.ถวิลวดี กล่าว
ศรีลังกาเคยมีความขัดแย้งยาวนานระดับนองเลือด ระหว่างชาวสิงหล ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศที่นับถือศาสนาพุทธ นิกายเถรวาท กับชาวทมิฬ ที่เป็นประชากรส่วนน้อย นับถือศาสนาฮินดู มีการตั้งกลุ่มติดอาวุธ "พยัคฆ์ทมิฬอีแลม" ขึ้นมาต่อสู้ กลายเป็นความขัดแย้งยืดเยื้อนานหลายสิบปี มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคน ตลอดมามีความพยายามเจรจาสันติภาพมาหลายครั้งแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ สุดท้ายรัฐบาลศรีลังกาจึงใช้กำลังปราบปรามขั้นเด็ดขาด จนสามารถยุติสถานการณ์ร้ายแรงภายในประเทศได้ เมื่อราวปี 2552
นับจากนั้นศรีลังกาก็พยายามพัฒนาเศรษฐกิจ โดยใช้การท่องเที่ยวเป็นตัวนำ...
"ศรีลังกาเป็นเมืองน่าเที่ยว ชาวพุทธน่าจะได้มา มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจระดับมรดกโลกมากมาย เช่น พระราชวังลอยฟ้า ผู้คนก็เป็นมิตร แม้จะมีความหลากหลายทางชาติพันธุ์สูงมาก แต่ก็อยู่ร่วมกันได้ด้วยดี บ้านเมืองสะอาดสะอ้าน ถนนหนทางก็ดี พอมาเกิดเรื่องแบบนี้ก็รู้สึกเสียดาย เพราะคงส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวเยอะมาก" ดร.ถวิลวดี กล่าว
การก่อเหตุรุนแรงล่าสุดด้วยการใช้ระเบิดพลีชีพ มีเป้าหมายเป็นโบสถ์คริสต์ ทั้งๆ ที่ชาวคริสต์ก็เป็นประชากรกลุ่มน้อย ซ้ำยังเลือกก่อเหตุวันอีสเตอร์ ซึ่งเป็นวันเฉลิมฉลองของชาวคริสต์พอดี ทำให้คนศรีลังกาเองคาดการณ์ว่า เหตุระเบิดรอบนี้น่าจะไม่ใช่ปัญหาเก่าภายในของตนเอง คือความขัดแย้งระหว่างชาวสิงหล กับทมิฬ เพราะปัญหานั้นน่าจะจบลงแล้ว...
แต่น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายระดับโลกมากกว่า แม้จนถึงขณะนี้จะยังไม่มีการประกาศความรับผิดชอบจากกลุ่มใดก็ตาม!
----------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 มอเตอร์เวย์ไปสนามบินนานาชาติบันดารานายาเก อยู่ในสภาพเกือบร้าง
2 ความสับสนอลหม่านในหลายๆ เมืองหลังเกิดระเบิดครั้งใหญ่
3 สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของศรีลังกา
ขอบคุณ : ภาพทั้งหมดโดย ดร.ถวิลวดี บุรีกุล