ส.ป.ก.ตั้งศูนย์ตรวจสินค้าเกษตร...เตรียมเข้าเขตเศรษฐกิจอาเซียน
นับวันมาตรฐานสินค้า เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค เพราะการดำเนินชีวิตของคนในยุคปัจจุบันต้องใช้ชีวิตที่มีมาตรฐานรองรับความปลอดภัยเสมอ ดังนั้น มาตรฐานสินค้า จึงเป็นเกณฑ์ที่ใช้ในการตัดสินใจที่จะเลือกซื้อสินค้าและบริการของผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรฐานด้านความปลอดภัยของสินค้าเกษตรและอาหาร เนื่องจากกระบวนการผลิตมีการใช้สารเคมีทางการเกษตรอย่างไม่ถูกต้อง เกินความจำเป็นทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของมนุษย์ และจากการที่รัฐบาลได้ประกาศให้ปี 2547 เป็นปีแห่งความปลอดภัยทางอาหาร (Food Safety Year) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รณรงค์และส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ผลิตสินค้าเกษตรและอาหารผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและปลอดภัยจะได้แข่งขันในตลาดโลกได้
ดร.วีระชัย นาควิบูลย์วงศ์ เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กล่าวว่า เมื่อปลายปี 2553 ส.ป.ก.ได้รับมอบหมายจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้จัดตั้งศูนย์ตรวจสอบและรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อรองรับความต้องการของเกษตรกรที่ต้องการนำสินค้าเกษตรของตนเองมาตรวจสอบเพื่อรับรองมาตรฐาน โดยเน้นพืชเศรษฐกิจ 4 ชนิด คือ มันสำปะหลัง อ้อย ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และสับปะรด เนื่องจาก ส.ป.ก. มีพื้นที่รองรับโครงการประมาณ 34 ล้านไร่ เกษตรกร 1.5 ล้านครัวเรือน ส่วนใหญ่ผลิตพืชเศรษฐกิจที่ทำรายได้เข้าประเทศปีหนึ่ง ๆ เป็นจำนวนมาก
สำหรับศูนย์ตรวจสอบและรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดินนี้ กำลังจะได้รับการยอมรับในเรื่องของหน่วยรับรอง (Certification Body :CB) จากสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ ส.ป.ก.ได้เตรียมความพร้อมด้านบุคลากรให้มีความรู้ ความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลของเกษตรกรและการปฏิบัติงานในพื้นที่ ทั้งพัฒนาบุคลากรเพื่อที่จะเป็นผู้ตรวจประเมินแปลงที่ดิน และเตรียมพร้อมเกษตรกรในพื้นที่ให้มีความรอบรู้พร้อมที่จะปรับระบบการผลิตของตนเองเพื่อเข้าสู่กระบวนการรับรองสินค้าเกษตรที่ได้มาตรฐาน และก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC (ASEAN Economic Community) ในปี 2558 นี้
เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ศูนย์ตรวจสอบและรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ศึกษาและอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกร เพื่อสร้างแรงจูงใจแก่เกษตรกรให้เห็นถึงความสำคัญของระบบการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน โดยศูนย์แห่งนี้ได้รับการตอบรับจากเกษตรกรดีมาก โดยเฉพาะผู้นำชุมชนและกลุ่มเกษตรกรในระดับพื้นที่ ซึ่งถือเป็นสื่อกลางสำคัญในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารไปยังเกษตรกรรายอื่น ๆ ได้อย่างดี ที่ผ่านมามีผู้นำที่ผ่านการอบรมประมาณ 550 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้นำที่เป็นอาสาปฏิรูปที่ดิน ผู้นำชุมชน ผู้นำกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และผู้แทนเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน นอกจากนี้ ยังมีเกษตรกรที่ผ่านการอบรมแล้วประมาณ 2,534 ราย ซึ่งมีจำนวนเกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ (เป้าหมาย 1,500 ราย) ในพื้นที่ 50 จังหวัดทั่วประเทศ ปัจจุบันศูนย์ตรวจสอบและรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรฯ สามารถออกใบรับรองให้เกษตรกรได้แล้ว และในปีนี้ มีเกษตรกรยื่นคำขอรับการตรวจรับรองจำนวน 400 รายแล้ว
อย่างไรก็ตามหากเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินรายใดที่ปลูกพืชเศรษฐกิจทั้ง 4 ชนิดดังกล่าว ต้องการตรวจสอบรับรองมาตรฐานสินค้าก็สามารถติดต่อข้อมูลเพิ่มเติมไปที่...สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดใกล้บ้านท่านได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆทั้งสิ้น.