เด็กไทยบ้านอุเบกขาชนะรางวัลระดับโลก “เยาวชนกล้าคิด สะกิดสังคม”ยูนิเซฟ
กลุ่มเยาวชนจากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านอุเบกขาสร้างชื่อเสียงโดยคว้ารางวัลชนะเลิศจาก โครงการ Generation Unlimited Youth Challenge เยาวชนกล้าคิด สะกิดสังคม ซึ่งจัดโดยองค์การยูนิเซฟ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนจากทั่วทุกมุมโลกได้นำเสนอไอเดียสร้างสรรค์ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวของพวกเขา
เยาวชนไทยกลุ่มนี้มีชื่อกลุ่มว่า “Fantastic Four” ชนะใจกรรมการจากไอเดียการสร้างเว็บไซต์ “Change to Chance เปลี่ยนเพื่อโอกาส” ที่มุ่งส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานในหมู่เยาวชนที่เคยกระทำผิด โดยเว็บไซต์นี้จะเป็นแพลตฟอร์มระหว่างผู้ประกอบการและเยาวชนที่กระทำผิด ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้พิจารณาถึงศักยภาพและความตั้งใจจริงของเยาวชนผู้กระทำผิดในการกลับตัวเป็นคนดีในสังคมและเริ่มต้นชีวิตใหม่
Fantastic Four ประกอบไปด้วยสมาชิก 4 คน ได้แก่ นายชลชาติ พานทอง นายพิชิตชัย นวนทอง นายภานุวัฒน์ แซ่ฉี และนายอัครพล เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โดยมีครูผู้ดูแลคือนางเพชรดารินทร์ ชูพรธีระไชย จากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านอุเบกขา จ. นครปฐม โดยเป็น 1 ใน 5 ทีมผู้ชนะจาก 32 ทีมที่เข้ารอบสุดท้ายจากทั้งหมด 16 ประเทศ ทั้งนี้แต่ละทีมที่ชนะจะได้รับเงินทุนราว 640,000 บาท (US$ 20,000) เพื่อนำไอเดียไปขยายผลเป็นรูปธรรมต่อไป โดยอีก 4 ทีมชนะเลิศ ได้แก่ กลุ่มเยาวชนจากนอร์ทมาซิโดเนียซึ่งนำเสนอไอเดียด้านสื่อสารเพื่อยุติการกลั่นแกล้ง กลุ่มเยาวชนจากซิมบับเวซึ่งต้องการนำการศึกษาไปสู่ชุมชนที่ห่างไกล กลุ่มเยาวชนจากซูดานจากไอเดียการสร้างรายได้ให้กับผู้อพยพย้ายถิ่น และกลุ่มเยาวชนจากปากีสถานที่ต้องการส่งเสริมสุขอนามัยช่วงการมีประจำเดือนสำหรับเด็กและผู้หญิงที่ขาดโอกาส
การแข่งขันครั้งนี้มีเยาวชนหลายพันคนจากทั่วโลกเข้าร่วม และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Generation Unlimited เยาวชนกล้าคิด สะกิดสังคม ซึ่งเปิดตัวระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติเมื่อเดือนกันยายนปี 2561 โดยได้รับการสนับสนุนจากผู้นำทั่วโลก โครงการ Gen-U ถือเป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนทั่วโลกนำเสนอไอเดียและร่วมเป็นแรงขับเคลื่อนในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่พวกเขาเผชิญ เพื่อให้เยาวชนทุกคนทั่วโลกได้เข้าถึงการศึกษา การพัฒนาทักษะ และการจ้างงานที่เหมาะสมกับวัย ตลอดจนมีความพร้อมสำหรับการใช้ชีวิตในโลกปัจจุบัน
นายชลชาติ พานทอง วัย 23 ปี หัวหน้าทีม Fantastic Four กล่าวว่า พวกเขาต้องการช่วยให้เด็กที่กระทำผิดได้รับโอกาสในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ อีกทั้งต้องการเปลี่ยนทัศนคติของสังคมที่มีต่อเด็กที่กระทำผิด โดยพร้อมแสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถเป็นพลเมืองที่มีศักยภาพในการสร้างสรรค์สังคมเช่นเดียวกับเยาวชนอื่น ๆ
“โครงการของทีมเรา คือ การแก้ปัญหาการว่างงานของผู้ที่เคยก้าวพลาดให้มีงานทำเพื่อสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นและลดโอกาสในการกลับไปกระทำความผิดซ้ำ เพราะมีเด็กวัยอย่างเราที่มีการกระทำผิดอีกเป็นล้านคนทั่วโลก เราเห็นว่าปัญหานี้เป็นปัญหาที่คนจำนวนมากประสบอยู่ ที่ผ่านมาเมื่อเยาวชนเหล่านี้ได้รับโทษและปล่อยตัวออกมาแล้ว สังคมส่วนมากยังไม่ให้การยอมรับ ไม่ไว้วางใจ ทำให้บุคคลเหล่านี้จะได้รับโอกาสในการเข้าทำงานน้อยกว่าคนทั่วไป ผมหวังว่าเว็บไซต์นี้จะทำให้เยาวชนเหล่านี้มีโอกาสเพิ่มมากขึ้น เพื่อที่พวกเขาจะสามารถหางานที่ดี มีรายได้มาพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น และลดโอกาสการก่ออาชญากรรมซ้ำ ๆ ในสังคม” ชลชาติกล่าว
หลังจากนี้ Fantastic Four จะนำเงินทุนที่ได้ไปพัฒนาต่อยอดไอเดียสร้างเว็บไซต์ “Change to Chance เปลี่ยนเพื่อโอกาส” เพื่อเป็นสื่อกลางระหว่างเยาวชนผู้กระทำผิดและผู้ประกอบการ โดยในเว็บไซต์จะมีข้อมูลของเยาวชนแต่ละคนอย่างละเอียดเพื่อให้ผู้ประกอบการได้รู้จักตัวตน ทั้งรอยสัก ประวัติคดี ในขณะเดียวกันก็แสดงความรู้และทักษะที่มีผ่านการนำเสนอโปรไฟล์ของตนในรูปแบบวิดีโออีกด้วย นอกจากนี้เยาวชนผู้กระทำผิดก็จะได้รับข้อมูลของผู้ประกอบการเช่นกัน เพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถสมัครงานให้สอดคล้องตามความสนใจของตนเอง ทั้งนี้ การพัฒนาเว็บไซต์นี้จะได้รับการสนับสนุนจากกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม ซึ่งมีความร่วมมือกับบริษัทกว่า 300 แห่งที่พร้อมจ้างงานเยาวชนผู้กระทำผิด
นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวว่า “หน่วยงานของเรารู้สึกยินดีและปลื้มปิติที่เยาวชนที่เราดูแลสามารถพัฒนานวัตกรรมขึ้นมาจนได้รับการยอมรับในระดับโลกได้ ผมเชื่อว่าความสำเร็จนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาก้าวเดินต่อไปในอนาคต โดยกรมพินิจฯ พร้อมสนับสนุนต่อเพื่อให้ไอเดียนี้พัฒนาออกมาได้ เพื่อให้เด็กที่เคยก้าวผิดคิดพลาดได้มีโอกาสอีกครั้ง”
นางสาวดอน กอสลิ่ง รักษาการผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวแสดงยินดีกับทีม Fantastic Four และเยาวชนจากประเทศไทยทุกคนที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นแล้วว่าเด็กและเยาวชนทุกคนสามารถพัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพหากได้รับโอกาสและการดูแลสนับสนุนอย่างเต็มที่
“ยูนิเซฟมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นเยาวชนจากประเทศไทยคว้ารางวัลระดับโลกครั้งนี้ และไม่ใช่เฉพาะทีมที่ชนะเท่านั้น แต่เราดีใจมากที่ได้เห็นเยาวชนไทยจำนวนมากเข้าร่วมนำเสนอไอเดียเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมทักษะและอาชีพให้กับคนรุ่นใหม่ การส่งเสริมสุขภาวะทางเพศในโรงเรียน การส่งเสริมโอกาสทางการเรียนรู้ของเด็กพิการ ยูนิเซฟขอแสดงความยินดีกับ Fantastic Four และเยาวชนทุกคนที่เต็มไปด้วยพลังและความคิดสร้างสรรค์ตลอดกิจกรรมครั้งนี้” กอสลิ่งกล่าว
โครงการ Gen-U เยาวชนกล้าคิด สะกิดสังคม ถือเป็นแพลตฟอร์มสำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมและภาคธุรกิจในการส่งเสริมศักยภาพของเยาวชน โดยมีหน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้าร่วมเป็นพี่เลี้ยงและเป็นกรรมการคัดเลือกทีมจากประเทศไทยเพื่อเข้าแข่งขันในเวทีระดับโลกรอบสุดท้าย ซึ่งประกอบด้วย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มูลนิธิ Saturday School กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน สภาเด็กและเยาวชน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สิริ เวนเจอร์ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
ชลชาติกล่าวทิ้งท้ายว่า “ ทุกคนเคยทำผิดพลาด แม้แต่ทีมพวกเราเอง แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง เรารู้ว่าต้องเสียเวลาชีวิต เสียโอกาสไปมากมาย ผมเคยคิดว่าผมเอาดีไม่ได้แล้ว แต่พอได้โอกาสเข้ามา ได้ลองลงมือทำดูความคิดนี้มันก็เปลี่ยนไป วันนี้พวกผมกลับได้โอกาสมาทำสิ่งดี ๆ เพื่อสังคม ได้พิสูจน์ว่าเราสามารถทำมันจนสำเร็จและได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่เป็นประโยชน์กับสังคมจริง ๆ ได้”
ข้อมูลโครงการ https://www.generationunlimited.org/news-and-stories/meet-five-global-winners-youth-challenge