เจาะลึกวิธีเลือกตั้งอินเดีย ผู้ใช้สิทธิ 900 ล.เสียง ไฉนนับคะแนน3วันเสร็จ ต่างกับไทยตรงไหน?
"...ในระบบการเลือกตั้งของอินเดีย แต่ละสถานีนับคะแนน จะมีการเริ่มนับคะแนนกันครั้งแรกที่สถานี จากนั้นจะมีการนับคะแนนด้วยตัวแทนหรือเจ้าหน้าที่จากพรรคการเมืองประกอบกัน ก่อนที่จะประกาศผลคะแนนในแต่ละสถานีนับคะแนนเป็นทางการ กระบวนการนับคะแนนนี้จะมีการดำเนินการแบบผสมผสานกัน โดยให้ผู้ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งนั้นจะเข้ามามีส่วนร่วมในการนับคะแนนนี้ด้วยอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งมาตรการดังกล่าวนี้ถือเป็นกลไกป้องกันการนับคะแนนในพื้นที่ที่มีการแข่งขันกันสูง จนทำให้เกิดกรณีการข่มขู่ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงได้..."
ในขณะที่การเลือกตั้งของประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 มี.ค.2562 ที่ผ่านมา ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีปัญหาในขั้นตอนการปฏิบัติงานหลายประการ โดยเฉพาะเรื่องการนับคะแนนที่มีความล่าช้า แถมผลการนับคะแนนเลือกตั้งบางพื้นที่ ก็ส่อว่าจะมีปัญหาความไม่โปร่งใสเกิดขึ้นด้วย และล่าสุด กกต.ก็ยังไม่สามารถสรุปสูตรคำนวณจำนวน ส.ส.ได้ จนต้องมีการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความเพื่อหาทางออกให้แทน
และดูเหมือนว่าเสียงวิพากษ์วิจารณ์จะยิ่งดังมากขึ้น เมื่อปรากฎข่าวการเลือกตั้งในประเทศอินเดีย ซึ่งถูกระบุว่าเป็นการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้เริ่มต้นขึ้นแล้วเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา และจะมีต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ แบ่งเป็น 7 เฟส โดยจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 900 ล้านคน จากประชากร 1.34 พันล้านคน จะทยอยเข้าคูหาลงคะแนนเลือกตั้งผ่านเครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกจำนวน 1.1 ล้านเครื่อง ซึ่งจะถูกส่งไปยังคูหาเลือกตั้งที่กระจายอยู่ทั่วประเทศไม่ว่าจะเป็นป่าลึกหรือบนภูเขา และมีการยืนยันข้อมูลว่า จะมีการประกาศผลการนับคะแนนเป็นทางการ ได้ภายในวันที่ 23 พฤษภาคม 2562 นี้ หากนับรวมระยะเวลาจะอยู่ที่ 3 วันเท่านั้น (อ้างองข้อมูลข่าวส่วนนี้จาก https://www.bbc.com/thai/international-47865575)
น่าสนใจว่า กระบวนการจัดการเลือกตั้งของอินเดียเป็นอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องการนับคะแนนผลการเลือกตั้งที่มีประสิทธิภาพและมีความรวดเร็วแบบนี้
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สืบค้นข้อมูลวิธีการนับคะแนนของประเทศอินเดีย จากเว็บไซต์ mapsofindia พบว่า มีการอธิบายรูปแบบขั้นตอนการดำเนินงานดังนี้
การเลือกตั้งในประเทศอินเดียนั้น การนับคะแนนการเลือกตั้งจะถูกกำกับดูแลและสั่งการโดยเจ้าหน้าที่คืนบัตรการเลือกตั้ง (Returning Officer) ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีกฎหมายรัฐธรรมนูญรองรับไว้
โดยในระหว่างกระบวนการนับนั้นจะมีผู้สมัครลงเลือกตั้ง และเจ้าหน้าที่จากพรรคการเมืองเข้ามาร่วมเป็นสักขีพยานด้วย
ขณะที่กระบวนการนับคะแนนในแต่ละคูหานั้น ซึ่งอาจจะมีการดำเนินการนับคะแนนมากกว่า 1 สถานที่ ผู้สมัครรับการเลือกตั้งแต่ละคน สามารถแต่งตั้งเจ้าหน้าที่นับคะแนนจากพรรคการเมืองของตัวเองให้เข้าไปมีส่วนร่วมในการรักษาผลประโยชน์ของพรรคได้ด้วย
@สถานีนับคะแนน
-ในระบบการเลือกตั้งของอินเดีย แต่ละสถานีนับคะแนน จะมีการเริ่มนับคะแนนกันครั้งแรกที่สถานี จากนั้นจะมีการนับคะแนนด้วยตัวแทนหรือเจ้าหน้าที่จากพรรคการเมืองประกอบกัน ก่อนที่จะประกาศผลคะแนนในแต่ละสถานีนับคะแนนเป็นทางการ
@กระบวนการนับคะแนนจากผู้มีสิทธิมีเสียงลงคะแนนทั่วประเทศ
-กระบวนการนับคะแนนนี้จะมีการดำเนินการแบบผสมผสานกัน โดยให้ผู้ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งนั้นจะเข้ามามีส่วนร่วมในการนับคะแนนนี้ด้วยอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งมาตรการดังกล่าวนี้ถือเป็นกลไกป้องกันการนับคะแนนในพื้นที่ที่มีการแข่งขันกันสูง จนทำให้เกิดกรณีการข่มขู่ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงได้
@ขั้นตอนสุดท้าย
-เจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่คืนบัตรเลือกตั้งจะเป็นผู้ที่ย้ำเตือนผู้ที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง อย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ก่อนวันประกาศผลลงคะแนนเลือกตั้งอย่างเป็นทางการว่าคะแนนของแต่ละคนจะเป็นเท่าไร และจะแจ้งข้อมูลของวันที่ได้นับคะแนนการเลือกตั้ง ประกอบกันด้วย ซึ่งส่วนมากแล้ววันนับคะแนนก็จะตรงกับวันที่มีการเปิดให้เลือกตั้งทั่วประเทศเป็นวันสุดท้าย
และถ้าหากเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ส่งคืนบัตรเลือกตั้งไม่สามารถดำเนินการนับคะแนนเลือกตั้งได้ ณ วันสุดท้ายของการเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ก็จะมีอำนาจในการเลื่อนวันนับคะแนนการเลือกตั้งออกไปอีก และกำหนดวันที่นับคะแนนการเลือกตั้งใหม่ลงในเอกสาร ซึ่งข้อมูลดังกล่าวนี้จะต้องแจ้งให้กับเจ้าหน้าที่จากพรรคการเมืองได้ทราบด้วย
@กระบวนการนับคะแนนการเลือกตั้งประกอบด้วย
ในการนับคะแนนเสียงเลือกตั้งนั้น ผู้ที่จะสามารถอยู่ในพื้นที่นับคะแนนได้จะมีเพียงแค่ เจ้าหน้าที่สงคืนบัตรเลือกตั้ง ตัวแทนจากพรรคการเมือง เจ้าหน้าที่นับคะแนน และเจ้าหน้าที่รัฐที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)เท่านั้น ที่จะอยู่ในพื้นที่นั้นได้
ขณะที่การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งของอินเดียจะมีการใช้เครื่องลงคะแนนเสียงเลือกตั้งอิเล็กทรอนิกส์หรือที่เรียกว่า The Electronic Voting Machines (EVM) ซึ่งหลังจากการเลือกตั้งแล้วนั้นเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบที่เครื่องลงคะแนน
วีดีโอสาธิตการใช้เครื่องลงคะแนนเลือกตั้งอิเล็กส์ทรอนิกส์ของอินเดีย
ส่วนการนับคะแนนนั้น จะเริ่มจากการนับคะแนนในใบลงคะแนนซึ่งเป็นกระดาษก่อน จากนั้นเมื่อนับกระดาษไปแล้ว 30 นาที จึงจะมีการนับคะแนนที่เครื่องลงคะแนนอีกครั้งหนึ่ง
โดยจะมีการแบ่งรอบการนับคะแนนเป็นรอบๆ เมื่อหมดหนึ่งรอบแล้วก็จะนำเครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ไปปิดผนึก (ในการใช้เครื่องลงคะแนนอิเล็กส์ทรอนิกส์นั้น พอกดลงคะแนนไปแล้ว ก็จะมีการปริ๊นกระดาษลงคะแนนออกมา)
เมื่อหมดรอบการนับคะแนนในแต่ละรอบ ในช่วงที่พักเบรกนั้น เจ้าหน้าที่จากพรรคการเมืองสามารถทักท้วงให้มีการนับคะแนนใหม่ได้ โดยผู้มีอำนาจตัดสินใจว่าจะให้นับใหม่หรือไม่นั้น ก็คือ เจ้าหน้าที่คืนบัตรลงคะแนนเลือกตั้ง และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความแตกต่างในการนับคะแนนหรือปัญหาอื่นๆ เจ้าหน้าที่ส่งคืนบัตรเลือกตั้งจะหาคนนอกมาประกาศผลการเลือกตั้ง ณ สถานีลงคะแนนนั้นๆ
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ส่งคืนบัตรเลือกตั้ง ก็จะรายงานผลคะแนนให้กับ กกต.ได้ทราบผลการเลือกตั้งต่อไป
สำหรับการใช้เครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์นั้น ได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการในการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2547 โดยผลจากการใช้เครื่องมือดังกล่าวทำให้ลดเวลาทั้งในการลงคะแนนและการประกาศผลคะแนนเป็นอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับระบบลงคะแนนด้วยกระดาษแบบในอดีต และยังช่วยแก้ปัญหาการใช้บัตรลงคะแนนปลอม ไปพร้อมกันด้วย
@ ส่วนข้อบังคับปลีกย่อย ในการนับคะแนนนั้น ประกอบไปด้วย
-ห้ามนำโทรศัพท์มือถือเข้าไปในพื้นที่ลงคะแนน
-ต้องมีผู้สังเกตการณ์ในพื้นที่นับคะแนนเสียงลงคะแนน
-ต้องมีข้อตกลงในการรักษาความปลอดภัยในระดับ 3 ทุกศูนย์นับคะแนนการเลือกตั้ง และจะมีการวางกำลังทหารจากหน่วยงานกลางในศูนย์นับคะแนนเสียงทุกพื้นที่ และให้ตำรวจท้องถิ่นวางกำลังอยู่รอบนอก
-มีการวางเจ้าหน้าที่ด้านการปกครองอาวุโสเอาไว้ ณ ทางเข้าคูหาเลือกตั้งเพื่อกำกับดูแลประชาชนที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง
-ในพื้นที่ 100 เมตรจากบริเวณคูหาเลือกตั้งจะถูกปักปันเขตว่าเป็นพื้นที่ห้ามไม่ให้ใช้ยานพาหนะโดยสิ้นเชิง
-จะมีการวางกล้องลงจรปิดในทุกจุดที่มีการขนย้านเครื่องลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง โดยจะมีการเฝ้าระวังอย่างเคร่งครัด
(เรียบเรียงจาก:https://www.mapsofindia.com/my-india/india/election-results-2017-how-counting-of-votes-is-done-in-india)
ทั้งหมดนี่ คือ ขั้นตอนรูปแบบการนับคะแนนผลการเลือกตั้งของอินเดีย ซึ่งถูกระบุว่าเป็นการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่กำลังถูกนำมาเปรียบเทียบกับการจัดการเลือกตั้งของประเทศไทยอยู่ในขณะนี้
ส่วนผลการเลือกตั้งของอินเดียจะออกมาเป็นอย่างไรนั้น นายนเรนทรา โมดี จาก พรรคชาตินิยมฮินดู ภารติยะ ชนะตะ หรือบีเจพี จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีอินเดียต่ออีก 5 ปี หรือไม่ คงต้องติดตามดูกันต่อไป
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/