คปภ.ขานรับมติครม.ขายประกันภัยข้าว
คปภ.ขานรับมติ ครม.ขายประกันภัยข้าว เพิ่มความคุ้มครอง ในราคาเดิม
นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยโครงการประกันภัยข้าวนาปี สำหรับปีการผลิต 2555 ที่ ครม. มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ อัตราเบี้ยประกันภัยรวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว 129.47 บาทต่อไร่ โดยเกษตรกรจ่ายเบี้ยประกันภัย 60 บาทต่อไร่ รัฐบาลสมทบให้ 69.47 บาทต่อไร่ เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา ในกรณีที่พื้นที่เพาะปลูกข้าวได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ ได้แก่ อุทกภัย ฝนทิ้งช่วง ลมพายุ อากาศหนาว ลูกเห็บ และไฟไหม้ จะได้รับความคุ้มครองในวงเงิน 1,111 บาทต่อไร่ ตลอดระยะเวลาเอาประกันภัย และขยายเพิ่มความคุ้มครองรวมถึงภัยศัตรูพืชและโรคระบาด ตามที่เกษตรกรร้องขอ ในวงเงินความคุ้มครอง 555 บาทต่อไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่เกษตรกรผู้เอาประกันภัยหากได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ และเป็นการสร้างหลักประกันความมั่นคงด้านรายได้ให้กับเกษตรกรอีกทางหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการประกันภัยข้าวนาปี จะได้รับความช่วยเหลือ 2 ส่วน ดังนี้
1.เงินช่วยเหลือจากรัฐตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในอัตรา 2,222 บาทต่อไร่
2.ค่าสินไหมทดแทนจากการประกันภัยดังกล่าว ในวงเงินความคุ้มครองสูงสุด 1,111 บาทต่อไร่ เมื่อรวมกันแล้วเกษตรกรผู้เอาประกันภัยจะได้รับเงินชดเชย ทั้งสิ้น 3,333 บาทต่อไร่ ใกล้เคียงกับต้นทุนการปลูกข้าวที่อยู่ไร่ละไม่เกิน 4,000 บาท ซึ่งการประกันภัยข้าวนาปีจะขายผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการประกันภัยข้าวนาปีจะต้องขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวกับกรมส่งเสริมการเกษตร โดยกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ (กองทุนฯ) และบริษัทประกันภัยจะร่วมกันรับประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2555 (Co-insurance) และเมื่อเกิดความเสียหายที่แปลงปลูกข้าว กองทุนฯ และบริษัทประกันภัยจะร่วมกันจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามเกณฑ์การประเมินความเสียหายของรัฐที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปีเสร็จเรียบร้อยแล้ว และจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อให้ความเห็นชอบในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ในส่วนของการดำเนินการเชิงรุกให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการฯ นั้น สำนักงานคปภ. ได้ร่วมกับ ธ.ก.ส. และกรมส่งเสริมการเกษตร ประชาสัมพันธ์โครงการฯ ให้เกษตรกรในแต่ละพื้นที่ได้รับทราบข้อมูลอย่างทั่วถึง ต่อไป