แอมเนสตี้แสดงข้อกังวลต่อการลงโทษผู้มีความหลากหลายทางเพศในบรูไน
แอมเนสตี้แสดงข้อกังวลต่อการลงโทษโดยการปาหินต่อผู้มีความหลากหลายทางเพศ และการตัดอวัยวะกรณีลักทรัพย์ในบรูไน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2557
สำนักเลขาธิการใหญ่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร แสดงข้อกังวลอย่างมากต่อประมวลกฎหมายอาญาในประเทศบรูไน ซึ่งกำหนดการลงโทษโดยการปาหินจนเสียชีวิตกรณีมีเพศสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกัน และการตัดอวัยวะกรณีลักทรัพย์ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในบรูไน ดารุสซาลาม ในสัปดาห์หน้า โดยมีส่วนแรกที่เริ่มนำมาใช้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2557 แล้ว
“ประมวลกฎหมายอาญาของบรูไนที่กำลังมีผลบังคับใช้ กำหนดโทษปาหินและการตัดอวัยวะ รวมทั้งการลงโทษต่อเด็ก เป็นส่วนหนึ่งของบทลงโทษที่โหดร้ายมากที่สุด”
“บรูไนต้องยุติแผนการลงโทษเช่นนี้ทันที และแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาให้สอดคล้องกับพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชน ประชาคมระหว่างประเทศต้องประณามอย่างเร่งด่วนต่อการดำเนินงานของบรูไนที่จะทำให้การลงโทษอันโหดร้ายมีผลบังคับใช้” เรเชล ชาว โฮวเวิร์ด นักวิจัยประเทศบรูไน แอมเนสตี้ อินเตอร์ชั่นแนลกล่าว
การลงโทษดังกล่าวเป็นผลมาจากการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ในส่วนของกฎหมายอิสลามของบรูไน ดารุสซาลาม ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 เมษายน 2562 ทั้งนี้จากการแจ้งเตือนแบบไม่เด่นชัดมากนักในเว็บไซต์ของสำนักงานอัยการสูงสุด เรเชล ชาว โฮวเวิร์ดกล่าวต่อว่า
“การกำหนดบทลงโทษที่โหดร้ายและไร้มนุษยธรรมในกฎหมายเป็นเรื่องที่น่าละอาย “ความผิด” บางประการตามกฎหมายนี้ไม่ควรเป็นอาชญากรรมด้วยซ้ำ รวมทั้งการมีเพศสัมพันธ์ด้วยความยินยอมระหว่างผู้ใหญ่สองคนที่มีเพศเดียวกัน”
“ข้อกฎหมายซึ่งเป็นการฏิบัติมิชอบเช่นนี้ถูกประณามอย่างกว้างขวาง เมื่อมีแผนจะประกาศใช้ตั้งแต่ห้าปีที่แล้ว”
นอกจากนี้ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลแสดงข้อกังวลอย่างมากต่อประมวลกฎหมายอาญาฉบับนี้ ซึ่งในส่วนแรกเริ่มนำมาใช้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2557 ว่า
“ประมวลกฎหมายอาญาของบรูไนมีข้อบกพร่องอย่างรุนแรง เพราะหลายข้อบทละเมิดสิทธิมนุษยชน"
“นอกจากกำหนดโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม และย่ำยีศักดิ์ศรีแล้ว ยังเป็นกฎหมายที่จำกัดอย่างกว้างขวางต่อสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออก เสรีภาพด้านศาสนาและความเชื่อ ทั้งยังเป็นการเลือกปฏิบัติอย่างเป็นระบบต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิง”
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก https://www.amnesty.or.th