รู้ยัง? ข้อห้ามก่อนเลือกตั้ง 1 วัน ขายสุรา-หาเสียงคุก 6 เดือน-ขวาง กกต. ทำงานโทษหนัก
สรุปความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง-พ.ร.บ.กกต. เข้มงวด! ก่อน 18.00 น. วันที่ 23 มี.ค. ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์-จัดเลี้ยงสุรา-หาเสียงทุกช่องทาง โทษจำคุกสูงสุด 6 เดือน กดไลค์-แชร์ เข้าข่ายด้วย ห้ามขัดขวางการเลือกตั้งโทษคุกไม่เกิน 1 ปี หากขู่ใช้กำลังประทุษร้ายโดนหนักคุก 5 ปี
ในวันที่ 24 มี.ค. 2562 จะถึงวันเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 8 ปี นับตั้งแต่ปี 2554 (ไม่นับปี 2557 ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้โมฆะ) เกิดการตื่นตัวทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่ม First Vote หรือคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งมีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกจำนวนกว่า 6.4 ล้านคน จากยอดผู้มีสิทธิเลือกตั้งราว 51.4 ล้านคน
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ในช่วงตั้งแต่เวลา 18.00 น. วันที่ 23 มี.ค. 2562 จนถึงเวลา 00.00 น. วันที่ 24 มี.ค. 2562 มีกฎหมายบังคับเคร่งครัดเกี่ยวกับเรื่องการหาเสียง และการซื้อขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากใครฝ่าฝืนมีโทษถึงขั้นจำคุก!
เพื่อให้สาธารณชน โดยเฉพาะกลุ่ม First Vote รับทราบข้อกฎหมาย สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สรุปความผิดเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ที่อยู่ในอำนาจศาลแขวง (ฟ้องคดีด้วยวาจา) ให้ทราบ ดังนี้
เบื้องต้นอยากให้ทราบข้อห้ามตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 23 มี.ค. 2562 จนถึงก่อนเวลา 00.00 น. วันที่ 24 มี.ค. 2562 ก่อน ได้แก่
ห้ามผู้สมัครหาเสียงเลือกตั้งทั้งทางวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หรือทางอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันก่อนเลือกตั้งหนึ่งวัน (วันที่ 23 มี.ค. 2562) จนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง (ก่อนเวลา 00.00 น. วันที่ 24 มี.ค. 2562)
ทั้งนี้ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หารือกับพรรคการเมือง ผู้ที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพสื่อมวลชน ทั้งสื่อหนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ด้วย
หากฝ่าฝืนระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ห้ามประชาชนทั่วไปหาเสียงทางวิทยุกระจายเสียง หรือวิทยุโทรทัศน์ รวมถึงหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวัน (วันที่ 23 มี.ค. 2562) จนถึงวันสิ้นสุดการเลือกตั้ง (ก่อนเวลา 00.00 น. วันที่ 24 มี.ค. 2562) ผู้นั้นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เช่นกัน
ประเด็นนี้นายเสรี สุวรรณภานนท์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ขยายความว่า การหาเสียงดังกล่าว หมายถึงการกดไลค์ กดแชร์ เนื้อหาเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งด้วย (ดูภาพประกอบ)
นอกจากนี้ยังรวมไปถึงผู้ใดขาย จำหน่าย จ่ายแจก หรือจัดเลี้ยงสุราทุกชนิด ในเขตเลือกตั้งในระหว่างเวลา 18.00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวัน (วันที่ 23 มี.ค. 2562) จนถึงเวลา 18.00 น. ของวันเลือกตั้ง (วันที่ 24 มี.ค. 2562) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับด้วย
ส่วนที่เหลือ ได้แก่
ผู้สมัครรับเลือกตั้งรายใดไม่ได้ทำหนังสือยืนยันการไม่ได้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอันเป็นเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5 ปี
ผู้สมัครรับเลือกตั้งรายใดปิดประกาศหรือติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งไม่เป็นไปตามที่ กกต. กำหนด ในสถานที่ที่ต้องมีขนาด และจำนวนไม่เกินที่ กกต. กำหนด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนประชาชนทั่วไป มีข้อห้ามสำคัญที่โทษสูง ได้แก่ การย้ายบุคคลใดเข้ามาในทะเบียนบ้านของตน เพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5 ปี
การขัดขวางผู้ใต้บังคับบัญชา ลูกจ้าง ไม่ให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ใดกระทำการอันเป็นเท็จเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าผู้สมัครผู้ใดกระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5 ปี
การถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งที่ลงคะแนนแล้ว ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ผู้ใดโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งทางวิทยุกระจายเสียง หรือวิทยุโทรทัศน์ รวมถึงหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือเงื่อนไขที่ กกต. กำหนด เว้นแต่เป็นการโฆษณาที่ กกต. สนับสนุน ผู้นั้นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การสำรวจความคิดเห็นของประชาชนโดยมีเจตนาไม่สุจริต มีลักษณะเป็นการชี้นำ หรือมีผลต่อการตัดสินใจในการลงคะแนนเลือกตั้ง หรือลงคะแนนไม่เลือกผู้สมัครใดจะกระทำมิได้ นอกจากนี้ยังห้ามเผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน 7 วันก่อนวันเลือกตั้ง หากผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 6 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หากผู้ใดปิดประกาศหรือติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งไม่เป็นไปตามที่ กกต. กำหนด ในสถานที่ที่ต้องมีขนาด และจำนวนไม่เกินที่ กกต. กำหนด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะเดียวกันตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 ยังบัญญัติด้วยว่า ผู้ใดขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งถ้าการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ได้กระทำโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือเพื่อให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับด้วย
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก http://www.เลือกตั้ง2562.com