ยังทำงานต่อเนื่อง เฟชบุคไล่ลบ 1.5 ล้านวิดีโอ กราดยิงมัสยิด 2 แห่งเมืองไครสต์เชิร์ช นิวซีแลนด์
โซเชียลมีเดีย ที่คนร้ายใช้ถ่ายทอดสดบุกเข้าไปกราดยิงมัสยิด ได้ถูกตั้งคำถามเป็นดาบสองคมหรือไม่ เพราะแพลตฟอร์ม ที่เข้าถึงได้อย่างกว้างขวาง ถูกแพร่กระจาย- แชร์ต่อในเวลาอันรวดเร็ว แม้ต่อมาเฟชบุคจะปิดบัญชีของผู้ก่อเหตุ และลบวิดีโอไปแล้ว แต่วิดีโอก็ถูกทำซ้ำ ส่งต่อไปมากกว่าล้านครั้ง ผ่าน Twitter,YouTube,Line and Reddit
เหตุการณ์เหตุคนร้ายกราดยิงมัสยิดลินวูด และมัสยิดอัล นูร์ ใจกลางเมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งมีการแพร่ภาพสดผ่านเฟซบุ๊ก นานกว่า 17 นาที ช่วงวันศุกร์ที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ตัวเลขล่าสุด สำนักข่าวต่างปรเทศรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 50 คนแล้ว ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 2 ขวบ ถึง 60 ปี และมีบาดเจ็บ 34 คนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลไครสต์เชิร์ช อีก 12 คนอาการสาหัส โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เชื่อว่า นายเบรนตัน ฮาร์ริสัน ทาร์เรนต์ วัย 28 ปี ชาวออสเตรเลีย ลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว
ขณะที่นางสาวจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า วันจันทร์จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ รวมถึงการปฏิรูปกฎหมาย ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายการครอบครอบอาวุธปืนด้วย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ คาดว่า ศพของผู้เสียชีวิตทั้งหมดจะส่งกลับให้ครอบครัวได้ในวันพุธที่จะถึงนี้
สำหรับบทบาทของโซเชียลมีเดีย อย่างเช่น Facebook ที่คนร้ายใช้ถ่ายทอดสดบุกเข้าไปกราดยิงมัสยิดนั้น ได้ถูกตั้งคำถามเป็นดาบสองคมหรือไม่ เพราะแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เข้าถึงได้อย่างกว้างขวาง ถูกแพร่กระจาย ถูกแชร์ต่อในเวลาอันรวดเร็วนั้น แม้ต่อมาเฟชบุคจะปิดบัญชีของผู้ก่อเหตุ และลบวิดีโอไปแล้ว แต่วิดีโอก็ถูกทำซ้ำและส่งต่อไปมากกว่าล้านครั้ง ผ่าน Twitter,YouTube,Line and Reddit
จากนั้น ได้มีการขอร้องให้ผู้คนทั่วโลกหยุดแชร์วิดีโอ เพราะนั่นคือเป้าประสงค์ที่ผู้ก่อการร้ายต้องการ หรือแม้แต่สื่อของออสเตรเลียหลายแห่ง ก็ออกอากาศภาพบางส่วนจากที่คนร้ายถ่ายทอดสด เช่นเดียวกับหนังสือพิมพ์รายใหญ่อื่น ๆ ทั่วโลก
ไม่เว้นแม้แต่นักข่าวออกมาให้สัมภาษณ์ เพียงแค่ช่วงเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงหลังจากเขาดูวิดีโอดังกล่าว และแชร์ต่อ ผ่าน Twitter มีผู้คนเข้ามาติดตาม 694,000 คน
ส่วนบรรณาธิการ Daily Mirror ทวิตข้อความว่า ได้ลบวิดีโอดังกล่าวออกแล้ว เพราะไม่สอดคล้องกับนโยบาย "มันเป็นวิดีโอโฆษณาชวนเชื่อของผู้ก่อการร้าย"
บทบาทโซเชียลมีเดีย นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ถึงกับเอ่ยปาก นี่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่เฉพาะนิวซีแลนด์เท่านั้น
ขณะที่เฟชบุคนิวซีแลนด์ ทวิตข้อความชี้แจงว่า 24 ชั่วโมงแรกตั้งแต่เกิดเหตุการณ์โศกนาฎกรรม ได้ลบวิดีโอไปแล้วกว่า 1.5 ล้านวิดีโอ และบล็อกการอัพโหลดไปแล้วมากกว่า 1.2 ล้านครั้ง ซึ่งจนถึงวันนี้เฟชบุคก็ยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อลบเนื้อหาดังกล่าว
ในประเด็นดังกล่าว “วินทร์ เลียววาริณ” นักเขียนรางวัลซีไรท์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงเหตุการณ์สังหารหมู่ครั้งนี้ ที่มือปืนถ่ายทอดสดแบบ live-stream แล้วคนในโลกโชเชียลก็แชร์ต่อกันไปเหมือนไฟป่าด้วยว่า คนที่แชร์และส่งต่อกำลังทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยฆาตกร โชเชียล มีเดีย เป็นดาบสองคม ใช้ไม่เป็นก็แชร์ทุกอย่างโดยไม่ไตร่ตรอง
"เคยนึกไหมว่าหากเหยื่อเป็นพ่อแม่ลูกของเรา เราจะรู้สึกอย่างไรที่ชาวโลกดูเหตุการณ์นั้นเหมือนดูหนังพร้อมข้าวโพดคั่วในมือ ข่าวแบบนี้มิเพียงไม่สมควรแชร์ ยังไม่สมควรดูด้วย ความรับผิดชอบเริ่มได้ง่ายๆ ที่เอาใจเขามาใส่ใจเรา"
พร้อมกับ เขาเชื่อว่าหลังเหตุการณ์นี้ ก็จะมีกรณีเลียนแบบ และการเอาคืน และอาจมีโชว์สดอีกหลายครั้ง โลกกำลังวิปริต แต่เราอย่าเป็นส่วนหนึ่งที่เพิ่มความวิปริตนั้นเลย