บุกร้องส.ต่อต้านโลกร้อนช่วยแก้“รง.ยาง” ปล่อยน้ำเน่าเดือดร้อน 6 ปี ศาลสั่งแล้วยังเฉย
ตัวแทนชาวบ้าน 13 หมู่บ้านจาก อ.บ้านกรวด บุกยื่นหนังสือถึงสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ร้องขอความช่วยเหลือติดตามตรวจสอบการแก้ปัญหาโรงงานยางพาราก่อมลพิษส่งกลิ่นเหม็น ปล่อยน้ำเสีย สร้างความเดือดร้อนชาวบ้านมานานกว่า 6 ปี หลังร้องเรียนหลายหน่วยงานแต่ไม่เป็นผล ล่าสุดยื่นฟ้องศาลปกครองมีคำสั่งให้แก้ไข แต่หน่วยงานรัฐยังเพิกเฉยไม่ดำเนินการ
วันนี้ (2 ก.ค.55) ตัวแทนชาวบ้าน 13 หมู่บ้าน ใน ต.บึงเจริญ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ นำโดยนายกิตติพงษ์ อภัยจิตต์ และนางขวัญทราย ชาร์เตอร์ เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เพื่อร้องขอให้ช่วยเหลือทางคดีและการแก้ไขปัญหา กรณี บริษัท ไทยฮั้วยางพารา จำกัด โรงงานผลิตยางพารา ที่ตั้งอยู่ใจกลางชุมชนได้ก่อมลพิษทั้งส่งกลิ่นเหม็น และปล่อยน้ำเสียลงสู่ชุมชน ทำให้ชาวบ้านโดยเฉพาะเด็ก และคนชราหลายรายเกิดอาการเจ็บป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ ทั้งยังทำให้นาข้าวของเกษตรกรที่อยู่ใกล้บริเวณโรงงานเสียหายไม่ได้ผลผลิต เดือดร้อนมานานกว่า 6 ปี ถึงแม้ที่ผ่านมาชาวบ้านเคยร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ ทั้งทางจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงเทศบาลตำบลบึงเจริญแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านแต่อย่างใด จนล่าสุดชาวบ้านที่เดือดร้อนได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองนครราชสีมา และ เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ศาลได้มีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทางโรงงานดำเนินการป้องกัน ควบคุม ขจัดกลิ่นเหม็นจากการประกอบกิจการโรงงานรีดยางพาราดังกล่าว เพื่อไม่ให้รบกวนและกระทบต่อการดำรงชีพโดยปกติสุขและสุขภาพของชาวบ้าน แต่ชาวบ้านระบุว่าจนขณะนี้ยังได้รับผลกระทบจากปัญหากลิ่นเหม็น และน้ำเสียจากโรงงานดังกล่าวอยู่ จึงไม่สามารถที่จะไปพึ่งพิงหน่วยงานใดได้ จึงได้เดินทางมายังสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนให้เข้ามาช่วยเหลือในทางคดีและการบังคับคดีให้เป็นไปตามคำสั่งของศาล นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวว่า หลังจากรับเรื่องร้องเรียนของชาวบ้านแล้วจักทำคำร้องเสนอเรื่องไปยังศาลปกครองนครราชสีมา เพื่อขอคำบังคับจากศาล ให้ศาลออกมาตรการใด ๆ เพื่อลงโทษหน่วยงานรัฐและผู้ประกอบการในฐานฝ่าฝืนคำสั่งศาล และจะได้ใช้มูลเหตุในการไม่ปฏิบัติคำสั่งศาลดังกล่าว ยื่นแถลงคำขอท้ายฟ้องเพิ่มเติมเพื่อเพิกถอนใบอนุญาตหรือปิดโรงงานดังกล่าวเป็นการถาวรต่อไป นายศรีสุวรรณกล่าวในที่สุด
