โชว์ภาพชุด 'เจ้าของแม่กิมลั้ง' รับเครื่องราชฯ ก่อน‘ดิสธร’โดนคุกปั้นเอกสารเท็จขอพระราชทานให้
"....นายดิสธร วัชโรทัย กับนางพิริยาภรณ์ โรจนวิทิตพงศ์ มีการหลอกลวงกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ด้วยการร่วมกันแสดงข้อความอันเป็นเท็จ อาศัยโอกาสที่จำเลยมีอำนาจหน้าที่ดังกล่าว จัดทำเอกสารและรับรองข้อความในแบบหนังสือรับรองแสดงรายการบริจาคทรัพย์สิน (แบบ นร.2) อันเป็นเท็จ โดยรับรองว่านางพิริยาภรณ์ พวกของจำเลย ที่ขณะนั้นดำรงตำแหน่งกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ฝ่ายบรรเทาทุกข์ กระทำความดีความชอบบริจาคทรัพย์สินเพื่อประโยชน์สาธารณกุศล เป็นเงิน 25,296,880 บาท โดยจำเลยกับพวกนำส่วนลดราคา 20% ในการขายสินค้าประเภทน้ำพริก และขนมโมจิของนางพิริยาภรณ์ ที่จำหน่ายให้แก่มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ช่วงปี 2551-2556 จากยอดขายสินค้ารวม 126,184,400 บาท คิดเป็นส่วนลด 25,296,880 บาท แล้วนำส่วนลดดังกล่าวมาเป็นหลักฐานว่า นางพิริยาภรณ์บริจาคเงินให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ อันเป็นความเท็จ...."
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอข่าวว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2561 ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาจำคุก นายดิสธร วัชโรทัย อดีตข้าราชการประจำสำนักพระราชวัง เป็นระยะเวลา 5 ปี แต่ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุให้บรรเทาโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก 2 ปี 6 เดือน ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่งหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตร่วมกันแจ้งข้อความเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหายและร่วมกันฉ้อโกงอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 341 ประกอบมาตรา 83 ขณะที่อัยการมีความเห็นไม่อุทธรณ์คำพิพากษา เนื่องจากจำเลยมีความผิดตามฟ้องและลงโทษจำเลยตามฟ้องนั้นชอบแล้ว
ขณะที่ในคำพิพากษาคดีนี้ มีการระบุชื่อ นางพิริยาภรณ์ โรจนวิทิตพงศ์ เป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งหลบหนี ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง โดยระบุพฤติการณ์ว่านายดิสธร วัชโรทัย กับนางพิริยาภรณ์ โรจนวิทิตพงศ์ มีการหลอกลวงกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ด้วยการร่วมกันแสดงข้อความอันเป็นเท็จ อาศัยโอกาสที่จำเลยมีอำนาจหน้าที่ดังกล่าว จัดทำเอกสารและรับรองข้อความในแบบหนังสือรับรองแสดงรายการบริจาคทรัพย์สิน (แบบ นร.2) อันเป็นเท็จ โดยรับรองว่านางพิริยาภรณ์ พวกของจำเลย ที่ขณะนั้นดำรงตำแหน่งกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ฝ่ายบรรเทาทุกข์ กระทำความดีความชอบบริจาคทรัพย์สินเพื่อประโยชน์สาธารณกุศล เป็นเงิน 25,296,880 บาท โดยจำเลยกับพวกนำส่วนลดราคา 20% ในการขายสินค้าประเภทน้ำพริก และขนมโมจิของนางพิริยาภรณ์ ที่จำหน่ายให้แก่มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ช่วงปี 2551-2556 จากยอดขายสินค้ารวม 126,184,400 บาท คิดเป็นส่วนลด 25,296,880 บาท แล้วนำส่วนลดดังกล่าวมาเป็นหลักฐานว่า นางพิริยาภรณ์บริจาคเงินให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ อันเป็นความเท็จ
เพราะส่วนลดในราคาในขายสินค้าอันเป็นประโยชน์ในทางการค้าตามปกติทั่วไป โดยความจริงแล้วไม่มีการนำเงินส่วนลดจำนวนดังกล่าวบริจาคให้แก่มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ แต่อย่างใด จำเลยกับพวกทราบดีว่า การกระทำดังกล่าวมิใช่การบริจาคที่จะรับการพิจารณาให้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ แต่จำเลยต้องการให้นางพิริยาภรณ์ เป็นผู้มีคุณสมบัติที่จะได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ จำเลยลงนามในฐานประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ เสนอรับรองชื่อนางพิริยาภรณ์ว่า เป็นผู้มีคุณสมบัติที่จะได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ส่งไปยังกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เพื่อเสนอต่อไปยังหน่วยราชการที่มีอำนาจหน้าที่ในการเสนอรายชื่อที่สมควรจะได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และโดยทุจริตของจำเลย
การหลอกลวงและการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และโดยทุจริตของจำเลยดังกล่าวเป็นเหตุให้กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ หลงเชื่อว่านางพิริยาภรณ์บริจาคเงินจริง และมีการเสนอชื่อนางพิริยาภรณ์ไปตามลำดับชั้น จนกระทั่งเมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2556 คณะกรรมการพิจารณาการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี 2556 ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาแล้ว มีมติอนุมัติขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ดังกล่าว ให้แก่นางพิริยาภรณ์ และโดยการหลอกลวงโดยทุจริตของจำเลยกับพวก ทำให้นางพิริยาภรณ์ได้รับพระราชทานาเครื่องราชอิสริยาภรณ์ดังกล่าว จำนวน 1 สำหรับ ราคา 14,014 บาท โดยไม่มีสิทธิที่จะได้รับแต่อย่างใด
ในคำพิพากษายังระบุข้อมูล นางพิริยาภรณ์ ว่า มีเดิมชื่อ นางอำไพ เดชอุดม เป็นเจ้าของกิจการร้านขนมหม้อแกงเมืองเพชรบุรี แม่กิมลั้ง ซึ่งขายน้ำพริกและขนมโมจิให้แก่ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ โดยเอกสารที่ใช้ประกอบข้ออ้างว่ามีการบริจาคทรัพย์สิน ระบุว่า ปี 2551 บริจาค 4.5 ล้านบาทเศษ ปี 2552 บริจาค 3.7 ล้านบาทเศษ ปี 2553 บริจาค 3.8 ล้านบาทเศษ ปี 2554 บริจาค 10.5 ล้านบาทเศษ ปี 2555 บริจาค 2.5 ล้านบาทเศษ และปี 2556 บริจาค 56,000 บาท (อ่านประกอบ :คำพิพากษาฉบับเต็ม! ‘ดิสธร’ปั้นเอกสารเท็จขอพระราชทานเครื่องราชฯให้เจ้าของร้านขนม-คุก 2 ปี 6 ด.)
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลในแฟนเพจเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ พบว่า เคยมีการโพสต์ข้อมูลและภาพถ่ายการเข้ารับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ของ นางพิริยาภรณ์ โรจนวิทิตพงศ์ เอาไว้
ระบุข้อมูลว่า วันที่ 5 ก.ย. 57 นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ในขณะนั้น) เป็นประธานในพิธีมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี 2556 แก่ผู้กระทำคุณงามความดีต่อประเทศชาติ ในนามมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ จำนวน 12 ราย ซึ่งปรากฎชื่อ นางพิริยาภรณ์ โรจนวิทิตพงศ์ เป็นผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตติยดิเรกคุณาภรณ์รวมอยู่ด้วย (ดูภาพประกอบ)
จากการตรวจสอบฐานข้อมูลในโลกออนไลน์ ยังพบว่า นางพิริยาภรณ์ โรจนวิทิตพงศ์ เคยปรากฎชื่อเป็นเจ้าของสวนสัตว์ ในจังหวัดเพชรบุรี ที่ชื่อว่า “เดอะ ฟิลด์ แอนนิมอลส์ ดรีม” (The Field Animals Dream ) เปิดตัวดำเนินธุรกิจในช่วงต้นปี 2559 โดยในการจัดงานเปิดตัวสวนสัตว์ดังกล่าว มีนายดิสธร วัชโรทัย เดินทางไปร่วมถ่ายภาพแสดงความยินดีด้วย (ที่มาข้อมูลจากhttps://mgronline.com/entertainment/detail/9590000037952 )
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ในช่วงเย็นวันที่ 8 มี.ค.2562 ที่ผ่านมา ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยัง ร้านขนมหม้อแกงเมืองเพชรบุรี แม่กิมลั้ง เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ นางพิริยาภรณ์ โรจนวิทิตพงศ์
เบื้องต้น ได้รับแจ้งข้อมูลจากคนในร้านว่า นางพิริยาภรณ์ ไม่ได้อยู่ที่สำนักงาน และปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับ นางพิริยาภรณ์ ทั้งสิ้น
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
สารภาพลดโทษเหลือจำคุก 2 ปี 6 ด. 'ดิสธร วัชโรทัย' คดีปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต-ฉ้อโกง
ไล่ออก 'ดิสธร วัชโรทัย' ชี้ประพฤติชั่วร้ายแรง
พลิกปูมเส้นทาง ‘ดิสธร’ ปี 42 ถึง 60 - กก. 3 บริษัท ก่อนถูกไล่ออกราชการ