8เดือนผลสอบ'ผอ.ขนมจีน'เงียบ จ่อบุกทวงถาม'บิ๊กศธ.'
เครือข่ายผู้ปกครองโรงเรียนบ้านท่าใหม่ รวมตัวกันทวงถามความคืบหน้า กรณี "ผอ.รร." ปล่อยเด็กกินขนมจีนคลุกน้ำปลา ซึ่งเหตุการณ์ผ่านไปนานแล้วถึง 8 เดือน แต่ผลสอบวินัยร้ายแรงยังไม่แล้วเสร็จ เตรียมเข้าพบ "บิ๊กกระทรวงศึกษาฯ" เพื่อสอบถามความเคลื่อนไหว
จากกรณีเมื่อช่วงเดือน มิ.ย. 2561 ผู้ใช้เฟชบุ๊ก @ชมรมstrong-จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้โพสต์คลิปเด็กนักโรงเรียนชั้นอนุบาล โรงเรียนบ้านท่าใหม่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี กำลังกินอาหารกลางวันที่ทางโรงเรียนจัดให้ ซึ่งในจานมีเพียงเส้นขนมจีนเปล่าคลุกกับน้ำปลา ไม่อาหารอื่นใดๆเลย ซึ่งหลังมีการโพสต์คลิปวิดีโอดังกล่าว ปรากฏมีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างเผ็ดร้อนเป็นจำนวนมาก จนนำไปสู่การสั่งย้าย นายสมเชาว์ สิทธิเชนทร์ ผอ.โรงเรียนบ้านท่าใหม่ ไปปฎิบัติหน้าที่ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฯ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2562 นายประวิง ถ่องวิถี พร้อมด้วยตัวแทนเครือข่ายผู้ปกครองโรงเรียนบ้านท่าใหม่ รวมตัวกันเข้าพบผู้สื่อข่าว เพื่อขอให้เป็นสื่อกลางช่วยติดตามทวงถามความคืบหน้าในกรณีนี้ โดยเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.2561 นายชุมพล ศรีสังข์ ศภจ.สุราษฎร์ธานี ได้มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง 5 ประเด็น ได้แก่ ทุจริตงบประมาณซ่อมแซมไฟฟ้า 2.ทุจริตโครงการอาหารกลางวัน3.การขายผลปาล์มดิบของรร.และไม่นำเงินเข้าบัญชีรร. 4. ทุจริตโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตในรร.มีการใช้งบฯซ้ำซ้อน 3 แสนบาทและ 5. ให้มีการขายเครื่องดื่มน้ำอัดลมในรร.และให้นายสมเชาว์ ผอ.รร.บ้านท่าใหม่ ออกราชการไว้ก่อน ขณะที่สำนักงาน ปปช.ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้สรุปสำนวนกรณีโครงการอาหารกลางวันว่ามีมูลความผิดและส่งเรื่องให้ปปช.กลาง ดำเนินการตามขั้นตอน
ด้าน นายประวิง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ มีหลายหน่วยงานเข้าไปสอบสวน จนกระทั่งมีการแต่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัย จนวันนี้ล่วงเลยมาแล้ว 8 เดือน แต่เครือข่ายผู้ปกครองยังไม่ทราบความคืบหน้าหรือความเคลื่อนไหวใด ๆ ทั้ง ๆ ที่การสอบสวนวินัยร้ายแรง มีคำสั่งให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 30 วัน แม้จะเข้าใจดีว่าในระบบราชการสามารถดำเนินการได้ถึง 180 วัน แต่ขณะนี้เวลาล่วงเลยมาแล้วกว่า 240 วัน ยังมีคณะกรรมการสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเข้าไปสอบปากคำชาวบ้านและพยานอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นไปในลักษณะให้ความผิดของอดีต ผอ.ลดน้อยลง รวมถึงมีความพยายามกดดันผู้เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลืออดีต ผอ.คนดังกล่าว
“ตอนนี้เราไม่มีความมั่นใจในคณะกรรมการสอบสวนวินัยของจังหวัดที่การทำงานล่าช้าแล้วยังส่อไปในทางช่วยเหลือกัน หากผลการสอบสวนวินัยยังไม่แล้วเสร็จ เครือข่ายผู้ปกครองจะรวมตัวกันเดินทางไปพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อทวงถามความคืบหน้าด้วยตนเอง ส่วนการดำเนินการของ ปปช.ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทราบว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของ ปปช.กลาง ซึ่งเราก็เข้าใจขั้นตอนการดำเนินการดี” นายประวิง กล่าว.