เปิดคำพิพากษา อบต.ลานดอกไม้ ฟ้องโดนเบี้ยวโอนกรรมสิทธิ์รถ-ชื่อบ.ปริศนาโผล่ร้องสอดด้วย
“...ต่อมา ศาลมีคำสั่งเรียก บริษัท ไทยธาดาทรัค จำกัด เข้ามาเป็นผู้ร้องสอด โดยกำหนดให้เป็นคู่กรณีฝ่ายที่สาม ผู้ร้องสอดให้การว่า ผู้ถูกฟ้องฯ ได้ตกลงซื้อรถยนต์คันพิพาท ยี่ห้อมิตซูบิชิ หมายเลขเครื่อง 6M60-133532 หมายเลขตัวถัง MMGFM65F15C000263 กับผู้ร้องสอด เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2553 ทางโทรสาร โดยขอซื้อรถยนต์จำนวนสองคันพร้อมกันประเภทเดียวกันกับรถยนต์คันพิพาทในราคาคันละ 1,320,000 บาท โดยตกลงว่าต้องชำระเงินทั้งหมดภายในวันที่ 5 เม.ย. 2553 เมื่อชำระเงินทั้งหมดแล้ว จึงจะส่งมอบเอกสารเกี่ยวกับการจดทะเบียนรถทั้งหมดให้แก่ผู้ถูกฟ้องฯ แต่เมื่อครบกำหนดชำระเงินแล้ว ผู้ถูกฟ้องฯ ไม่ชำระเงินดังกล่าว ...”
สืบเนื่องจาก สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ในช่วงปี 2560 บริษัท พี.อี.ไฮท์ (ประเทศไทย) จำกัด คู่เทียบ หจก.ธีรา มอเตอร์ ทรัค ในการประกวดราคาแข่งขันงานโครงการจัดซื้อรถบรรทุกน้ำ ขนาดความจุ 6,000 ลิตร จำนวน 1 คัน ของ เทศบาลตำบลวังไทร อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ถูก ศาลปกครองพิษณุโลก พิพากษาให้ดำเนินการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ผู้ครอบครองรถยนต์บรรทุกน้ำดับเพลิงแบบเอนกประสงค์ พร้อมชำระค่าปรับ 199,400 บาท แก่ องค์การบริหารส่วนตำบลลานดอกไม้ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ผู้ฟ้องคดี ตามคดีหมายเลขแดงที่ 45/2560 ลงวันที่ 8 มี.ค. 2560
โดยปรากฏข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2553 บริษัท พี.อี.ไฮท์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ทำสัญญาขายรถบรรทุกน้ำดับเพลิงแบบอเนกประสงค์ให้กับ องค์การบริหารส่วนตำบลลานดอกไม้ โดยส่งมอบรถให้เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2553 แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนกรรมสิทธิ์ผู้ครอบครองในนาม อบต.ลานดอกไม้ แต่อย่างใด ต่อมา อบต.ลานดอกไม้ จึงฟ้องดำเนินคดีกับบริษัทฯ ซึ่งศาลปกครองพิษณุโลกได้มีคำสั่งพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องดำเนินการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ผู้ครอบครองรถยนต์บรรทุกน้ำดับเพลิงแบบเอนกประสงค์ พร้อมชำระค่าปรับ 199,400 บาท แก่ อบต.ลานดอกไม้ ผู้ฟ้องคดี ให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับแต่คดีถึงที่สุด แต่ บริษัท พี.อี.ไฮท์ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่ได้ดำเนินการตามคำพิพากษาแต่อย่างใด (อ่านประกอบ : สาวลึก! คู่เทียบ แข่งขายรถบรรทุกเทศบาลวังไทรโคราช โดนอบต.ลานดอกไม้ฟ้อง เบี้ยวโอนกรรมสิทธิ์รถ)
ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบข้อมูลเพิ่มเติมว่า หจก.ธีรามอเตอร์ทรัค ปรากฏชื่อเป็นผู้ชนะในสัญญาเลขที่ 1/2553 ซื้อรถบรรทุกน้ำ ขนาดความจุ 6,000 ลิตร จำนวน 1 คันของ เทศบาลตำบลวังไทร อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มูลค่าตามสัญญา 1,599,000 บาท วันที่ทำสัญญา 6 ต.ค. 2552 วันที่สิ้นสุดสัญญา 5 พ.ย. 2552 ปรากฏรายชื่อเอกชนเข้าแข่งขัน คือ บริษัท พี.อี.ไฮท์ (ประเทศไทย) จำกัด หจก.ธีรามอเตอร์ทรัค และ บริษัท สยาม คอนโทรลเทค เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
สถานะปัจจุบันเอกชนทั้ง 3 ราย ไม่ได้ประกอบกิจการแล้ว หจก.ธีรามอเตอร์ทรัค สถานะปัจจุบัน เสร็จการชำระบัญชี บริษัท พี.อี.ไฮท์ (ประเทศไทย) จำกัด ปัจจุบันถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ส่วน บริษัท สยาม คอนโทรลเทค เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ปัจจุบันมีสถานะร้าง
ส่วนการตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้งของ หจก.ธีรา มอเตอร์ ทรัค และ บริษัท พี.อี.ไฮท์. (ประเทศไทย) จำกัด ที่แจ้งไว้ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า บุคคลที่ปรากฏชื่อเป็นผู้ถือหุ้น และผู้ก่อการตั้งบริษัท แจ้งที่อยู่ใน ต.โคกเพชรพัฒนา อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ เหมือนกัน และเลขที่บ้านยังเป็นหมายเลขเรียงติดกันด้วย (อ่านประกอบ : พบเอกชนรายใหม่ แข่งขายรถบรรทุก อปท.เพียบ 15 ล. ล่าสุดแจ้งเลิกกิจการอีกแล้ว , ไส้ในเอกชนกลุ่มที่4 แข่งขายรถบรรทุกเทศบาลวังไทร โคราช ศาลพิทักษ์ทรัพย์/เลิกกิจการยกก๊วน , แจ้งที่อยู่เรียงติดกัน! พบหลักฐานใหม่ กก.-ผู้ก่อตั้ง2เอกชน แข่งขายรถเทศบาลวังไทรโคราช)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลคำพิพากษาศาลปกครองพิษณุโลก ในคดีที่ องค์การบริหารส่วนตําบลลานดอกไม้ ฟ้องร้อง บริษัท พี.อี.ไฮท์ (ประเทศไทย) จํากัด ดังกล่าว
พบว่า มีชื่อ บริษัท ไทยธาดาทรัค จํากัด ปรากฎอยู่ด้วย ในฐานะผู้ร้องสอด ปรากฎข้อมูลดังนี้
- อบต.ลานดอกไม้ ผู้ฟ้องฯ ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2553 ได้ทำสัญญาซื้อรถยนต์บรรทุกน้ำดับเพลิงแบบเอนกประสงค์ จำนวน 1 คัน ราคา 1,994,000 บาท จาก บริษัท พี.อี.ไฮท์ (ประเทศไทย) จํากัด ผู้ถูกฟ้องฯ โดยผู้ถูกฟ้องฯ ต้องส่งมอบรถพร้อมจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ผู้ครอบครอง ภายในวันที่ 25 พ.ค. 2553 ให้ถูกต้องและครบถ้วนตามสัญญา และต่อมาเมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2553 ผู้ถูกฟ้องฯ ได้ส่งมอบรถยนต์ดังกล่าว โดยคณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ตรวจรับไว้ โดยมอบอำนาจให้ นายณัฐนันท์ พิศจำรูญ ผู้รับมอบอำนาจจากผู้ถูกฟ้องฯ ไปดำเนินการนำรถยนต์คันดังกล่าวไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ และได้โอนเงินชำระค่ารถผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ สาขากำแพงเพชร ให้ผู้ถูกฟ้องฯ โดยมีผู้รับมอบอำนาจจากผู้ถูกฟ้องฯ เป็นผู้รับเงิน แต่ผู้ถูกฟ้องฯ ไม่ได้ไปดำเนินการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ผู้ครอบครองในนามของผู้ฟ้องฯ อีกทั้งผู้ฟ้องฯ ได้มีหนังสือส่งไปยังผู้ถูกฟ้องฯ ให้ดำเนินการ แต่ผู้ถูกฟ้องฯ ยังเพิกเฉย จึงขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งต่อไปนี้
1. ให้ผู้ถูกฟ้องฯ ดำเนินการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ผู้ครอบครองและประกอบการขนส่งรถยนต์บรรทุกน้ำดับเพลิงแบบเอนกประสงค์คันพิพาทตามสัญญา ในนามของผู้ฟ้องฯ
2. ให้ผู้ถูกฟ้องฯ ชำระเงินจำนวน 6,197,352 บาท ให้แก่ผู้ฟ้องฯ
3. ให้ผู้ถูกฟ้องฯ ชำระค่าปรับในอัตราร้อยละ 0.20 ของเงินต้นจำนวน 1,994,000 บาท นับจากวันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระให้ผู้ฟ้องฯ เสร็จสิ้น
ต่อมา ศาลมีคำสั่งเรียก บริษัท ไทยธาดาทรัค จำกัด เข้ามาเป็นผู้ร้องสอด โดยกำหนดให้เป็นคู่กรณีฝ่ายที่สาม ผู้ร้องสอดให้การว่า ผู้ถูกฟ้องฯ ได้ตกลงซื้อรถยนต์คันพิพาท ยี่ห้อมิตซูบิชิ หมายเลขเครื่อง 6M60-133532 หมายเลขตัวถัง MMGFM65F15C000263 กับผู้ร้องสอด เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2553 ทางโทรสาร โดยขอซื้อรถยนต์จำนวนสองคันพร้อมกันประเภทเดียวกันกับรถยนต์คันพิพาทในราคาคันละ 1,320,000 บาท โดยตกลงว่าต้องชำระเงินทั้งหมดภายในวันที่ 5 เม.ย. 2553 เมื่อชำระเงินทั้งหมดแล้ว จึงจะส่งมอบเอกสารเกี่ยวกับการจดทะเบียนรถทั้งหมดให้แก่ผู้ถูกฟ้องฯ แต่เมื่อครบกำหนดชำระเงินแล้ว ผู้ถูกฟ้องฯ ไม่ชำระเงินดังกล่าว
ต่อมาได้ทวงและภายหลังผู้ถูกฟ้องฯ ได้ชำระเงินให้ผู้ร้องสอดบางส่วน จำนวน 5 ครั้ง ครั้งละ 100,000 บาท รวม 500,000 บาท ซึ่งยังไม่ครบตามจำนวน
จากนั้น เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2553 ผู้ถูกฟ้องฯ ได้มาทำสัญญากับผู้ร้องสอดว่าเป็นหนี้ค้างชำระแก่ผู้ร้องสอด จำนวน 2,140,000 บาท โดยผู้ถูกฟ้องฯ ได้ออกเช็คธนาคารกรุงไทย สาขาบำเหน็จณรงค์ จำนวน 2 ใบ จำนวนเงินใบละ 1,320,000 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 2,640,000 บาท มาวางประกันในการซื้อขายรถพิพาทคันนี้ โดยตกลงกับผู้ถูกฟ้องฯ ว่าต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อ 3 ของสัญญา ซึ่งกำหนดให้กรรมสิทธิ์ในสินค้ายังไม่โอนไปเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อจนกว่าผู้ซื้อจะได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขแห่งการชำระค่าสินค้าครบถ้วนก่อน ผู้ร้องสอดจึงจะส่งมอบเอกสารเกี่ยวกับการจดทะเบียนรถให้ ปรากฏว่าจนกระทั่งปัจจุบันผู้ถูกฟ้องคดีก็ไม่ชำระเงิน 2,640,000 บาท ให้แก่ผู้ร้องสอด
ผู้ฟ้องฯ ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกไม่มีนิติสัมพันธ์กับผู้ร้องสอด จึงไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องให้ผู้ร้องสอดส่งมอบเอกสารเกี่ยวกับการจดทะเบียนรถให้แก่ผู้ฟ้องฯ โดยเป็นเรื่องที่ผู้ฟ้องฯ จะต้องไปบังคับและว่ากล่าวกันเอง
นอกจากนี้ตามสัญญาซื้อขาย การที่ผู้ฟ้องฯ ชำระเงินโดยโอนเงินผ่านธนาคารให้ผู้ถูกฟ้องฯ ทั้งหมด โดยที่ผู้ถูกฟ้องฯ ยังไม่ได้จดทะเบียนกรรมสิทธิ์ให้นั้น เป็นเรื่องที่ผู้ฟ้องฯ จงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ทำให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ ซึ่งไม่เกี่ยวกับผู้ร้องสอด
ศาลพิจารณาคดี เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2559 เห็นว่า ผู้ถูกฟ้องฯ เป็นผู้ประพฤติผิดสัญญาซื้อขายรถยนต์บรรทุกน้ำดับเพลิงแบบเอนกประสงค์ เลขที่ 3/2553 ลงวันที่ 26 มี.ค. 2553
ส่วนการชำระค่าปรับตามสัญญาดังกล่าวให้แก่ผู้ฟ้องฯ เห็นว่า คดีนี้ปรากฏข้อเท็จจริงว่าหลังจากครบกำหนดการส่งมอบ ผู้ถูกฟ้องฯ ไม่สามารถจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ผู้ครอบครองในนามผู้ฟ้องฯ ได้ถูกต้องครบถ้วนตามสัญญา แต่ผู้ฟ้องฯ ยังคงปล่อยเวลาออกไปโดยมิได้บอกเลิกสัญญา และไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผู้ถูกฟ้องฯ ได้ตกลงยินยอมเสียค่าปรับให้แก่ผู้ฟ้องคดีโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ เมื่อผู้ฟ้องฯ นำคดียื่นฟ้องต่อศาลปกครองในวันที่ 27 ส.ค. 2557 และมีคำขอใช้สิทธิปรับผู้ถูกฟ้องฯ เป็นรายวันในอัตราร้อยละ 0.20 ของราคารถยนต์จำนวน 1,994,000 บาท เป็นจำนวนเงิน 6,197,352 บาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 32.17 ของราคารถยนต์คันพิพาท กรณีจึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามที่กำหนดไว้ในข้อ 60 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุขององค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2538 ดังกล่าว
และเห็นว่าเงินค่าปรับที่สูงเกินส่วน ซึ่งศาลมีอำนาจจะลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้ตามมาตรา 383 วรรคหนึ่ง แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ดังนั้น จึงให้ลดค่าปรับลงเหลือร้อยละสิบของวงเงินค่าพัสดุหรือค่าจ้าง คิดเป็นเงิน จำนวน 199,400 บาท
ส่วนกรณีที่ผู้ฟ้องฯ มีคำขอให้ผู้ร้องสอดส่งมอบเอกสารเกี่ยวกับการจดทะเบียนรถให้แก่ผู้ฟ้องฯ นั้น เห็นว่า เมื่อผู้ร้องสอดมิใช่คู่สัญญากับผู้ฟ้องฯ ศาลปกครองจึงไม่อาจกำหนดคำบังคับให้ผู้ร้องสอดต้องส่งมอบเอกสารเกี่ยวกับการจดทะเบียนรถกันพิพาทให้แก่ผู้ฟ้องคดีได้ตามมาตรา 72 วรรคหนึ่ง (3) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542
ดังนั้น ผู้ถูกฟ้องฯ ในฐานะผู้ขายรถพิพาทให้แก่ผู้ฟ้องฯ ย่อมมีหน้าที่ตามข้อ 6 ของสัญญาซื้อขายที่พิพาทในการดำเนินการจดทะเบียนรถยนต์คันพิพาทให้แก่ผู้ฟ้องฯ ต่อไป
พิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องฯ ดำเนินการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ผู้ครอบครองรถยนต์บรรทุกน้ำดับเพลิงแบบอเนกประสงค์ในนามผู้ฟ้องฯ พร้อมทั้งชำระค่าปรับ เป็นเงินจำนวน 199,400 บาทให้แก่ผู้ฟ้องฯ และให้ผู้ถูกฟ้องฯ ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด คืนค่าธรรมเนียมศาลตามส่วนของการชนะคดีให้แก่ผู้ฟ้องฯ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จากข้อมูลคำพิพากษาดังกล่าว ทำให้ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับที่มาของรถบรรทุกน้ำดับเพลิง ว่า เดิมที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ บริษัท ไทยธาดาทรัค จำกัด ซึ่งขายต่อให้กับ บริษัท พี.อี.ไฮท์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อนที่จะนำไปทำสัญญาขายต่อให้กับ อบต.ลานดอกไม้ อีกทอดหนึ่ง
แต่บริษัทพี.อี.ไฮท์ฯ ยังไม่ได้ชำระเงินค่ารถที่ซื้อมาจาก บริษัทไทยธาดาฯ ได้ครบถ้วนตามสัญญา บริษัทไทยธาดาฯ จึงมิได้โอนกรรมสิทธิ์ไปเป็นของ บริษัทพี.อี.ไฮท์ฯ ทำให้ บริษัทพี.อี.ไฮท์ฯ ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ต่อไปเป็นของอบต.ลานดอกไม้ได้
คำถามที่น่าสนใจ คือ เงินค่ารถบรรทุก ที่ อบต.ลานดอกไม้ได้ จ่ายให้ไปแล้ว บริษัทพี.อี.ไฮท์ฯ ไปอยู่ที่ไหน?
ทั้งนี้ สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท ไทยธาดาทรัค จำกัด พบว่า ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เอสเค ยูสคาร์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2550 ทุน 5 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 9/9 ม.3 ต.บางตีนเป็ด อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
แจ้งประกอบธุรกิจ จำหน่ายรถยนต์
ปรากฏชื่อ นายกำธร พฤฒิธาดา เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง บริษัท เอสเค ยูสคาร์ จำกัด (ชื่อเดิม บริษัท ไทยธาดาทรัค จำกัด) เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ตามหมายเลขโทรศัพท์ 03-898-xxxx ที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เบื้องต้น เสียงตอบรับอัตโนมัติแจ้งว่าเป็นหมายเลขของ "มิตซูไทยธาดาฉะเชิงเทรา"
ต่อมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ แจ้งว่า เบอร์โทรศัพท์ดังกล่าวนี้เป็นของสำนักงานใหญ่ของบริษัทในเครือไทยธาดาทั้งหมด ซึ่งมี 6 บริษัท โดยบริษัท ไทยธาดาทรัค จำกัด เป็นชื่อเดิมของ บริษัท เอสเค ยูสคาร์ จำกัด จริง ส่วนเรื่องคดีที่ผู้สื่อข่าวสอบถาม จะรับเรื่องไว้ ให้ฝากเบอร์ติดต่อไว้และจะติดต่อกลับไปอีกครั้ง
ทั้งนี้ ในส่วนปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักข่าวอิศราได้ติดต่อไปยัง องค์การบริหารส่วนตำบลลานดอกไม้ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้อีกครั้ง เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ อบต.ลานดอกไม้ แจ้งว่า จะประสานเรื่องกับผู้ดูแลเรื่องนี้ให้และจะติดต่อกลับมาอีกครั้ง
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
สาวลึก! คู่เทียบ แข่งขายรถบรรทุกเทศบาลวังไทรโคราช โดนอบต.ลานดอกไม้ฟ้อง เบี้ยวโอนกรรมสิทธิ์รถ
แจ้งที่อยู่เรียงติดกัน! พบหลักฐานใหม่ กก.-ผู้ก่อตั้ง2เอกชน แข่งขายรถเทศบาลวังไทรโคราช
ไส้ในเอกชนกลุ่มที่4 แข่งขายรถบรรทุกเทศบาลวังไทร โคราช ศาลพิทักษ์ทรัพย์/เลิกกิจการยกก๊วน
พบเอกชนรายใหม่ แข่งขายรถบรรทุก อปท.เพียบ 15 ล. ล่าสุดแจ้งเลิกกิจการอีกแล้ว
ประเดิมโคราชที่แรก! พบข้อมูล บ.ก๊วน'คิงส์-ทีซีซีฯ-เฟริสท์' แข่งขายรถบรรทุกครบ 3 กลุ่ม
@ กลุ่ม บริษัท เฟริสท์ อินโนเวชั่น จำกัด
เปิดยิบที่มา2บ.กลุ่มเดียวกันแข่งขายรถบรรทุกอบต.หินโคนบุรีรัมย์-วงเงินรวมพุ่ง 122 ล.
สูตรเดิมเป๊ะ! พบหลักฐานมัด 2บ.แข่งขายรถบรรทุกอบต.หินโคนบุรีรัมย์ ที่แท้กลุ่มเดียวกัน
เปิดไส้ในเอกชนกลุ่ม 3 แข่งขายรถบรรทุกอบต.หินโคน บุรีรัมย์ ร้าง/เลิกกิจการยกก๊วนอีกแล้ว
พบเอกชนรายใหม่ โกยขายรถบรรทุก อปท. เพียบ 36 สัญญา 83 ล. แจ้งเลิกกิจการปริศนา?
@ กลุ่มหจก. ที.ซี.ซี เทรลเลอร์ แอนด์ ทรัค
ชัดแล้ว! หญิงวัย 33ปี เจ้าของหจก.โกยขายรถท้องถิ่น253ล.แค่นอมินี ถูกเถ้าแก่ราชบุรียืมชื่อใช้
เปิดตัวชายวัย 44ปี หุ้นใหญ่หจก.คู่เทียบแข่งขายรถสุรินทร์ บ้านอยู่สกลฯ-โดนฟ้องภาษี1.1ล.
บ้านอยู่ขอนแก่น! เปิดตัวหญิงวัย33 ปี หุ้นใหญ่ หจก. ขายรถสุรินทร์ โดนฟ้องภาษี134 ล.
พบหลักฐานมัด 'หจก.-คู่เทียบ' แข่งขายรถบรรทุกสุรินทร์ ใช้พยาน-ผู้รับมอบอำนาจ-อีเมล์ เดียวกัน
เบื้องหลัง!หจก.-คู่เทียบ แข่งขายรถบรรทุกสุรินทร์ ล้มละลายยกก๊วน-โดนสรรพากรฟ้องภาษีร้อยล.
เช็คสถานะ 3 'คู่เทียบ' หจก.แข่งงานขายรถบรรทุกน้ำสุรินทร์ 'ล้มละลาย-ร้าง' หมดแล้ว
เปิดตัวหจก.ขายรถบรรทุกน้ำท้องถิ่นสุรินทร์ ได้งานรัฐ 123 ส. 253ล. ศาลฯสั่งพิทักษ์ทรัพย์
@ กลุ่มบริษัท คิงส์ ดีเวลลอปเมน์ จำกัด
พบ 2 บ.แข่งขายรถบรรทุกขยะ-น้ำ เทศบาลต.หนองไข่น้ำ 4 ล้าน ถูกป.ป.ช.สอบคดีฮั้ว(1)
อิศรา' เปิดหลักฐานมัด 2 บ.แข่งขายรถบรรทุกขยะ-น้ำ เทศบาลต.หนองไข่น้ำ กลุ่มเดียวกัน?(2)
เบื้องลึก! จัดซื้อรถน้ำเทศบาลต.หนองไข่น้ำ -ปูด บ.คิงส์ฯ กวาดสัญญาขายทั่วปท.เป็นร้อยล.(3)
119 สัญญา 271ล.! เจาะบ.คิงส์ กวาดงานขายรถบรรทุกท้องถิ่นทั่วปท. (4)
ถึงคิว! เจาะคู่เทียบบ.คิงส์ คว้าขายรถท้องถิ่น42 สัญญา 98.9 ล.-รวม 2 แห่งเงินพุ่ง 370ล. (5)
เผยโฉมหนุ่มหนองบัวลำภู เจ้าของ-ที่มา บ.คิงส์ โกยงานขายรถบรรทุกท้องถิ่นทั่วปท.271ล.(6)
หนุ่มมุกดาหารวัย20หุ้นใหญ่ แจ้งชื่อออกปี55! เปิดที่มา'คู่เทียบ'บ.คิงส์ โกยขายรถท้องถิ่น98ล.(7)
ใช้ 'ทาวน์เฮ้าส์-บ้านเดี่ยว' แจ้งที่ตั้ง! ตามไปดู บ.คิงส์ โกยงานขายรถบรรทุกท้องถิ่น 271ล. (8)
ความลับแตก! หนุ่มหนองบัวลำภู เจ้าของบ.คิงส์ฯ โกยงานขายรถท้องถิ่น271ล.ที่แท้แค่คนงาน?(9)
เหลือแค่ที่ดินโล่ง-แคมป์คนงาน! ข้อมูลล่าสุด 'คู่เทียบ' บ.คิงส์โกยขายรถท้องถิ่นร้อยล.(10)
ใช้ชื่อคนงานตั้งบ.เพียบ! ล้วงผลสอบจัดซื้อรถเทศบาลหนองไข่น้ำ-ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหานับ10ราย(11)
คฤหาสน์2ชั้นหลังใหญ่! เปิดที่อยู่เจ้าของ 'คู่เทียบ' บ.คิงส์ โกยขายรถท้องถิ่นร้อยล.(12)
คราวนี้เจ้าของคนมุกดาหาร! เปิดตัว 'คู่เทียบ' รายใหม่ บ.คิงส์ แข่งขายรถบรรทุกท้องถิ่นปี 60 (13)
โป๊ะแตก! แจ้งเบอร์โทรผู้ก่อตั้งบ.เหมือนกัน-หลักฐานชัด ไทยคาร์ฯ กลุ่มเดียวบ.คิงส์ (14)
เช็คชื่อ 50 เทศบาล-อบต.ซื้อรถบรรทุกบ.คิงส์ฯ แข่งคู่เทียบกลุ่มเดียวกัน-เงินพุ่ง652ล.(15)
เผยโฉม'สาวมุกดาหาร' เจ้าของ-ที่มาคู่เทียบแห่ง2 บ.คิงส์ฯ โกยงานขายรถท้องถิ่น 652ล. (16)
ใช้ทาวน์เฮ้าส์ที่ตั้ง-ย้ายออกแล้ว! ตามไปดูบ.ไทยคาร์ คู่เทียบแห่ง2 โกยขายรถท้องถิ่น652ล. (17)
INFO:ผ่าขบวนการจัดซื้อรถบรรทุกเทศบาล-อบต.ทั่วปท. 50แห่ง บ.กลุ่มเดียวแข่งงานโกย652ล. (18)
ยอดพุ่ง791ล.! บ.รุ่งเจริญฯ คู่เทียบรายที่3 กลุ่มเดียวกันแข่งขายรถบรรทุกท้องถิ่นทั่วปท.(19)
เปิดครบชุด! หลักฐานมัด 3 คู่เทียบ กลุ่มเดียวบ.คิงส์ฯ แข่งขายรถบรรทุกท้องถิ่นโกย791ล.(20)
ล่าสุด 81แห่ง! เช็คชื่อเทศบาล-อบต.ซื้อรถกลุ่มบ.คิงส์791ล.-เจ้าของ'คู่เทียบ' ปิดFBหนี? ( 21)
กางแผนที่ 38 จว. 81 เทศบาล-อบต. จุดแข่งงานกลุ่มบ.คิงส์ฯ ขายรถท้องถิ่นโกย 791ล. (22)
ฉบับเต็ม! ผลสอบสตง. จัดซื้อรถเทศบาลหนองไข่น้ำ สเปคไม่ตรงมาตรฐานครุภัณฑ์-เอาเปรียบรัฐ
ล้วงผลสอบสตง.ชง ป.ป.ช.ฟันจัดซื้อรถเทศบาลหนองไข่น้ำ-หลักฐานชัดบ.แข่งงานกลุ่มเดียวกัน
ข้อมูล'อิศรา'เป็นผล! สตง.สั่งปูพรมตรวจสัญญาจัดซื้อรถบรรทุกเทศบาล-อบต.ทั่วปท.652 ล้าน