เจาะทรัพย์สิน 79 ล.‘พงษ์ภาณุ’อดีตปลัด ทท.-นั่ง กก 3.บ.มีเครือ‘เจ้าสัวเจริญ-วิทยา’
ทำความรู้จัก ‘พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์’ จากอดีตรองปลัดคลัง ขึ้นสู่ปลัด ก.ท่องเที่ยวฯ แต่ไขก๊อกทั้งที่อายุราชการเหลือ 10 เดือน แจ้งทรัพย์สินพร้อมภรรยารวม 79 ล้าน มีรายได้ต่อปี 19 ล้าน นั่ง กก. เอกชนยักษ์ใหญ่ 3 แห่ง มีทั้งเครือ ‘เจ้าสัวเจริญ-วิทยา อินาลา’
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานแล้วว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงครั้งแรก ตามประกาศ ป.ป.ช. ฉบับใหม่ที่มีผลเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2561 ที่ผ่านมา โดยมีผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงพ้นจากตำแหน่ง 4 ราย และเข้ารับตำแหน่ง 3 ราย (อ่านประกอบ : ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สินผู้ดำรง ตน.ระดับสูง 7 ราย-ผอ.นิติวิทย์ อู้ฟู่สุด 98 ล.อดีตปลัดทท.79 ล.)
ชื่อที่น่าสนใจคือนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อดีตปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ยื่นขอ ‘ไขก๊อก’ โดยระบุเหตุผลว่า ถูกชักชวนให้ไปนั่งเป็นกรรมการบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ แม้ว่านายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา จะขอให้ทบทวนการตัดสินใจก็ตาม แต่เจ้ายันยืนยันขอลาออกเหมือนเดิม
ในการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของ ป.ป.ช. นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ แจ้งว่า พ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2561 มีทรัพย์สิน 51,636,972 บาท
แบ่งเป็น เงินฝาก 19,319,414 บาท เงินลงทุน 15,897,558 บาท ที่ดิน 8,770,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 5 ล้านบาท ยานพาหนะ 2.2 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่น (ที่มีราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 4.5 แสนบาท ไม่มีหนี้สิน
ส่วนนางจณัญญา เศวตรุนทร์ (สกุลเดิม ภัทรวนากุล) คู่สมรส มีทรัพย์สิน 27,904,616 ล้านบาท
แบ่งเป็น เงินฝาก 12,371,319 บาท เงินลงทุน 3,883,296 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 9.8 ล้านบาท ทรัพย์สินอื่น 1,850,000 บาท ไม่มีหนี้สิน
เบ็ดเสร็จทั้งคู่มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 79,541,588 บาท ไม่มีหนี้สิน
ที่น่าสนใจอยู่ในส่วนของรายได้ โดยนายพงษ์ภาณุ แจ้งว่า มีรายได้ต่อปีรวม 19,495,207 บาท แบ่งเป็น เงินเดือน 4,435,007 บาท เบี้ยประชุมและโบนัส 12,944,672 บาท ดอกเบี้ย 969,814 บาท เงินปันผล 456,532 บาท ขายรถยนต์ 6.8 แสนบาท มีรายจ่ายรวม 4,985,044 บาท เป็นค่าใช้จ่ายอุปโภคและบริโภค 502,299 บาท ค่าเบี้ยประกันชีวิต 300,651 บาท ค่าภาษี 4,182,094 บาท
ส่วนนางจณัญญา แจ้งว่า มีรายได้ต่อปีรวม 838,932 บาท เป็นดอกเบี้ยทั้งหมด และมีรายจ่ายรวม 371,648 บาท เป็นค่าใช้จ่ายอุปโภคบริโภค 321,416 บาท ค่าเบี้ยประกันชีวิต 50,232 บาท
ประวัติการทำงานของนายพงษ์ภาณุที่แจ้งต่อ ป.ป.ช. ระบุว่า เมื่อปี 2558 ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นกรรมการบริษัท ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) กรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ประธานกรรมการบริษัท โรงแรมเอราวัณ จำกัด กรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และกรรมการบริษัท ไทยศรีประกันภัย จำกัด (มหาชน) ต่อมาในปี 2561 ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นรองประธานกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย และเป็นกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ส่วนตำแหน่งปัจจุบัน นายพงษ์ภาณุ ระบุว่า เป็นประธานแผนกงานวิจัย SPEARHEAD ด้านบริการมูลค่าสูง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมแห่งชาติ
ที่น่าสนใจคือ เป็นกรรมการในบริษัทเอกชนในตลาดหลักทรัพย์ 3 แห่ง ได้แก่ ประธานกรรมการบริษัท เมกาเคม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กรรมการบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) และกรรมการบริษัท ฝาจีบ จำกัด (มหาชน)
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท เมกาเคม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2559 ทุนปัจจุบัน 200 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 25 ซ.ฉลองกรุง 31 ถ.ฉลองกรุง นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ซ.จี 1/9 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กทม. แจ้งประกอบธุรกิจขายส่งเคมีภัณฑ์
มีนายวิทยา อินาลา นางบุณาภรณ์ ประทุมรัตน์ นายตัน บ๊อค เซีย นายชิว ซุน ตี นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ นายมนตรี โสคติยานุรักษ์ และนายสมนึก บำรุงสาลี เป็นกรรมการ ส่วนรายชื่อผู้ถือหุ้นมีนายวิทยา อินาลา ถือหุ้นใหญ่สุด 37.68% และ Megachem Ltd. ถือหุ้นรองลงมา 36.19% สำหรับนายพงษ์ภาณุ ถูกระบุว่าเป็น ประธานกรรมการบริษัท กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ
แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2560 มีรายได้รวม 584,541,066 บาท รายจ่ายรวม 526,544,100 บาท กำไรสุทธิ 44,981,166 บาท
สำหรับนายวิทยา อินาลา ข้อมูลปัจจุบัน เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อคนไทย ก่อนหน้านี้เคยเป็น ส.ว.นครพนม โดยในวันประชุมกรรมการบริหารพรรค พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ได้ให้ผู้แทนมามอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีกับนายวิทยาด้วย(อ้างอิงข้อมูลจาก โพสต์ทูเดย์ออนไลน์)
ส่วนบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2552 แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนเมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2561 ทุนปัจจุบัน 2.4 หมื่นล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 1 อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ ชั้นที่ 56 ถ.สาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กทม. แจ้งประกอบธุรกิจเข้าเป็นหุ้นส่วนจำกัดความรับผิดชอบในห้างหุ้นส่วนจำกัด เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด และกิจการนั้นจะมีในกองทุนรวม
รายชื่อคณะกรรมการตอนก่อนแปรสภาพ มีนายเจริญ สิริวัฒนภักดี คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี นายโสมภัฒน์ ไตรโสรัส นางวัลลภา ไตรโสรัส นายธนฑิต เจริญจันทร์ นายนิซันท์ โกรเว่อร์ นายเอกอธิป รัตนอารี นายเกียรติศักดิ์ เลิศศิริอมร และนางอรุณรุ่ง ตันเกียรติชัย เป็นกรรมการ
ต่อมาเมื่อแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนเมื่อปี 2561 มีนายเจริญ สิริวัฒนภักดี คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี นายบุญทักษ์ หวังเจริญ (อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) นายสิทธิชัย ชัยเกรียงไกร นายโสมพัฒน์ ไตรโสรัส นายประสิทธิ์ โฆวิไลกูล นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ (อดีตปลัดกระทรวงการคลัง) นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ นายวีระวงค์ จิตต์มิตรภาพ นายวัชรา ตันตริยานนท์ นายธิติพันธุ์ เชื้อบุญชัย นายสันติ พงศ์เจริญทิพย์ เป็นกรรมการ
มีนายเจริญ คุณหญิงวรรณา นายิทธิชัย นายโสมพัฒน์ และนางวัลลภา เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ปัจจุบันยังไม่แจ้งงบการเงิน
ส่วนบริษัท ฝาจีบ จำกัด (มหาชน) แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2537 ทุนปัจจุบัน 528 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 5 ซ.รังสิต-นครนายก 46 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี แจ้งประกอบธุรกิจ ฝาจุกจีบ ฝาเกลียวกันปลอม ฝาแม็กซี่ ฝาพลาสติกแผ่นพิมพ์
มีนางพิไล เปี่ยมพงศ์สานต์ นายเทพ วงษ์วานิช นายสาธิต ชาญเชาวน์กุล นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ น.ส.สุวิมล กีรติพิบูล นายฐิติวุฒิ์ บุลสุข นายพรวุฒิ สารสิน นายฮิซาชิ นากาจิมา นายโยชิกิ มิยาตานิ นายทาคายูกิ ซาโซ นายอิจิโอะ โอซึกะ นายฮิสะโตชิ อิสุโบะ นายอะคิฮิโกะ คาโต้ และนายพันเทพ สุภาไชยกิจ เป็นกรรมการ ส่วนรายชื่อผู้ถือหุ้นมี NIPPON CLOSURES CO., LTD ถือหุ้นใหญ่สุด 36.68% Toy Seikan Co. Ltd. ถือหุ้น 10.15% บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ถือหุ้น 7.57% บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ถือหุ้น 7.25% บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 2.03% บริษัท กรีนสปอต จำกัด ถือหุ้น 1.92% เป็นต้น สำหรับนายพงษ์ภาณุ ถูกระบุว่าเป็นกรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ
แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2560 มีรายได้รวม 2,815,813,733 บาท รายจ่ายรวม 2,514,408,816 บาท กำไรสุทธิ 240,465,057 บาท
นี่คือข้อมูลพื้นฐานของนายพงษ์ภาณุ อดีตปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ยอมลาออกทั้งที่อายุราชการเหลือประมาณ 10 เดือน
ส่วนสาเหตุที่แท้จริงในการลาออกคืออะไร ยังไม่มีใครทราบ นอกจากเจ้าตัว ?
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
หมายเหตุ : ภาพประกอบนายพงษ์ภาณุ จาก เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ