เครือข่ายเยาวชนฯ เชียร์สร้างค่านิยมใหม่ งดเหล้า-อบายมุขในงานบวช งานบุญ
เครือข่ายเยาวชนฯ ยื่น ผบ.ตร. เพิ่มโทษแก๊งงานบวชวัดสิงห์ ดื่มเหล้าในวัด โทษจำคุก6เดือนปรับ1หมื่น เชียร์สร้างค่านิยมใหม่ งดเหล้า-อบายมุขในงานบวช งานบุญ
วันที่ 26 ก.พ. เวลา10.00น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ พร้อมด้วย เครือข่ายนักกฏหมายเพื่อเด็กและเยาวชน และกลุ่มนักเรียนนักศึกษาจากสถาบันต่างๆ กว่า 30คน ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อเรียกร้องให้เพิ่มข้อกล่าวหา กับกลุ่มวัยรุ่นแก๊งงานบวช ฐานความผิดดื่มสุราในวัด ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มาตรา 31 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยมีพันตำรวจเอกธีระวุฒิ กิ่งวรรณ รองผู้บังคับการ 1 กองแผนงานอาชญากรรม สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ เป็นผู้มารับเรื่องแทน
นายธีรภัทร์ กล่าวว่า จากกรณีแก๊งวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่เดินทางมาร่วมงานบวชที่วัดสิงห์ ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ได้พาพวกเข้ามารุมทำร้ายนักเรียนที่เดินทางมาสอบ GAT-PAT เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกขอร้องให้ลดใช้เสียงในการแห่นาค ขณะนักเรียนกำลังทำการสอบ จนทำให้ผู้อำนวยการโรงเรียน รปภ. และนักเรียน ได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งมีเด็กนักเรียนหญิงที่ถูกลวนลามและคุกคามทางเพศจนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางเครือข่ายฯ เห็นว่า พฤติกรรมของวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวเป็นการกระทำที่อุกอาจ ผิดกฎหมาย และละเมิดสิทธิของผู้อื่นอย่างร้ายแรง
ทั้งนี้ เครือข่ายฯ มีข้อเสนอต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดังนี้
1.ขอให้ตำรวจเร่งดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายโดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่สังคมให้ความสนใจ มิให้เป็นเยี่ยงอย่าง เพื่อขอให้ศาลลงโทษสถานหนักรวมถึงขอให้ตำรวจมีมาตรการคุ้มครองผู้เสียหายและพยานในคดีนี้ด้วย เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุมีเป็นจำนวนมากและอยู่ในพื้นที่
2.ขอให้ตรวจสอบการดื่มสุราในบริเวณวัดด้วย เนื่องจากโดยพฤติการณ์ที่ปรากฏในสื่อออนไลน์ต่างๆ ชี้ชัดว่า มีการกินดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบริเวณวัด เข้าข่ายผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2551 มาตรา 31 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งตำรวจจะต้องดำเนินคดีในส่วนนี้ด้วย
3. ขอเรียกร้องผ่านไปยังกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เร่งส่งพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าไปเยียวยาว ฟื้นฟูสภาพจิตใจนักเรียนและครอบครัวผู้ที่ถูกกระทำเป็นการด่วน โดยเฉพาะเด็กหญิงที่ถูกคุกคามทางเพศ ตลอดจนให้คำปรึกษาในข้อกฎหมาย
4.ขอวิงวอนให้ประชาชนจัดงานบวชงานบุญด้วยสติ หลีกเลี่ยงการมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรืออบายมุขทุกชนิดเพื่อให้เกิดกุศลกรรม อย่างบริสุทธิ์แก่การบวชงานบุญอย่างแท้จริง และร่วมกันทำให้วัดเป็นสถานที่ปลอดเหล้าปลอดอบายมุข
ด้านนายวันชัย พูลช่วย ผู้ประสานงานเครือข่ายนักกฎหมายเพื่อเด็กและเยาวชน กล่าวว่า จากการติดตามข่าว พบว่าตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ก่อเหตุ 4 ข้อหา ยังไม่มีข้อหาการดื่มในสถานที่ห้ามตาม พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 31 ซึ่งหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอ ภาพวงจรปิด รวมไปถึงพยานบุคคลในพื้นที่ ที่สามารถชี้ชัดได้ว่ามีการกินดื่มกันในวัดโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจละเลยประเด็นนี้ และควรส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปทั่วประเทศว่าวัดต้องเป็นสถานที่ปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากพบเห็นการกระทำความผิดประชาชนต้องรีบแจ้งและตำรวจต้องดำเนินคดีอย่างจริงจัง เพื่อทำให้งานบุญเป็นงานกุศลอย่างแท้จริงและไม่เกิดปัญหาอย่างกรณีนี้
"ในทางตรงกันข้ามหากกลุ่มผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ไม่มีการกินดื่ม ปัญหาหลายอย่างคงไม่ลงเอยแบบนี้ สติจะทำให้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันได้ และน่าจะถึงเวลาแล้วที่สังคมไทยจะได้ทบทวนกันอย่างจริงจัง เอาน้ำเมา อบายมุขต่างๆออกจากงานบุญกันเสียที และนี่จะเป็นการทำนุบำรุงพุทธศาสนาอย่างแท้จริง"