วัดเทพนิมิต...สัญญะแห่งสามัคคีของสองศาสนิกชายแดนใต้
กุฏิพระในวัดเทพนิมิต ตำบลบ้านกลาง อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี ได้รับการโจษขานจากคนในพื้นที่ เพราะกุฏิหลังนี้สร้างขึ้นจากความร่วมแรงร่วมใจของพี่น้องพุทธและมุสลิมสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
วัดเทพนิมิต หรือวัดบ้านกลาง ตามประวัติเป็นวัดเก่าแก่ บ้างก็ว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยดูจากสถาปัตยกรรมและลวดลายศิลปะ บ้างก็ว่าเป็นวัดที่สร้างขึ้นในช่วงต้นของกรุงรัตนโกสินทร์ ราวปี พ.ศ.2406
วัดบ้านกลางเป็นศูนย์รวมน้ำใจของพี่น้องไทยพุทธในพื้นที่มาอย่างยาวนาน ทว่าหลังเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบตั้งแต่ปี 2547 ทำให้ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ชาวไทยพุทธบางส่วนพากันอพยพย้ายถิ่นหนีความรุนแรง วัดจึงตั้งอยู่กลางชุมชนมุสลิมแทน ถัดจากนั้นจึงเป็นชุมชนไทยพุทธรายล้อมอีกชั้นหนึ่ง สภาพของวัดจึงเป็นเหมือน "พื้นที่ไข่แดง" ที่ผสานสามัคคีของพี่น้องต่างศาสนิกให้อยู่ร่วมกัน
ความรุนแรงที่กระทำต่อทุกคนอย่างไม่เลือกหน้า แม้แต่พระลูกวัดก็ยังเคยโดนคนร้ายลอบโจมตีขณะออกบิณฑบาตพร้อมกับกำลังทหารพรานอารักขา ทำให้วัดเทพนิมิตถูกทิ้งร้างนานหลายปี กระทั่งวัดกลับมาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวพุทธอีกครั้ง เมื่อมีเจ้าอาวาสรูปใหม่เข้ามาทำหน้าที่เมื่อปีที่แล้ว คือ พระอาจารย์เรวัต ถิรสัทโธ หรือ "ท่านเวาะ" จากวัดตุยง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ท่านเวาะเป็นพระที่ทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิมให้ความเคารพ
ชาวบ้านพากันดีใจที่มีพระมาจำพรรษา ทำให้พี่น้องพุทธและมุสลิมจับมือกันเข้าไปสำรวจภายในวัด และพบกุฏิผุพัง จึงเสนอตัวช่วยกันซ่อมแซม สะท้อนถึงความเป็นน้ำหนึ่งในเดียวและสามัคคีกลมเกลียวของคนบ้านกลาง
"ท่านเวาะ" หรือ พระอาจารย์เรวัต ถิรสัทโธ อายุ 53 ปี บวชมากว่า 30 พรรษา พื้นเพเป็นชาวอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส มีญาติพี่น้องและเพื่อนเป็นมุสลิมจำนวนมาก ท่านเดินธุดงค์และจำพรรษาหลายแห่งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ คนพื้นที่รู้จักท่านดีในฐานะพระนักพัฒนา
"ท่านเวาะ" เล่าให้ฟังว่า ในอดีตภาพการช่วยเหลือกันของคนต่างศาสนิกเป็นภาพที่ชินตา ชาวไทยพุทธร่วมงานของชาวมุสลิม และคนมุสลิมก็ช่วยงานของชาวไทยพุทธ ไม่มีแบ่งแยกด้วยเหตุผลของความแตกต่าง แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ มีความพยายามทำให้เกิดความแตกแยก จึงอยากให้ทุกศาสนา ทุกฝ่ายใช้สติในการคิดทบทวน เพื่อสร้างสังคมที่มีความสงบสุขให้กลับมาอีกครั้ง
"ชาวบ้านที่นี่อยู่ร่วมกันอย่างสามัคคีและให้เกียรติกันระหว่างศาสนา มุสลิมมาช่วยกันสร้างกุฎิเพราะในวัดตอนนั้นมีอยู่กุฏิเดียว เกือบจะพังแล้ว เมื่อฉันมาเป็นเจ้าอาวาส พวกเขาจึงมาช่วยกันสร้างกุฏิหลังใหม่ เราช่วยกันทั้งพระ ชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ บางที 4 ทุ่มยังทำกันอยู่เลย" ท่านเวาะเล่าถึงบรรยากาศแห่งมิตรภาพและสมานฉันท์
"ท่านเวาะ" ยังเล่าถึงตัวท่านเอง และปณิธานอันแรงกล้าที่ท่านตัดสินใจรับเป็นเจ้าอาวาสที่วัดบ้านกลาง
"ฉันเข้ามาเป็นเจ้าอาวาสเมื่อเดือนสิงหาคม (ปี 2561) ก่อนหน้านั้นอยู่ที่วัดตุยง อำเภอหนองจิก อยากมาเป็นตัวเชื่อมให้ชาวบ้านพุทธและมุสลิมอยู่ร่วมกันได้ คนที่ไปจากชุมชนก็ให้กลับมา โดยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฏหมาย เมื่อครบเวลาก็ออกมาอยู่ในชุมชน ตามหลักการศาสนาคือการตักเตือนกันและกัน เขาจะปฏิบัติหรือไม่คือเรื่องของเขา เราทำหน้าที่ของเรา การเข้าหาคนคือการเข้าไปนั่งในใจเขาให้ได้"
พระนักพัฒนา ยังพูดถึงการบำเพ็ญภาวนา ซึ่งแต่ละศาสนามีจุดมุ่งหมายไม่ต่างกัน
"คิดว่าตื่นเช้าแล้วให้มีเวลาถึงหลับ ตอนก่อนหลับก็ภาวนาให้ถึงสว่าง พอสว่างก็ภาวนาขอให้อยู่จนถึงหลับ เมื่ออายุยืนแล้วทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง ดีกว่าคำสอน"
"หลักการของอัลลอฮ์บอกว่า ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา เรื่องของที่วัด (การช่วยกันสร้างกุฏิ) ไม่ใช่การทำอิบาดะฮ์ (สักการะต่ออัลลอฮ์ การปฏิบัติตามคำสั่งห้ามของอัลลอฮ์) แต่เป็นเรื่องของความสามัคคีกัน เขามาช่วยแบกไม้ เขามาช่วยด้วยหัวใจ คนไม่พอใจก็ว่าไปก้าวก่ายศาสนา แต่ฉันพูดกับคนที่เข้าใจ คนที่เขาฟัง เป็นบททดสอบที่ทำให้เกิดปัญญา เมื่อก่อนเราอยู่ด้วยกันมาดีๆ ไม่เคยมีการยิงกันในมัสยิด ไม่เคยยิงกันในวัด ไม่มีการฆ่าพระ ไม่มีการฆ่าครู เผาโรงเรียน ไม่มีใครไปยิงคนที่กำลังละหมาดในมัสยิด อยากให้กลับไปมองเมื่อวานว่าการอยู่อย่างสามัคคีอยู่กันอย่างไร เป้าหมายขอเพียงแต่เราอยู่ด้วยกันได้ก็เพียงพอ" ท่านเวาะ อธิบาย
เป้าหมายที่ว่านี้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ ที่วัดเทพนิมิต ตัวอย่างที่ชัดที่สุดคืองานวันมาฆบูชา ท่านเวาะนำชาวบ้านทั้งไทยพุทธมุสลิมนั่งช้างมาร่วมงาน เป็นการช่วยเหลือเกื้อกูลกันระหว่างคนสองศาสนิก แต่ไม่ได้ก้าวก่ายเรื่องพิธีกรรม เป็นเพียงวิถีดั้งเดิมแห่งท้องถิ่นและความเกื้อกูลกัน ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดก็ตาม
เพราะสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แท้จริงแล้วคือดินแดนพหุวัฒนธรรมที่ใช้ความกลมเกลียวร้อยรัดความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่อง : เลขา เกลี้ยงเกลา
ภาพ : สมศักดิ์ หุ่นงาม
หมายเหต : 2 ภาพสุดท้ายเป็นภาพงานวันมาฆบูชาของวัดเทพนิมิตที่ส่งต่อกันในโซเชียลมีเดีย
อ่านประกอบ : ยิงถล่มวัดเทพนิมิต ปะนาเระ สัญลักษณ์ร่วมใจพุทธ-มุสลิม