ฟิลิปปินส์จับบก.ใหญ่สื่อดัง เสนอข้อมูล 'หมิ่นประมาท'
เจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนแห่งชาติของฟิลิปปินส์จับกุมบรรณาธิการใหญ่ของ "แรปป์เลอร์" หนึ่งในสื่อเพียงไม่กี่แห่งของประเทศที่วิจารณ์รัฐบาล ในข้อหา "หมิ่นประมาททางลายลักษณ์อักษร"
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ว่ากระทรวงยุติธรรมของฟิลิปปินส์ออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี ว่าเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนแห่งชาติ ( เอ็นบีไอ ) อาศัยอำนาจตามหมายจับจากศาล ในการจับกุมน.ส.มาเรีย เรสซา ผู้สื่อข่าวและประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทแรปป์เลอร์ ผู้ให้บริการด้านข่าวสารออนไลน์ ถึงที่สำนักงานในกรุงมะนิลา เมื่อช่วงบ่ายของวันพุธที่ผ่านมา ในข้อหา "หมิ่นประมาททางลายลักษณ์อักษร" เกี่ยวกับบทความเมื่อปี 2555 แต่มีการแก้ไขอีกครั้งเมื่อปี 2557 กล่าวหานักธุรกิจคนหนึ่งพัวกันกับการค้ายาเสพติดและการค้ามนุษย์ ซึ่งรายงานดังกล่าวแรปป์เลอร์ใช้คำว่า "อ้างจากแหล่งข่าว"
อย่างไรก็ตาม มีรายงานด้วยว่านักธุรกิจผู้นั้นมีความเชื่อมโยงถึงหนึ่งในสมาชิกคณะตุลาการศาลฎีกาของฟิลิปปินส์ในเวลานั้นด้วย ขณะที่เรซาไม่แสดงอาการขัดขืนและเดินทางไปกับเจ้าหน้าที่ของเอ็นบีไอโดยดี แต่ก่อนออกจากสำนักงานเธอกล่าวว่าหนึ่งในอุดมการณ์ในการทำงานของแรปปเลอร์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง คือการไม่หวั่นเกรงต่อการถูกข่มขู่คุกคาม ไม่ว่าจากคดีความที่ไม่มีหลักฐาน การโฆษณาชวนเชื่อ และความพยายามทุกวิถีทางเพื่อ "ปิดปาก" การเผยแพร่ข่าวสาร "ที่เป็นจริง" ของสื่อมวลชนทุกแขนงในฟิลิปปินส์
ทั้งนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าทนายความของเรซา ซึ่งเป็นหนึ่งในสื่อมวนที่นิตยสารไทม์ของสหรัฐคัดเลือกให้เป็น "บุคคลแห่งปี" ประจำปี 2561 จะยื่นคำร้องของประกันตัวเมื่อใด และก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่วน เจ้าหน้าที่ของเอ็นบีไอจับกุมนายเรนัลโด ซานโตส จูเนียร์ ผู้ช่วยของเรซาและตั้งข้อหาเดียวกัน ด้านองค์การนิรโทษกรรมสากล ( แอมเนสตี้ อินเตอร์เนเชั่นแนล ) ออกแถลงการณ์ประณามการจับกุมเรซาและซานโตส จูเนียร์ ว่าเป็น "คดีการเมือง" ส่วนทำเนียบมาลากันยังปฏิเสธแสดงท่าทีต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
อนึ่ง แรปป์เลอร์เป็นเพียงสำนักข่าวเพียงไม่กี่แห่งในฟิลิปปินส์ ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลมะนิลาชุดปัจจุบันของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์ดต อย่างเปิดเผย โดยเฉพาะประเด็นสงครามยาเสพติด ขณะที่ผลการจัดอันดับดัชนีเสรีภาพของสื่อมวลชนโลกโดยองค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน ( อาร์เอสเอฟ ) ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่กรุงปารีส ปรากฏว่าฟิลิปปิส์มีคะแนนร่วงลง 6 อันดับ อยู่ที่อันดับ 133 จาก 180 ประเทศ เมื่อปีที่แล้ว.
ที่มาข่าว : https://dailynews.co.th/foreign/693217