สภาเร่งดันร่าง “กองทุนการออม” “คุ้มครอง “แรงงาน” ชราภาพ
หวั่นถูกดองเค็มยาว สภาดันร่าง กม.การออมแห่งชาติขึ้นมาพิจารณาเร่งด่วน เพื่อตั้งกองทุนช่วยเหลือภาคแรงงานทุกประเภท เป้าหมายเพื่อมีเงินดำรงชีพเมื่อถึง “วัยชรา” หลักเกณฑ์ผู้เข้าร่วมต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนเดือนละ 50 บาท โดยรัฐสมทบให้ส่วนหนึ่งตาม หลักเกณฑ์อายุ
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 13-14 ตุลาคม มีวาระการประชุมที่สำคัญวันที่ 13 ตุลาคม เรื่องที่ที่ประชุมเห็นชอบให้เลื่อนขึ้นมาพิจารณาก่อนลำดับที่ 2 ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ...... (ครม.เป็นผู้เสนอ) โดยร่างกฎหมายดังกล่าวมี 69 มาตรา หลักการคือประเทศไทยยังไม่มีระบบการออมเพื่อการดำรงชีพในยามชราภาพ ครอบคลุมภาคแรงงานทุกประเภท ทำให้บุคคลเหล่านี้เสี่ยงที่จะตกอยู่ในความยากจนในวัยสูงอายุ อันเนื่องมาจากไม่มีช่องทางหรือโอกาสเข้าถึงเครื่องมือการออมเงิน ขณะที่อยู่ในวัยทำงาน สมควรจัดตั้งกองทุนเพื่อเป็นช่องทางการออมขั้นพื้นฐานให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับการคุ้มครองเพื่อการชราภาพให้ได้รับประโยชน์ในรูปบำนาญ
ทั้งนี้มีสาระสำคัญคือ การจัดตั้งกองทุนการออมแห่งชาติ ทรัพย์สินกองทุนประกอบด้วยเงินสะสม เงินสมทบ ทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้ เงินที่รัฐบาลจัดสรรให้ตามความจำเป็นเพื่อการดำเนินงานของกองทุนให้มีคณะกรรมการกองทุน มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดนโยบาย ข้อบังคับต่างๆ เกี่ยวกับการบริหารกิจการกองทุน ผู้มีสิทธิเข้าเป็นสมาชิกกองทุน ได้แก่ บุคคลสัญชาติไทย ซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้วแต่ไม่เกิน 60 ปี บริบูรณ์ ไม่เป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยแสดงความจำนงพร้อมจ่ายเงินสะสมเข้ากองทุนไม่น้อยกว่าเดือนละ 50 บาท แต่ไม่เกินจำนวนที่กำหนดโดยกฎกระทรวง
ส่วนเกณฑ์การจ่ายเงินสมทบของรัฐบาล 1.กรณีอายุสมาชิกไม่เกิน 30 ปี จ่ายในอัตราส่วนเงินสมทบต่อเงินสะสมร้อยละ 50 แต่ต้องไม่เกิน 3,000 บาทต่อปี 2.อายุสมาชิกเกิน 30 ปี แต่ไม่เกิน 50 ปี จ่ายในอัตราส่วนเงินสมทบต่อเงินสะสม ร้อยละ 80 แต่ต้องไม่เกิน 4,800 บาทต่อปี 3.กรณีอายุสมาชิกเกิน 50 ปี จ่ายในอัตนาส่วนเงินสมทบต่อเงินสะสม ร้อยละ 100 แต่ต้องไม่เกิน 6,000 บาทต่อปี ส่วนการจ่ายเงินกรณีสมาชิกสิ้นสมาชิกภาพ ให้สมาชิกได้รับบำนาญจากกองทุนจนตลอดชีวิต โดยคำนวนตามเกณฑ์ที่กำหนด
ภาพประกอบจาก : http://www.247freemag.com/content.php?id=17&content=15&CurrentPage=2