บึ้มโบสถ์เกาะมินดาเนา หลังจะมีเขตปกครองตนเองใหม่
เกิดเหตุระเบิดโจมตีโบสถ์ในพื้นที่ขัดแย้งบนเกาะมินดาเนา ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 คน เพียงสัปดาห์เดียวหลังการลงประชามติรับรองการแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งของเกาะแห่งนี้ ให้เป็นเขตปกครองตนเองแห่งใหม่
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติของฟิลิปปินส์ออกแถลงการณ์เรื่องการเกิดระเบิด 2 ครั้ง ใกล้กับโบสถ์ "โจโล" ซึ่งเป็นศาสนสถานคาทอลิก ตั้งอยู่ในเขตใจกลางเมืองโจโล เมืองเอกของจังหวัดซูลู ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขตปกครองตนเองมินดาเนา ทางตอนใต้ของประเทศ เมื่อช่วงเช้าของวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น แรงระเบิดส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 คน ในจำนวนนี้เป็นทหาร 5 นาย และได้รับบาดเจ็บอีกประมาณ 40-50 คน เนื่องจากการระเบิดเกิดขึ้นในช่วงพิธีมิสซาประจำสัปดาห์พอดี
หลังเกิดเหตุยังไม่มีบุคคลกลุ่มใดออกมารับสมอ้างว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรืออยู่เบื้องหลัง แต่จังหวัดซูลูซึ่งเป็นเกาะขนาดเล็กนั้นเป็นเขตอิทธิพลของกองโจรอาบูไซยาฟ และเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียง 1 สัปดาห์หลังผลการลงประชามติของประชาชนบนเกาะมินดาเนา เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา ปรากฏว่าเสียงส่วนใหญ่รับรอง ร่างกฎหมาย "องค์ประกอบบังซาโมโร" ( Bangsamoro Organic Law ) หรือ "บีโอแอล" เตรียมแบ่งอาณาเขตส่วนหนึ่งของเกาะมินดาเนาให้มีเป็น "เขตปกครองตนเองบังซาโมโร" ซึ่งเป็นผลจากการเจรจาระหว่างรัฐบาลกลางในกรุงมะนิลากับแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร ( เอ็มไอแอลเอฟ ) ที่ใช้เวลานานถึง 10 ปี จนมีการลงนามร่วมกันเมื่อปี 2557
ทั้งนี้ เสียงส่วนใหญ่ในจังหวัดซูลูคัดค้านการตั้งเขตปกครองจนเองบังซาโมโร "อย่างเป็นทางการ" ภายใน 5 ปี โดยในเบื้องต้นรัฐบาลกลางในกรุงมะนิลาของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต จะจัดตั้งกองทุนพัฒนาเป็นวงเงิน 950 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 30,400 ล้านบาท ) แต่รัฐบาลกลางจะยังเป็นผู้ดูแลด้านความมั่นคงในพื้นที่ จนกว่าคณะผู้บริหารเขตปกครองตนเองแห่งใหม่จะมีระบบจัดการเรื่องนี้ได้เองอย่างมีประสิทธิภาพ.
ที่มาข่าว : https://www.dailynews.co.th/foreign/690001