เจาะตู้เซฟ“เสี่ยตา”หลังปม“นมวาดรูป”1.5 พันล. ชะชะช่า!
เจาะตู้เซฟ “เสี่ยตา ปัญญา นิรันดร์กุล”ผ่านถุงเงิน บ.เวิร์คพอยท์ หลังปมฉาว“นมวาดรูป”รวยระเบิด 1.5 พันล. เฉพาะทีวีรับเหนาะๆ 1.2 พันล. รวม 8 ปี ฟันกำไรสะสมวงการมายาเกือบ 312 ล. แต่ไฉนหนี้รุงรัง?
กลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ กรณีรายการไทยแลนด์ก๊อตทาเลนต์ ซีซั่น 2 ที่ปล่อยให้หญิงสาวผู้เข้าร่วมประกวดขึ้นโชว์การแสดงเปลือยอกระบายสีวาดรูป ทำให้เสี่ยตา ปัญญา นิรันดร์กุล บิ๊กบอส บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เจ้าของรายการ ถูกรุมกระหน่ำจากโลกโซเซียลมีเดียและสังคมทั่วไปทันที จนเจ้าตัวต้องขอรับผิดชอบเพียงคนเดียว
หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า มีการวางแผนเตรียมการมาอย่างดี เป้าหมายเพื่อหวังสร้างกระแสเรียกเรทเติ้งรายการให้พุ่งกระฉูด?
กระนั้นแม้ไม่มีบทสรุป “ข้อเท็จจริง” ลองมาดูความมั่งคั่งของ “เสี่ยตา”ผ่านบริษัทเวิร์คพอยท์ กันหน่อย
บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) มีบริษัทในเครือ 10 แห่ง ได้แก่
บริษัท เวิร์คพอยท์ พับลิชชิ่ง จำกัด ก่อตั้งวันที่ 12 ธันวาคม 2545 ทุน 4 ล้านบาท
บริษัท โต๊ะกลมโทรทัศน์ จำกัด ก่อตั้งวันที่ 19 มีนาคม 2547 ทุน 10 ล้านบาท (นายธีรวัฒน์ อนุวัตรอุดม ถือหุ้น 25%)
บริษัท คำพอดี จำกัด ก่อตั้งวันที่ 17 มกราคม 2548 ทุน 8.5 ล้านบาท (นายธงชัย ประสงค์สันติ ถือหุ้น 35%)
บริษัท บ้านอิทธิฤทธิ์ จำกัด ก่อตั้งวันที่ 17 มกราคม 2548 ทุน 20 ล้านบาท (นายปรัชญา ปิ่นแก้ว ถือหุ้น 28 %)
บริษัท หัวฟิล์ม ท้ายฟิล์ม จำกัด ก่อตั้งวันที่ 7 ตุลาคม 2548 ทุน 5 ล้านบาท
บริษัท บั้งไฟ สตูดิโอ จำกัด ก่อตั้งวันที่ 7 ตุลาคม 2548 ทุน 10 ล้านบาท (นายเพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา หรือหม่ำ จกม๊ก ถือหุ้น 40% )
บริษัท กราว จำกัด ก่อตั้งวันที่ 17 ตุลาคม 2549 ทุน 2 ล้านบาท
บริษัท บริษัท กำกับการดี จำกัด ก่อตั้งวันที่ 29 กรกฎาคม 2551 ทุน 5 ล้านบาท
บริษัท ซิกซ์เนเจอร์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (โฆษณา จัดหานักแสดง) ก่อตั้งวันที่ 27 ตุลาคม 2551 ทุน 5 ล้านบาท (นายทศเทพ วงศ์หนองเตย ถือหุ้น 35%)
บริษัท หญ้านุ่ม จำกัด กิจการอสังหาริมทรัพย์ ก่อตั้งวันที่ 8 มิถุนายน 2552 ทุน 1 ล้านบาท
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบพบว่า บมจ.เวิร์คพอยท์ ฯ จดทะเบียนเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2547 เดิมที่มีทุน 200 ล้านบาท ก่อนจะเพิ่มเป็น 210,800,000 บาท วันที่ 23 พฤศจิกายน 2553 และ 263,500,000 วันที่ 9 พฤษภาคม 2554 ตามลำดับ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ 99 หมู่ที่ 2 ตำบลบางพูน อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ประกอบกิจการรับจ้างโฆษณาและรับจัดงานต่างๆ นายปัญญา นิรันดร์กุล และ นายประภาส ชลศรานนท์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ กรรมการประกอบด้วย
1.นายปัญญา นิรันดร์กุล 2.นาย ประภาส ชลศรานนท์ 3. น.ส. มาลี ปานพชร 4. นายพาณิชย์ สดสี 5.นายคณิต วัฒนประดิษฐ์ 6. พ.ต.อ.ปรัชญ์ชัย ใจชาญสุขกิจ 7. นายครรชิต ควะชาติ 8. นายสมเกียรติ ติลกเลิศ 9. นาง วิชนี ศรีสวัสดิ์
มีผู้ถือหุ้น 13 ราย โดยนายปัญญา นิรันดร์กุล ถือหุ้นใหญ่สุด 37.1% รองลงมาคือ นายประภาส ชลศรานนท์ 37.02% นายสันติ สิงหวังชา 2.09% บริษัทไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 1.85% Hsbc (Singapore) Nominees Pte Ltd (สิงคโปร์) 1.43% นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล 1.14% นายแพทย์ ประจวบ คุณทรงเกียรติ 1.07% นาย ปวาฬ ชลศรานนท์ 0.92% นายวัชระ เจนวิริยะโสภาคย์ 0.83% นายพลพัฒน์ อร่ามเรืองสกุล 0.8% นางศรีสุดา พานา 0.64% น.ส.จันทพร สิงหวังชา 0.6% และ นายเติมศักดิ์ สิงหวังชา 0.6%
ส่วนผลกำไรขาดทุนจากการประกอบธุรกิจ มีดังนี้
- ปี 2547 แจ้งว่ามีรายได้รวม 858,886,374.19 บาท โดยเป็นรายได้จากการผลิตรายการโทรทัศน์ถึง 848,456,570.94 บาท แต่มีรายจ่ายรวม 565,607,965.08 บาท กำไรสุทธิ 205,636,946.29 บาท
- ปี 2548 แจ้งว่า มีรายได้รวม 1,069,443,129.39 บาท เป็นรายได้จากการผลิตรายการโทรทัศน์ 1,050,522,695.02 บาท แต่มีรายจ่ายรวม 665,335,963.63 บาท กำไรสุทธิ 302,382,201.81 บาท
- ปี 2549 แจ้งว่า มีรายได้รวม 1,176,212,430.87 เป็นรายได้จากการผลิตรายการโทรทัศน์ 1,134,201,322.09 บาท แต่มีรายจ่ายรวม 772,380,615.80 บาท กำไรสุทธิ 304,882,558.73 บาท
- ปี 2550 แจ้งว่ามีรายได้รวม 1,143,408,950.52 เป็นรายได้จากการผลิตรายการโทรทัศน์ 1,097,411,253.28 บาท แต่มีรายจ่ายรวม 822,752,584.49 บาท กำไรสุทธิ 232,985,726.96 บาท
- ปี 2551 แจ้งว่ามีรายได้รวม 1,016,732,986.22 บาท เป็นรายได้จากการผลิตรายการโทรทัศน์ 951,050,474.44 บาท แต่มีรายจ่ายรวม 815,722,596.20 บาท กำไรสุทธิ 150,829,950.59 บาท
- ปี 2552 แจ้งว่ามีรายได้รวม 873,006,519.36 บาท เป็นรายได้จากการผลิตรายการโทรทัศน์ 747,189,577.05 บาท แต่มีรายจ่ายรวม 766,094,711.44 บาท กำไรสุทธิ 81,448,481.05 บาท
- ปี 2553 แจ้งว่ามีรายได้รวม 1,104,238,837.75 บาท เป็นรายได้จากการผลิตรายการโทรทัศน์ 959,296,204.11 บาท แต่มีรายจ่ายรวม 875,619,005.93 บาท กำไรสุทธิ 168,614,816.18 บาท
- ปี 2554 แจ้งว่ามีรายได้รวม 1,592,457,026.46 บาท เป็นรายได้จากการผลิตรายการโทรทัศน์ 1,296,251,378.79 บาท แต่มีรายจ่ายรวม 1,144,244,354.15 บาท กำไรสุทธิ 312,115,530.64 บาท
ตัวเลขกำไรสะสม ณ ปัจจุบัน อยู่ที่ 332,387,012.34 บาท
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของหนี้สินบริษัท พบว่า ปี 2547 แจ้งตัวเลขหนี้สินรวมไว้ที่ 110,219,028.28 บาท ปี 2548 ปรับเพิ่มเป็น 168,767,565.65 บาท ปี 2549 ปรับเพิ่มเป็น 230,636,195.93 บาท ปี 2550 ลดลงเป็น 154,498,597.09 บาท ปี 2551 ลดลงเป็น 143,249,451.34 บาท ปี 2552 ลดลงอีกเป็น 111,721,231.85 บาท ปี 2553 ขยับขึ้นอีกเป็น 153,237,424.36 บาท ปี 2554 ขยับเพิ่มขึ้นอีกเป็น 237,501,248.37 บาท
จากการตรวจสอบพบว่าในช่วงปี 2553-2554 บริษัทเวิร์คพอยท์ได้รับว่าจ้างจากหน่วยงานรัฐให้จัดอีเวนต์งานแสดงต่างๆประมาณ 50 ล้านบาท (ดูตาราง)
ก่อนหน้านี้ นายครรชิต ควะชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บมจ.เวิร์คพ้อยท์ เอ็นเทอร์เทนเม็นท์ (WORK) ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ในปี 2555 ตั้งเป้าหมาย กำไรสุทธิอยู่ที่ 2.3 พันล้านบาท คาดว่ารายได้จากโทรทัศน์จะเพิ่มขึ้นจาก 1.4 พันล้านบาท เป็น 1.6 พันล้านบาท รายได้จากอีเวนต์จะเพิ่มขึ้นจาก 180 ล้านบาท เป็น 300 ล้านบาท รายได้จากโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมจะอยู่ที่ 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้ใหม่ที่เพิ่มเข้ามา รายได้จากสื่อสิ่งพิมพ์จะเพิ่มขึ้นจาก 70 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท รายได้จากภาพยนตร์จะเพิ่มขึ้นจาก 92 ล้านบาท เป็น 120 ล้านบาท และคอนเสิร์ตจะเพิ่มขึ้นจาก 50 ล้านบาท เป็น 80 ล้านบาท และบริษัทตั้งเป้ารายได้ในช่วง 5 ปีนับจากปีนี้จะเติบโตเฉลี่ยประมาณ 15%
นี่คือความมั่งคั่งในช่วงที่ผ่านมาของนักธุรกิจเจ้าพ่อเกมโชว์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกที่มีกระแสข่าวว่าเขามีบ้านราคา 400 ล้านบาทแถวๆ ออฟฟิศ “เวิร์คพอยท์”
วันนี้บาดเจ็บเพราะ“นมวาดรูป”ไปเรียบร้อยแล้ว (ชะชะช่า)
การจัดอีเวนต์ในหน่วยงานรัฐของบริษัทเวิร์คพอยท์ฯ
ที่มา:สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รวบรวม