เอสซีจี คว้ารางวัลฉลากประหยัดพลังงานเบอร์ 5 ต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน
เอสซีจี รับรางวัล “ฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูง” ต่อเนื่อง จากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน โดยมีสินค้าที่ได้รับรางวัล ได้แก่ หลังคา เอสซีจี ซึ่งได้รับฉลากรับรองมากที่สุดถึง 16 รุ่น และหลากหลายวัสดุมากที่สุด โดยได้รับรางวัลต่อเนื่อง 2 ปี ด้านฉนวนกันความร้อน เอสซีจี ซึ่งเป็นฉนวนกันความร้อนรายแรกที่ได้รับฉลากนี้ต่อเนื่อง 8 ปี ขณะที่อิฐมวลเบา Q-CON ได้รับรางวัลต่อเนื่อง 2 ปี ตอบโจทย์การมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและช่วยประหยัดพลังงาน ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)
นายฎายิน เกียรติกวานกุล Marketing Director – Roof Business บริษัท กระเบื้องหลังคาซีแพค จำกัด ในเอสซีจี กล่าวว่า “เอสซีจี ในฐานะผู้นำธุรกิจอย่างยั่งยืนในอาเซียน ตระหนักถึงปัญหาด้านพลังงาน และสิ่งแวดล้อม จึงได้พัฒนานวัตกรรมวัสดุก่อสร้างตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่คำนึงถึงการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตั้งแต่กระบวนการคิดและออกแบบผลิตภัณฑ์ ขั้นตอนการผลิต ตลอดจนกระบวนการจัดการผลิตภันฑ์ที่สิ้นอายุการใช้งานแล้ว โดยหลังคา เอสซีจี ได้เข้าร่วม “โครงการส่งเสริมเครื่องจักร อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง และวัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงานโดยการติดฉลาก” หรือ “ฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูง” ของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน ต่อเนื่องมา 2 ปี ตั้งแต่ปี 2560 โดยในปีนี้ หลังคาเอสซีจีได้รับการรับรองฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูง เป็นจำนวนมากที่สุด รวมทั้งสิ้น 16 รุ่น ครอบคลุมทั้ง 3 วัสดุที่นิยมใช้ผลิตหลังคาในประเทศไทย ได้แก่ หลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ หลังคาคอนกรีต และหลังคาเซรามิค ซึ่งหลังคาเอสซีจีที่ได้รับฉลากจะสามารถสะท้อนความร้อนได้ดีกว่าหลังคาทั่วไป ทำให้ช่วยประหยัดค่าไฟจากการใช้งานเครื่องปรับอากาศได้มากขึ้น
ด้าน นายสลิล กันตนฤมิตรกุล ผู้จัดการส่วนการตลาด บริษัทสยามไฟเบอร์กลาส จำกัด ในเอสซีจี จำกัด กล่าวว่า “นอกจากหลังคาแล้ว ฉนวนกันความร้อนยังเป็นสินค้ารายแรกของของเอสซีจี ที่ได้รับฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูงต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 ตั้งแต่ปี 2554 อีกทั้งยังได้รับรางวัลด้านสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ได้แก่ ฉลากเขียว และฉลากคาร์บอนฟุตปริ้นท์ โดยเอสซีจี มุ่งมั่นพัฒนาฉนวนกันความร้อน ด้วยการนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้ตลอดกระบวนการผลิตสินค้า ตั้งแต่การค้นหาความต้องการของลูกค้า อาทิ ความต้องการลดความร้อนภายในบ้าน ลดค่าไฟ ขณะเดียวกันก็ต้องการความปลอดภัยจากการใช้สินค้า จนนำไปสู่การพัฒนากระบวนการผลิตทุกขั้นตอนให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เริ่มจากการคัดเลือกวัตถุดิบ ควบคุมการผลิต ตลอดจนพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ให้ใช้งานได้ตามความเหมาะสม อีกทั้งยังมีบริการให้คำปรึกษา และพัฒนาการติดตั้งที่สามารถส่งมอบงานได้ภายใน 1 วัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า
สำหรับ นายวิวัฒน์ กิจการเจริญสิน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและขาย บริษัท ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ Q-CON ในเครือเอสซีจี เปิดเผยว่า “จากความมุ่งมั่นทุ่มเท และความพยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน ทำให้คิวคอนเป็นผู้นำในการผลิตนวัตกรรมคอนกรีตมวลเบาของไทยที่มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันความร้อนจากภายนอก และช่วยประหยัดพลังงานภายในอาคารได้อย่างดีเยี่ยม ถือเป็นนวัตกรรมคอนกรีตมวลเบารายแรกและรายเดียวที่ได้รับฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูง ครบทุกผลิตภัณฑ์ ครบทุกชั้นคุณภาพทั้ง G2 และ G4 เป็นรายแรก ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ตั้งแต่ปี 2560
ทั้งนี้ ฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูง ถือเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค ช่วยลดการใช้พลังงาน และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้บริโภคได้อีกด้วย เอสซีจียังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการอย่างครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัยตามแนวคิด Passion for Better Living โดยผู้ที่สนใจสินค้าและบริการ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ SCG CONTACT CENTER หมายเลขโทรศัพท์ 02-586-2222