ไขปมพิพาทที่ดิน จ.กระบี่ บ.น้ำมันปาล์มดัง VS กรมป่าไม้ ที่แท้ขอต่อสัมปทาน 10,849 ไร่
พลิกงบการเงิน บ.ยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม ไขความเป็นมาปมพิพาทเช่าที่ดิน จ.กระบี่ 10,849 ไร่ ฟ้องศาลปกครองขอต่ออายุสัมปทาน อ้างชนะคดีแรกให้ชง ครม.อนุญาตใน 60 วัน แฉ รมว.กระทรวงทรัพยากรฯไม่อุทธรณ์ กรมป่าไม่สั่งห้ามเข้าพื้นที่ ฟ้องคดีที่สองแพ้ ตอนนี้ยื่นอุทธรณ์ศาล ปค.สูงสุด
ปมพิพาทที่ดินสวนปาล์ม ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ ระหว่าง บริษัท ยูนิวานิช น้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) กับ กรมป่าไม้ โดย ทางบริษัทฯได้ติดตั้งป้ายประกาศลงวันที่ 20 ธ.ค.2561 บริเวณริมถนนทางหลวงแผนดิน ที่ 44 ทั้งขาเข้าและขาออก บริเวณบ้านโคกเจียก-บ้านพระยา อ้าง คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลจังหวัดกระบี่ คดีแพ่งหมายเลขดำที่ 1123/2561 ห้ามจำเลยและบริวารเข้ารบกวนสิทธิในการครอบครองทำประโยชน์ของโจทก์ในที่ดิน รวม 7,108 ไร่ และให้โจทก์เข้าทำการปกป้องคุ้มครอง ดูแลบำรุงรักษาให้น้ำ ใส่ปุ๋ย ฟื้นฟูต้นปาล์มน้ำมันหรือเก็บเกี่ยวผลปาล์มน้ำมันในที่ดินของโจทก์ จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว (อ่านประกอบ : ป้ายพรึบ! บ.ปาล์มน้ำมันตระกูลดัง อ้างคำสั่งศาลคุ้มครอง ที่ดิน จ.กระบี่ 7.1 พันไร่)
ขณะที่ กรมป่าไม้ มีคำสั่งกรมป่าไม้ ลงวันที่ 7 ม.ค. 2562 ย้าย นายธนัช เนมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 12 (กระบี่) (ผู้ถูกบริษัทฟ้อง) เข้ามาประจำที่ส่วนกลาง อ้างว่าเพื่อลดแรงปะทะ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น (อ่านประกอบ: ลดแรงปะทะ! อธิบดีกรมป่าไม้ รับสั่งย้ายลูกน้อง หลัง บ.ปาล์มน้ำมันฟ้องปมที่ดิน 7 พันไร่ จ.กระบี่)
ยังไม่มีคำอธิบายถึงรายละเอียดความแป็นมาในประเด็นพิพาททั้งจากเอกชนและกรมป่าไม้
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลของ บริษัท ยูนิวานิช น้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) งบการเงินไตรมาสที่ 3/2561 รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2561 ในหมายเหตุประกอบข้อมูลทางการเงิน “ข้อ 13 หมวด ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์” พบข้อมูลของเรื่องดังกล่าวดังนี้
“ต้นปาล์มของบริษัทปลูกบนที่ดินของบริษัท ที่ดินที่ได้รับสัมปทาน และที่ดินเช่า โดยรัฐบาลได้ให้สัมปทานสำหรับที่ดินดังกล่าวเพื่อส่งเสริมการพัฒนาการปลูกปาล์มน้ำมัน รายละเอียดของที่ดินที่ได้รับสัมปทานและที่ดินซึ่งเช่าตามสัญญาเช่าดำเนินงาน ณ วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2561 มีดังต่อไปนี้
@ 22 เม.ย.26 ได้สัมปทานปลูกปาล์ม 30 ปี 20,000 ไร่
เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2526 บริษัท ยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) ได้รับอนุญาตให้ใช้ทำประโยชน์พื้นที่ป่าไม้ปลูกปาล์มน้ำมันเนื้อที่จำนวน 20,000 ไร่ในจังหวัดกระบี่ โดยสัมปทานสวนเจียรวานิชมีระยะเวลา 30 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2526 จนถึงวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2556
@ยื่นฟ้องศาลปกครองขอต่ออายุสัมปทาน 10,849 ไร่ อ้างศาล ให้ชง ครม.ใน 60 วัน
บริษัทฯระบุว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 บริษัทได้ขอยื่นคำขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ต่อบนพื้นที่สัมปทาน(สวนเจียรวานิช) เนื้อที่จำนวน 10,849 ไร่ ในท้องที่ตำบลปลายพระยา อำเภอปลายพระยา และตำบลคลองยา อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ แม้คำขอของบริษัทจะได้รับความเห็นชอบตามขั้นตอนทางราชการแล้วเมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2555 แต่การอนุมัติครั้งสุดท้ายของทางราชการดำเนินไปอย่างล่าช้าและยังไม่แล้วเสร็จ ดังนั้นเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2556 บริษัทจึงได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองนครศรีธรรมราช เพื่อขอให้ศาลปกครองนครศรีธรรมราชมีคำสั่งให้การดำเนินการต่ออายุสัมปทานในเนื้อที่จำนวน 10,849 ไร่ นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุญาตตามความเห็นชอบตามขั้นตอนทางราชการ ศาลปกครองนครศรีธรรมราชได้มีคำสั่งรับคำฟ้องของบริษัท และเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 ศาลปกครองนครศรีธรรมราชได้มีคำพิพากษาให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอคำขออนุญาตของบริษัทต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติภายใน 60 วันหลังจากคดีถึงที่สุด
@ รมว.กระทรวงทรัพยากรฯไม่อุทธรณ์-กรมป่าไม้ขอขยายเวลา 60 วัน
บริษัทฯระบุว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีสิทธิอุทธรณ์คำพิพากษาภายใน 30 วัน แต่มิได้มีการอุทธรณ์ ฉะนั้นตามคำพิพากษาที่ถึงที่สุดของศาลมีคำสั่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะต้องนำคำขออนุญาตของบริษัทเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติภายในวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2559 ต่อมาเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2559 อธิบดีกรมป่าไม้ ผู้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ขอขยายระยะเวลาปฏิบัติตามคำพิพากษาเพิ่มอีก 60 วัน แต่ศาลปกครองนครศรีธรรมราชไม่อนุญาตและให้ดำเนินการตามคำพิพากษาโดยเร็ว
@กรมป่าไม้สั่งห้ามเข้าเข้าพื้นที่-บริษัทฯฟ้องเรียกค่าเสียหายอีกคดี
บริษัทฯระบุอีกว่า เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556 กรมป่าไม้ได้มีคำสั่งห้ามมิให้บริษัทเข้ากระทำการใดๆ ในพื้นที่สัมปทานสวนเจียรวานิช เนื่องจากสัมปทานที่ได้หมดอายุการอนุญาตแล้ว ดังนั้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2556 ทางบริษัทจึงได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองนครศรีธรรมราชอีกคดีหนึ่ง โดยเรียกค่าเสียหายจากการออกคำสั่งโดยมิชอบที่ไม่ให้บริษัทดำเนินกิจกรรมบนพื้นที่ดังกล่าวและยังได้ขอให้ศาลพิจารณาว่าผลปาล์มน้ำมันจากสวนเจียรวานิชไม่เป็นของป่าที่จำเป็นต้องเสียค่าภาคหลวง และค่าบำรุงป่าตามที่กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมกล่าวอ้าง เนื่องจากต้นปาล์มน้ำมันและผลปาล์มน้ำมันที่อยู่บนที่ดินสัมปทานไม่ใช่ของป่าที่มีอยู่หรือเกิดตามธรรมชาติ
@ศาลยกฟ้อง-รอผลยื่นอุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุด
บริษัทฯระบุอีกว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 ศาลปกครองนครศรีธรรมราชได้มีคำพิพากษายกฟ้องในคดีข้างต้น เมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2561 บริษัทได้ยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด ศาลปกครองสูงสุดได้รับคำอุทธรณ์ของบริษัท ขณะนี้เรื่องอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ:
ลดแรงปะทะ! อธิบดีกรมป่าไม้ รับสั่งย้ายลูกน้อง หลัง บ.ปาล์มน้ำมันฟ้องปมที่ดิน 7 พันไร่ จ.กระบี่
ป้ายพรึบ! บ.ปาล์มน้ำมันตระกูลดัง อ้างคำสั่งศาลคุ้มครอง ที่ดิน จ.กระบี่ 7.1 พันไร่