กรมราชทัณฑ์เล็งนำนักโทษชั้นดีช่วยปลูกป่า-รับเลี้ยงสัตว์ใกล้สูญพันธุ์
กรมราชทัณฑ์จับมือกรมป่าไม้ เล็งนำนักโทษชั้นดีช่วยปลูกป่า ทำแนวป้องกันไฟ พร้อมแลกเปลี่ยนเอาไม้ของกลางทำเฟอร์นิเจอร์ ประสานกรมอุทยานฯช่วยรับเลี้ยงสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์
พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรมเปิดเผยว่า หลังจากที่ตรวจราชการเรือนจำหลายแห่งหลายพื้นที่ พบว่าพื้นที่เรือนจำหลายแห่งมีศักยภาพสูงที่จะสามารถพัฒนาเชิงรุกได้ ประกอบกับเป้าหมายของการพัฒนาเรือนจำก็จะควบคู่ไปกับการบำบัดสภาพจิตใจของผู้ต้องขัง และเพื่อให้สังคมชุมชนย่อมรับในตัวผู้ต้องขังหลังจากที่พ้นโทษ ซึ่งจากแนวคิดนี้จึงได้ประสานกับกรมป่าไม้-กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช-และชุมชนต่างๆ ผ่านผู้นำชุมชนผู้บริหารท้องถิ่น โดยที่เป้าหมายเพื่อต้องการนำไม้ของกลางให้เรือนจำได้ผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆนำไปจำหน่ายให้ประชาชนโดยทั่วไปซึ่งจะส่งผลให้นักโทษมีรายได้เพิ่มทักษะในการทำงานขณะที่เงินรายได้ส่วนหนึ่งก็จะส่งมอบคืนให้กับกองทุนอนุพิทักษ์ป่าไม้
พ.ต.ท.ประวุธ เปิดเผยว่า หลังจากที่ไปประสานกับอธิบดีกรมป่าไม้แล้ว เกิดแนวคิดร่วมกันอีกหลายประเด็นอาทิ กรมป่าไม้เสนอให้นำนักโทษที่ใกล้พ้นโทษหรืออยู่ในเกณฑ์ที่สามารถออกทำงานนอกเรือนจำได้ ไปช่วยดับไฟป่า ทำแนวป้องกันไฟป่า หรือแม้แต่การปลูกฟื้นฟูสภาพป่า หรือแม้แต่หลังจากการพ้นโทษของผู้ต้องขังที่เป็นผู้ต้องหาคดีป่าไม้ให้กลับมาทำหน้าที่อนุรักษ์พื้นที่ป่าซึ่งบุคคลเล่านี้จะมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านอยู่แล้วแต่หากว่าในอดีตเป็นการหลงผิดทำผิดเมื่อต้องโทษจนพ้นโทษและกลับตัวเป็นคนดีของสังคม นำเอาสิ่งที่เขามีประสบการณ์มาก่อนให้ปฎิบัติเชื่อว่าสามารถที่จะทำได้ดีและเชื่อว่า อดีตผู้ต้องขังลงไปทำงานในพื้นที่หรือสิ่งที่คนไทยไม่ค่อยทำในการปกครองคุ้มครองป่า น่าเชื่อว่าสังคมหรือชุมชนผู้บริหารท้องถิ่นจะย่อมรับอดีตผู้ต้องขังมากขึ้นและสามารถทำให้อดีตนักโทษเป็นที่ย่อมรับของสังคมชุมชนในที่สุดซึ่งเป็นการแก้ปัญหาสังคมไทยโดยการมีส่วนรวมทุกส่วน
พ.ต.ท.ประวุธ เผยอีกว่า ส่วนกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธ์พืชนั้น ได้ประสานกับอธิบดีเพื่อที่จะหารือรับสัตว์ป่าของกลางที่กรมอุทยานต้องดูแลหรือสัตว์ป่าที่กำลังเพาะพันธ์อยู่ในศูนย์เพาะพันธ์สัตว์ป่าต่างๆทั่วประเทศ นำมาเลี้ยงในพื้นที่เรือนจำซึ่งเป็นเรือนจำเปิดที่มีพื้นที่มากกว่า 800 ไร่ ทั้งนี้เนื่องจากพบว่ามนุษย์เมื่ออยู่กับสัตว์หรือเลี้ยงสัตว์อยู่ใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงทำให้สภาพจิตใจดีขึ้นกว่าในอดีต จึงประสงค์ให้นักโทษสามารถพัฒนาจิตใจด้วยการเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเรื่องนี้ได้พัฒนาการคิดร่วมจนกำหนดกรอบรวมกันโดยการจะทำบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือ(MOU) ในการบริหารจัดการไม้ของกลางเพื่อประโยชน์ในการฝึกอาชีพผู้ต้องขังและการเสริมสร้างความร่วมมือในการฟื้นฟูพื้นที่ป่าในความดูแลกรมป่าไม้ ระหว่างกรมป่าไม้ กับกรมราชทัณฑ์ ซึ่งบันทึกข้อตกลงฉบับที่จะเกิดขึ้นระหว่างกรมราชทัณฑ์โดย พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กับ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ โดยมีข้อตกลงร่วมกัน 6 ข้อ คือ
1. เพื่อร่วมกันป้องกัน ควบคุม ฟื้นฟูพื้นที่ป่าในความดูแลของกรมป่าไม้ ให้มีความสมบูรณ์
2. เพื่อร่วมกันบริหารจัดการ ไม้ของกลางที่ได้จากการกระทำความผิดที่คดีถึงถึงที่สุดและถูกยึดเป็นของแผ่นดิน มาใช้ประโยชน์ในการฝึกวิชาชีพผู้ต้องขัง
3. เพื่อร่วมกันพัฒนานวัตกรรมและองค์ความรู้ร่วมกัน ในการอนุรักษ์ทรัพยากรไม้
4 .เพื่อร่วมกันเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้แก่ผู้ต้องขัง
5. เพื่อร่วมกันสร้างงานสร้างอาชีพให้ผู้ต้องขังและผู้พ้นโทษ
6. เพื่อร่วมกันปรับปรุงระเบียบ หรือข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับการขนย้าย ผลิต จำหน่ายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ให้มีความทันสมัยเหมาะสมกับการทำงาน
หมายเหตุ : ภาพประกอบจากไทยรัฐ