วันสุดท้ายในช่วง 7 วันอันตราย ยอดสะสมศาลสั่งคุมประพฤติ ทั้งหมด 9,453 คดี
ในช่วง 7 วันอันตราย กรมคุมประพฤติเผยมียอดสะสมที่ศาลสั่งคุมประพฤติ ทั้งหมด 9,453 คดี พบขับรถขณะเมาสุรา มากสุด 8,706 คดี คิดเป็นร้อยละ 92
วันที่ 3 มกราคม 2562 นายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า วันสุดท้ายในช่วง 7 วันอันตราย มีคดีที่ศาลสั่งคุมประพฤติ จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 2,583 คดี ขับเสพ จำนวน 243 คดี คดีขับรถประมาท จำนวน 4 คดี ศาลสั่งติด EM จำนวน 13 ราย
อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวต่อว่า ในช่วง 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2561 – 2 มกราคม 2562 มียอดสะสมที่ศาลสั่งคุมประพฤติ ทั้งหมด 9,453 คดี จำแนกเป็น
- ขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 8,706 คดี คิดเป็นร้อยละ 92
- ขับเสพ จำนวน 701 คดี คิดเป็นร้อยละ 7.4
- ขับรถประมาท (ตามประมวลกฎหมายอาญา) จำนวน 44 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.46
- ขับซิ่ง จำนวน 2 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.02
- ศาลสั่งติด EM ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ขอนแก่น บุรีรัมย์ ราชบุรี ระยอง สุโขทัย และ นนทบุรี จำนวน 80 ราย โดยกำหนดเงื่อนไข เช่น ห้ามขับรถเร็วเกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ห้ามออกจากที่อยู่อาศัยของตนตั้งแต่เวลา 22.00 – 04.00 นาฬิกา
จังหวัดที่มีสถิติคดีเมาแล้วขับสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 562 คดี จังหวัดสกลนคร จำนวน 552 คดี กรุงเทพมหานคร จำนวน 529 คดี
สำหรับกระบวนการในการดูแลผู้ถูกคุมความประพฤติภายหลังที่ศาลสั่ง พนักงานคุมประพฤติจะชี้แจงเงื่อนไขการคุมความประพฤติตามคำสั่งศาล และจัดให้มีการปฐมนิเทศเพื่อให้เข้าใจถึงคำพิพากษา หรือคำสั่งเงื่อนไขการคุมความประพฤติ เช่น ให้ผู้ถูกคุมความประพฤติมารายงานตัว การทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ รวมทั้งอบรมความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจราจร
ทั้งนี้ ในวันจันทร์ที่ 7 มกราคม 2562 กรมคุมประพฤติ ได้กำหนดจัดแถลงข่าวสรุปยอดสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมประพฤติในช่วง 7 วันอันตราย เทศกาลปีใหม่ 2562 ณ กรมคุมประพฤติ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร