ดีอาร์คองโกเนรเทศอัครราชทูตสหภาพยุโรป
รัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกสั่งให้เอกอัครราชทูตอียูออกนอกประเทศภายใน 48 ชั่วโมง หลังมีการต่อเวลาคว่ำบาตรผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของฝ่ายรัฐบาล ยิ่งเพิ่มความตึงเครียดให้กับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 30 ธ.ค. นี้
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกินชาซา สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ( ดีอาร์คองโก ) เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. ว่ากระทรวงการต่างประเทศดีอาร์คองโกออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี ว่านายบาร์ต อูฟรี เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรป ( อียู ) ประจำกรุงกินชาซา ซึ่งเป็นชาวเบลเยียม อดีตประเทศเจ้าอาณานิคของดีอาร์คองโก มีสถานะเป็น "บุคคลไม่พึงปรารถนา" และต้องเดินทางออกจากประเทศภายใน 48 ชั่วโมง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการตอบโต้มติของที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอียู เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา ขยายระยะเวลาคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อเจ้าหน้าที่ 14 คนของรัฐบาลดีอาร์คองโกออกไปก่อน "อย่างน้อยอีก 1 ปี" ซึ่งบุคคลที่อยู่ในรายชื่อรวมถึงนายเอมมานูเอล รามาซานี ชาดารี ผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในนามฝ่ายรัฐบาล และเป็นบุคคลที่ประธานาธิบดีโจเซฟ คาบิลา วางตัวให้เป็น "ทายาทการเมือง"
ขณะที่คณะกรรมาธิการยุโรป ( อีซี ) ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารของอียู ออกแถลงการณ์ "เสียใจ" ต่อการตัดสินใจของรัฐบาลดีอาร์คองโกในการเนรเทศอูฟรี และย้ำถึงเหตุผลของการต่อระยะเวลามาตรการคว่ำบาตรออกไปอีก ว่าเป็นเพราะอียูยังคงมีความวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนและความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศที่ทวีความรุนแรงในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 30 ธ.ค. นี้ แม้ยังต้องมีการ "เลื่อนการลงคะแนนออกไปก่อน" ใน 4 จังหวัดทางตะวันออกเป็นเดือนมี.ค. อันเนื่องมาจากสถานการณ์รุนแรงทางการเมือง แต่รัฐบาลดีอาร์คองโกยืนยันว่าการเลือกตั้งในพื้นทีอื่นจะเกิดขึ้นตามกำหนดการเดิม และผู้นำคนใหม่จะสาบานตนรับตำแหน่งต่อจากคาบิลาในวันที่ 18 ม.ค. ปีหน้า โดยไม่รอผลคะแนนจาก 4 จังหวัดที่มีผู้มีสิทธิ์ออกเสียงรวมกันมากกว่า 1 ล้านคน
อนึ่ง เดิมทีการเลือกตั้งผู้นำดีอาร์คองโกควรเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2559 แล้ว เนื่องจากคาบิลา วัย 47 ปี อดีตหัวหน้ากองกำลังปฏิวัติดีอาร์คองโก อยู่ในตำแหน่งครบวาระสูงสุด 2 สมัย แต่คาบิลากลับยังคงยื้ออำนาจต่อไป แล้วแก้ไขรัฐธรรมนูญขยายระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง จุดชนวนการประท้วงนองเลือดทั่วประเทศจนถึงปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้น ดีอาร์คองโกกำลังเผชิญกับสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาระลอกใหม่ด้วย จนในที่สุดคาบิลายมสละอำนาจหลังถูกดดันอย่างหนักจากยูเอ็นและนานาประเทศ.
ที่มา : https://www.dailynews.co.th/foreign/684909