เมื่อพรรคการเมือง ชูนโยบาย ‘เงินอุดหนุนเด็ก’ เป็นสวัสดิการ ‘ถ้วนหน้า’
เงินอุดหนุนเด็ก! ไม่ใช่ประชานิยม ‘สุนี ไชยรส’ หวังสังคมเข้าใจ หนุนพรรคการเมืองประกาศเป็นนโยบายถ้วนหน้า สร้างระบบสวัสดิการสังคม
“สวัสดิการเงินอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า” ยังคงเป็นความคาดหวังจากองค์กรภาคประชาสังคมต่อพรรคการเมืองที่จะขับเคลื่อนให้สำเร็จภายหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้น นโยบายนี้ได้รับการตอบรับแล้วจากพรรคการเมืองต่าง ๆ หากในขณะเดียวกันกลับถูกต่อต้านจากผู้ไม่เห็นด้วยบางกลุ่ม โดยตั้งคำถามที่ถึงมาของงบประมาณ เด่นชัดมากสุด คือ การโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กับการอุดหนุนเด็ก 0-8 ปี 1,000 บาท/เดือน จนทำให้นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้า ปชป. ต้องชี้แจงทันด่วนผ่านแฟนเพจส่วนตัวตอนหนึ่งว่า...
“เงินเดือนละพันมีคำถามเยอะที่สุด แต่จริงแล้วทางวิชาการเป็นเรื่องที่จำเป็นมากที่สุดเรื่องหนึ่ง วัตถุประสงค์คือช่วยเป็นค่าอาหารให้เด็กไทยมีโภชนาการที่ดีขึ้น ช่วงที่สำคัญมากคือช่วง 8 ปีแรก ซึ่ง 1,000 บาทต่อเดือน นักวิชาการ TDRI ยังบอกว่าน้อยไป (1,000/30วัน/3มื้อ = มื้อละ 11บาท) เด็กไทยถึงไม่พัฒนา
ส่วนที่ให้ ‘ถ้วนหน้า’ เพราะจากประสบการณ์ รัฐไม่เก่งเรื่องการคัดกรอง คือคัดแล้วคนจนจริงจะไม่ได้สิทธิเสียเยอะ ยิ่งมีเงื่อนไขมากคนจนจริงยิ่งเข้าถึงยาก TDRI จึงแนะนำว่าให้ ‘ถ้วนหน้า’ ดีกว่า แล้วเราจะตั้งกองทุน ใครสละสิทธิเอาใส่ทุนกลับไปช่วยเด็กยากจน”
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีแนวโน้มว่า ครม.จะเปลี่ยนแปลงนโยบาย จากที่เคยอุดหนุน 0-3 ปี เป็น 0-6 ปี เดือนละ 600 บาท จากครอบครัวที่มีรายได้ไม่เกิน 3,000 บาท/เดือน เป็นไม่เกิน 1 แสนบาท/ปี และโยงเข้าไปในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งแนวคิดดังกล่าวยังไม่ใช่ความคาดหวังที่ต้องการให้เป็นสวัสดิการถ้วนหน้า
นางสุนี ไชยรส นักวิชาการวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต กล่าวถึงเหตุผลเสนอเงินอุดหนุนถ้วนหน้าพื้นฐาน 600 บาท โดยอ้างอิงมาจากฐานของประกันสังคมที่มีเงินสงเคราะห์ให้ 600 บาท/เดือน 0-4 ปี จึงได้เห็นว่า มีหลักฐานอ้างอิง ประกอบกับงานวิจัยของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ม.ขอนแก่น และหลายองค์กร ดังนั้นจึงเสนอเป็นจุดเริ่มต้น ซึ่งหากในอนาคต รัฐบาลจะมีนโยบายให้เงินอุดหนุนมากกว่า 600 บาท/เดือนก็ได้
“ขณะนี้มีพรรคปชป.และพรรคอนาคตใหม่ที่ประกาศนโยบายนี้ออกมา ซึ่งการถูกโจมตีแท้จริงแล้วเนื่องจากความไม่เข้าใจและความสับสนที่รัฐบาลพยายามสร้างภาพว่าเงินเหล่านี้ต้องให้กับคนจน แต่หากมองอย่างกว้าง ๆ จะเห็นว่า คนวิจารณ์นโยบายสวัสดิการคนจน บัตรคนจนของรัฐ มีไม่มาก เพราะว่า รัฐสร้างฐานแนวคิดไม่ถูก ความจริงแล้วต้องให้สังคมเข้าใจแนวคิดแบบนี้ ถึงจะแก้ไขปัญหาได้”
นักวิชาการ ม.รังสิต ชี้ว่า กรณีผลักดันเงินอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า 600 บาท/เดือน จะทำให้เด็กกว่า 4 ล้านคนได้รับประโยชน์ แต่หากอุดหนุนเฉพาะเด็กยากจน จะมีเด็กได้รับประโยชน์ 6 แสนคนเท่านั้น ดังนั้น เด็กคืออนาคตที่สำคัญของไทย ในเมื่อกลุ่มวัยอื่น ๆ ได้รับสวัสดิการถ้วนหน้าทั้งหมด แล้วเหตุใดจึงละเลยกลุ่มเด็กเล็ก ฉะนั้นต้องปิดช่องว่างนี้ให้ได้ก่อน
“นักการเมืองถูกโจมตี คิดว่า นักการเมืองทั้งหลายมีจุดยืนของตนเอง คงไปนั่งวิเคราะห์แล้วว่า สามารถทำได้ และหากนักการเมืองเป็นรัฐบาลอุดหนุนเงินถ้วนหน้า 1,000 บาท ก็ไม่ได้เสียหายอะไร ขึ้นอยู่กับว่า รัฐบาลแต่ละชุดจะนำเงินจำนวนดังกล่าวไปทำอะไร ถ้าตัดงบประมาณไม่จำเป็นออกก็สามารถทำได้ ถ้าคิดว่าเป็นนโยบายสวัสดิการสังคมที่สำคัญ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความกล้าหาญและแนวนโยบายที่ดี”
นางสุนี ระบุว่า การที่พรรค ปชป.เสนออุดหนุนถ้วนหน้า 0-8 ปี โดยอ้างอิงตามเกณฑ์หลักการของเด็กปฐมวัยที่กำลังมีการปรับแก้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เด็กปฐมวัย กัน จาก 0-6 ปี ให้เป็น 0-8 ปี ตามฐานคิดนโยบายสากล อย่างไรก็ตาม มองว่า เป็นความก้าวหน้าของพรรคการเมืองที่กล้าหาญในการขับเคลื่อนนโยบายนี้ สำหรับนโยบายของพรรคการเมืองให้ความสำคัญกับเด็กมากน้อยเพียงใดนั้น ถือว่าก้าวหน้ากว่าช่วงก่อน ๆ เพราะในอดีตการหาเสียงไม่ได้พูดรูปธรรมมากขนาดนี้
อย่างไรก็ดี 10 พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชนปฏิรูป พรรคประชาชาติไทย พรรคชาติพัฒนา พรรคอนาคตใหม่ พรรคประชาธิปไตยไทย พรรคสามัญชน พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย ที่เข้าร่วมในเวทีเครือข่ายขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเงินอุดหนุนเด็กเล็กสู่ถ้วนหน้า 109 องค์กรเมื่อกลางพ.ย. 2561 ล้วนเห็นด้วยกับนโยบายนี้เพียงแต่หลายพรรคยังไม่ได้แถลงนโยบายอย่างเป็นทางการ เนื่องจากหัวหน้า คสช. เพิ่งปลดล็อกมาได้ไม่นาน แต่เชื่อว่า หลังปีใหม่นี้ แต่ละพรรคการเมืองจะแถลงนโยบายออกมาชัดเจนมากขึ้น ซึ่งขอชื่นชมว่าให้มีการแข่งขันกันในเรื่องนโยบายทุกพรรค
“อย่างน้อยตุนแล้วว่า 10 พรรคต้องไปกับเรา แต่จะออกมาละเอียดยิบ หรือหวือหวาแค่ไหน เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องทำให้สังคมเข้าใจ คือ นี่ไม่ใช่นโยบายประชานิยม ระหว่างที่ด่ารัฐบาลเรื่องแจกซ้ายแจกขวา และพาลไปยังรัฐบาลเก่า คิดว่าการแจกเป็นเรื่องประชานิยม แจกเพื่อหาเสียง แต่ความเป็นจริงแล้ว หากถามแนวคิดและการวางแผนตอบรับทั้งระบบ จะพบว่า นี่ไม่ใช่ประชานิยม แต่คือสวัสดิการสังคมที่จำเป็นที่สุดของผู้คนและของเด็ก” นักวิชาการ ม.รังสิต กล่าวย้ำ
**************************************
ทุกภาคส่วนต้องตีโจทย์ให้แตกว่า เงินอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า ไม่ใช่ ประชานิยม แต่เป็นสวัสดิการสังคมที่เด็กทุกคนพึงได้รับเฉกเช่นกลุ่มวัยอื่น ๆ เพื่อฐานคุณภาพชีวิตที่ดี ถึงเวลาแล้วที่แต่ละพรรคการเมืองต้องใส่ใจและพิจารณา .
เรื่องที่เกี่ยวข้อง:งบฯ ไม่ใช่ปัญหา! 'สุนี' จี้รัฐอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า แก้ตกหล่น - 6 ปี ใช้เงิน 2.9 หมื่นล.