แนะรวมทุนชุมชนแก้วิกฤติชาติ เริ่มจากถอดบทเรียนพื้นที่ต้นแบบ
ระดมสมองทุนชุมชนขับเคลื่อนประเทศ อ.ไพบูลย์ บอกการเมืองการปกครองไทยแย่ เป็นสาเหตุวิกฤติ แต่มีศักยภาพทุนชุมชนต่อยอดคลี่คลายวิกฤติได้ ชาวบ้านแนะขยายผลจากพื้นที่รูปธรรม ยกสถานะองค์กรการเงินชุมชนเป็นสถาบัน
วันนี้(6 ก.ค.) ที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช คณะอนุกรรมการเศรษฐกิจและทุนชุมชน ร่วมกับ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(พอช.) จัดสัมมนา“ทุนชุมชนกับการขับเคลื่อนประเทศไทย” โดย นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุนชุมชนมีพลังและศักยภาพสามารถต่อยอดพัฒนาช่วยคลี่คลายวิกฤติประเทศได้ คือ 1.ทุนทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีทั้งส่วนที่ยังดีอยู่ สามารถจัดการให้เอื้อประโยชน์ และส่วนที่เสื่อมโทรมต้องฟื้นฟู 2.ทุนมนุษย์และครอบครัวเป็นหน่วยสำคัญทำให้ฐานสังคมดีขึ้น 3.ทุนสังคมและวัฒนธรรม ที่มีความดีและความไว้วางใจเป็นพื้นฐาน เชื่อมโยงเป็นเครือข่ายอย่างเข้มแข็ง 4.ทุนเศรษฐกิจและการเงิน เช่น วิสาหกิจชุมชน กลุ่มออมทรัพย์ สถาบันการเงินต่างๆที่เข้มแข็งอ่อนแอต่างกัน
“สุดท้ายทุนการเมืองการปกครอง สาเหตุสำคัญของวิกฤติ เป็นปัจจัยเกื้อหนุนมิติอื่น ตั้งแต่ระดับบุคคลโยงถึงระบบ ที่ผ่านมาไม่ถึงขนาดเลวบริสุทธิ์แต่ไม่ดีเท่าที่ควร ชุมชนช่วยให้ดีขึ้นได้และต้องรีบทำ”
นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ชาวบ้านต้องสำรวจทุนชุมชนว่ามีอะไรแค่ไหน จะฟื้นฟูพัฒนาอย่างไร โดยยึดพื้นที่ให้ชุมชนเป็นตัวตั้ง จากนั้นต้องสร้างพัฒนาการต่อยอด และสร้างใหม่ในพื้นที่ยังไม่เกิด ประสานความร่วมมือลักษณะพหุภาคีมาร่วมคิดร่วมทำ ทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) หน่วยงานทั้งในและนอกภาครัฐ รวมทั้งภาควิชาการมาช่วยประมวลความรู้ชุมชนให้แตกฉานเพื่อหาแนวทางพัฒนาต่อ
“ควรมีเครือข่ายและขับเคลื่อนในระดับจังหวัดทั่วประเทศให้เกิดการพัฒนาที่ดีขึ้นทุกด้านและถ้วนทั่ว ถ้าทำระดับประเทศเลยใหญ่ไป ระดับนี้มีความเป็นไปได้มากกว่าเพราะเป็นกึ่งกลางระหว่างฐานและประเทศ ถ้าทำได้จะนำไปสู่การปฏิรูปฟื้นฟูครั้งสำคัญ” นายไพบูลย์ กล่าว
นายเจริญ ยอดมณี จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวถึงการแก้ปัญหาหนี้สินว่าต้องเน้นการแก้หนี้ที่ไม่แก้เงิน แต่แก้ที่ทุนชีวิตทุนชุมชนที่มีอยู่ โดยการออมพร้อมวางเป้าหมายและกติกาให้ชัดเจนแต่ยืดหยุ่นได้ และมีกลไกช่วยขับเคลื่อน เช่น อปท. หรือสภาองค์กรชุมชน เชื่อมตั้งแต่ระดับท้องถิ่นไปสู่เครือข่ายอื่น
เช่น ต.หนองโสน จ.พิจิตร ใช้ทุนเบื้องต้นที่เป็นตัวเงินมาปล่อยกู้เป็นปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย เครื่องมือเกษตร เพื่อหลีกเลี่ยงการนำเงินไปใช้ฟุ่มเฟือย เป็นการปลดหนี้โดยยึดหลักทำมาหากินอย่างยั่งยืน, ต.อ่าวน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ใช้ทุนทุกอย่างที่มีในชุมชนมาบูรณาการ มีการสำรวจข้อมูลลูกหนี้นอกระบบและนำเงินกองทุนไปใช้หนี้นายทุนเพื่อให้ชาวบ้านเป็นหนี้กองทุนแทน และ ต.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี กำหนดให้สมาชิกกู้เงินไปใช้หนี้ได้ แต่ต้องทำตามกติกาส่วนรวมอย่างเคร่งครัด ไม่เช่นนั้นมีบทลงโทษ
“การเชื่อมโยงทุนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน เริ่มจากจัดตั้งกลุ่มต่างๆตามบริบทพื้นที่ วัฒนธรรม ภูมิปัญญา องค์ความรู้ มาร่วมผลิตและใช้ร่วมกัน เช่น ร้านค้าชุมชน สหกรณ์ และเชื่อมโยงกลุ่มกิจกรรมต่างๆ”
นายประภาส แสงประดับ กล่าวว่า ทิศทางใหม่ของขบวนเศรษฐกิจและทุนชุมชน ต้องเริ่มจากจัดระเบียบตัวเองก่อน เพราะที่ผ่านมามีกองทุนเกิดขึ้นมาก ข้อมูลกระจัดกระจาย ต้องปรับระบบฐานข้อมูลใหม่, มีพื้นที่ปฏิบัติการฐานตำบลที่เชื่อมโยงบูรณาการกองทุนได้ เพื่อจุดประกายและการเรียนรู้ให้พื้นที่อ่อนแอ อีกส่วนควรยกระดับให้องค์กรการเงินพัฒนาเป็นสถาบันการเงินที่ยั่งยืนและเป็นที่ยอมรับจากภายนอก
นางสาวกานดาภร ไชยปากดี ตัวแทน จ.หนองคาย กล่าวว่า แนวทางสู่เศรษฐกิจและทุนชุมชนใหม่คือ 1.ภาควิชาการต้องสนับสนุนความรู้และเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นระบบการจัดการการเงิน หรือเว็บไซต์ชุมชนให้ทุกคนเข้าถึงข้อมูลทั่วถึง 2.พัฒนาศักยภาพของผู้นำทุกด้าน 3.ปรับวิธีการบริหารจัดการ กำหนดกฎกติกาชัดเจนและบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพ 4.สนับสนุนการจัดตั้งกองทุนภายใต้เงื่อนไขชุมชนและหนุนให้มีการรับรองสถานภาพอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและการดูถูกจากภายนอก 5.รัฐต้องร่วมสมทบทุกกองทุนเช่นเดียวกับสวัสดิการชุมชน 6.สร้างหุ้นส่วนการพัฒนาและสร้างรูปธรรมร่วมกัน และ 7.ตั้งคณะทำงานเรื่องทุนชุมชนและผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ
นางประมวล เจริญยิ่ง คณะอนุกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและชุมชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้ภาพรวมและเสนอว่า ขณะนี้มีพื้นที่รูปธรรมทั้งในแง่กระบวนการและการจัดการอยู่จำนวนหนึ่ง ดังนั้นต้องสร้างทุนชุมชนสู่การพัฒนาท้องถิ่นเพื่อเคลื่อนไปเปลี่ยนแปลงโครงสร้างระดับประเทศ
“ต้องนำชุดความรู้ ประสบการณ์ ที่ซ่อนอยู่ในพื้นที่รูปธรรมเหล่านี้มาถอดบทเรียน และขยายผล โดยใช้ทิศทางที่พอมีอยู่ช่วย นอกจากนี้ต้องเชื่อมโยงกับระบบคิดฐานอื่นๆเช่น สวัสดิการ ออมทรัพย์ ทรัพยากร อย่าทำเป็นแท่ง” นางประมวล กล่าว .