อบรมวิธีเลี้ยงควายให้ชาวนา ฟื้นวิถีเกษตรดั้งเดิม สวนกระแสเครื่องจักร
ก.เกษตรฯ หนุนตั้งวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงควายสวนกระแสเครื่องจักรทำนา ฟื้นวิถีดั้งเดิม-ส่งเสริมเกษตรผสมผสานตามแนวพอเพียง นำร่อง 12 จว. ด้านกรมป้องกันภัยรายงานพื้นที่ภัยแล้ง 27 จว. 204 อ. ขณะที่ปริมาตรน้ำ 13 อ่างยังน่าห่วง เร่งปฏิบัติการเติมน้ำจากฝนหลวง
นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันปริมาณควายในประเทศไทยมีจำนวนลดลงอย่างมาก เหลือเพียงประมาณ 1.3 ล้านตัว จากปี 2523 ซึ่งมีประมาณ 6 ล้านตัว ขณะที่ปัจจุบันควายในประเทศเพื่อนบ้านส่วนใหญ่ มีจำนวนใกล้เคียงถึงมากกว่าประเทศไทย ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้เครื่องจักรทำนาแทนควาย ดังนั้นกรมปศุสัตว์จึงได้เตรียมพัฒนาควายพื้นเมืองให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจเหมือนเช่นอดีต และเร่งสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเพื่อลดการบริโภคเนื้อควาย
นายธีระ กล่าวว่า ยังได้ส่งเสริมให้เกษตรกรแต่ละชุมชนรวมกลุ่มจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน โดยให้จัดหาควายมาให้เลี้ยงรายละ 2-3 ตัว และกรมปศุสัตว์จะให้ยืมควายจากธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ(ธคก.) ขณะเดียวกันกองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้เตรียมสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้เกษตรกรกู้ยืมซื้อควาย จากนั้นจะเร่งฝึกอบรมวิธีการเลี้ยงควายให้เกษตรกร และฝึกควายไถนาควบคู่กันไป เพื่อให้ใช้งานได้จริง
รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า คาดว่าจะช่วยกระตุ้นให้เกษตรกรหันมาทำนาโดยใช้แรงงานควายในระบบเกษตรผสมผสานแบบเศรษฐกิจพอเพียงครอบคลุมพื้นที่ 3,410 ไร่ สามารถลดค่าใช้จ่ายจากการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไร่ละ 132 บาท คิดเป็นเงิน 4.5 แสนบาทต่อปี ลดค่าใช้จ่ายปุ๋ยเคมีโดยสามารถผลิตปุ๋ยคอกได้ปีละ 1,236 ตัน คิดเป็นมูลค่าปีละ 1.1 ล้านบาท โดยจัดโครงการนำร่องทั่วประเทศ 12 จังหวัด และจะเร่งขยายผลโครงการอย่างต่อเนื่องภายในปีนี้
นอกจากนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์ภัยแล้งปัจจุบัน มีพื้นที่ประสบภัย 27 จังหวัด ภาคเหนือ 12 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 11 จังหวัด และภาคกลาง 4 จังหวัด รวม 204 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อน 4,303,167 คน มีพื้นที่การเกษตรเสียหาย รวม 2,198,096 ไร่ ขณะที่สำนักฝนหลวงและการบินเกษตรออกปฏิบัติการทำฝนหลวงแล้ว 113 วัน ในพื้นที่ 63 จังหวัด
ทั้งนี้อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศมีปริมาตรน้ำทั้งหมด 31,828 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 46 ของความจุอ่างทั้งหมด น้อยกว่าปี 2552 จำนวน 7,470 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยอ่างเก็บน้ำภูมิพลและอ่างเก็บน้ำสิริกิติ์ มีปริมาตรทั้งหมด 4,054 และ 3,227 ล้านลูกบาศก์เมตร สำหรับน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ 33 อ่างมี 13 อ่างที่ปริมาตรน้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุ โดยเฉพาะที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และขุนด่านปราการชล .
ภาพประกอบจาก http://www.vet.ku.ac.th/library-homepage/article/knowledge.htm