รัฐเปิดแคมเปญลดเบี้ยปรับ กยศ. - ประชาชาติสร้างกระแสปลดหนี้ที่ชายแดนใต้
ไม่ว่าจะเป็นช้อปช่วยชาติ ซื้อยางรถยนต์ก็เอามาหักภาษีได้ รวมถึงเพิ่มค่าตอบแทน อสม. หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จากเดือนละ 600 บาทเป็น 1,000 บาท ยาว 10 เดือน นอกจากนั้นยังมีแจกซิมคนจน เพื่อให้ใช้อินเทอร์เน็ตแก้จนด้วย (เช่น ตรวจสอบราคาผลผลิตทางการเกษตร และหาข้อมูลการประกอบอาชีพ)
มีอีกเรื่องหนึ่งที่กำลังจะกลายเป็นของขวัญจากรัฐบาลเหมือนกัน แต่ยังไม่เป็นข่าวมากนัก ก็คือการแก้ไขปัญหาหนี้ กยศ.
กยศ. หรือ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เป็นโครงการที่ดีในการส่งเสริมการศึกษา ทำกันมาต่อเนื่องหลายรัฐบาล แต่ปัจจุบันกำลังมีปัญหาหนักหน่วงมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะผู้กู้เมื่อเรียนจบแล้วไม่ชำระหนี้คืน จนโดนเบี้ยปรับ ดอกเบี้ยท่วม และถูกฟ้องร้องบังคับคดีเป็นจำนวนมาก ข่าวล่าสุดแจ้งว่า กยศ.กำลังจะมีแคมเปญเป็นของขวัญให้บรรดาลูกหนี้ กยศ.ด้วยเช่นกัน
หนึ่งในของขวัญจาก กยศ. ก็คือ การตอบแทนกลุ่มผู้กู้ที่ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ และผู้กู้ที่อยู่ในช่วงปลอดหนี้ หากปิดบัญชีจะได้ลดหย่อนหนี้ 3% ทันที พร้อมออกมาตรการจูงใจชั่วคราวสำหรับผู้กู้ยืมที่ผิดนัดชำระหนี้ หากปิดบัญชีจะได้ลดเบี้ยปรับถึง 85% ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 พ.ค.62 เท่านั้น
สาเหตุที่รัฐบาล และ กยศ.หันมาให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาหนี้ กยศ. ซึ่งมีเยาวชนและคนวัยทำงานติดหนี้และถูกฟ้องบังคับคดีเป็นจำนวนมากนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะช่วงใกล้เลือกตั้ง มีพรรคการเมืองหลายพรรคเสนอนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้ กยศ. จนสามารถสร้างกระแสและได้รับการสนับสนุนจากคนรุ่นใหม่และคนวัยทำงานได้มาก โดยหนึ่งในนั้นคือ "พรรคประชาชาติ" ที่มี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็นเลขาธิการพรรค
เป้าหมายที่พรรคประชาชาติไปขับเคลื่อนเพื่อแก้ปัญหาให้ลูกหนี้ กยศ. คือพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะเป็นพื้นที่ที่มีลูกหนี้ กยศ.มากเป็นพิเศษ เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้น มีเยาวชนและคนวัยทำงานเป็นลูกหนี้ กยศ.มากกว่าแสนราย ในจำนวนนี้ถูกฟ้องและอยู่ในชั้นบังคับคดีแล้วประมาณ 6 หมื่นราย
ที่ผ่านมา พรรคประชาชาติลงไปเปิดเวทีและทำกิจกรรมกับลูกหนี้ กยศ.หลายครั้ง และได้สรุปปัญหา ตลอดจนเสนอเป็นแนวทางแก้ไขในเบื้องต้น ได้แก่ ยกเลิกเบี้ยปรับ, ถอนฟ้องคดีที่ศาลและงดการบังคับคดี, ปรับโครงสร้างหนี้, แก้กฎหมายไม่ให้เงินกู้ กยศ.มีดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ และสร้างงานสร้างอาชีพในโครงการรัฐ เพื่อทำงานใช้หนี้ภายใน 2-4 ปี
เลขาธิการพรรคประชาชาติ บอกว่า รัฐบาลในอดีตเคยออกกฎหมายตั้ง ปรส. เพื่อแฮร์คัทหนี้ให้กับกลุ่มสถาบันการเงินซึ่งเป็นคนร่ำรวยสูงสุดถึง 80% แต่เวลาเยาวชน นิสิตนักศึกษาเป็นหนี้บ้าง กลับฟ้องคดีและบังคับคดีอย่างเอาเป็นเอาตาย จึงขอเรียกร้องให้เลิกมาตรการเหล่านี้ ซึ่งพรรคประชาชาติได้เสนอเรื่องนี้เป็นนโยบายพรรคและนโยบายหาเสียงด้วย
อย่างที่บอกว่า ปัญหาลูกหนี้ กยศ.สาหัสมากในพื้นที่ชายแดนใต้ ถึงขนาดมีการตั้งกลุ่มดูแลกันเอง ชื่อว่า "กลุ่มช่วยเหลือลูกหนี้ กยศ." มี นิธิมา ลามะ เป็นแกนนำและเป็นตัวแทนกลุ่มลูกหนี้ โดยจุดยืนของกลุ่มลูกหนี้ กยศ.ชายแดนใต้ เรียกร้องให้ กยศ.ปรับโครงสร้างหนี้ ลดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ เพราะรวมแล้วเป็นเงินที่สูงเกินไป บางคนสูงกว่าเงินที่กู้ไปเสียอีก เช่น กู้ไป 2 แสนกว่าบาท โดยเบี้ยปรับ บวกดอกเบี้ย บวกเงินต้น สรุปต้องจ่ายคืนร่วมๆ 6 แสนบาท ลูกหนี้ไม่มีเงินจ่าย แต่ยินดีที่จะชำระเงินต้นตามที่ได้กู้ไป
จากความเคลื่อนไหวทั้งหมด ทำให้กรมบังคับคดี โดย รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี จับมือกับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. จัดมหกรรมไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดีในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ได้เจรจาชำระหนี้กับ กยศ. พร้อมหาแนวทางในการชำระหนี้เพื่อลดการถูกบังคับคดี โดยมีผู้ไกล่เกลี่ยของกรมบังคับคดีเป็นคนกลาง งานนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยจัดจัดกิจกรรมที่จังหวัดยะลา วันที่ 13 ธ.ค. จังหวัดปัตตานี วันที่ 15 ธ.ค. และจังหวัดนราธิวาส วันที่ 25 ธ.ค.
------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1-2 แคมเปญของ กยศ.
3 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง
4 นิธิมา ลามะ
5-6 โครงการไกล่เกลี่ยหนี้ กยศ.ของกรมบังคับคดี