ทางการไทยต้องปล่อยตัวนักฟุตบอลผู้ลี้ภัยชาวบาห์เรนกลับออสเตรเลีย
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออสเตรเลีย เรียกร้องในวันนี้ ให้ทางการไทยยุติการควบคุมตัว ฮาคิม อัล-อารายบี พลเมืองสัญชาติบาห์เรน และเป็นผู้มีสิทธิพำนักอาศัยในออสเตรเลีย ซึ่งยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ แม้มีรายงานว่าทางตำรวจสากลได้ยกเลิกหมายแดง ซึ่งเป็นเหตุให้เขาถูกควบคุมตัวในเบื้องต้นแล้ว
“ฮาคิมยังคงไม่ปลอดภัย จนกว่าจะกลับถึงประเทศออสเตรเลีย” ไดอานา ซาเย็ต เจ้าหน้าที่รณรงค์ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออสเตรเลียกล่าว
“ฮาคิมอาจได้รับอันตราย หากถูกเนรเทศกลับไปบาห์เรน ในฐานะผู้มีสถานะผู้ลี้ภัยและมีเอกสารการเดินทางอย่างถูกต้อง เขาไม่ควรจะถูกควบคุมตัว เรายินดีที่ได้ทราบข่าวว่า ทางตำรวจสากลได้ยกเลิกหมายแดงเพื่อจับตัวเขาแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น ทางการไทยยังคงควบคุมตัวเขาต่อไป"
“สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองต้องปล่อยตัวเขาทันที และอนุญาตให้เขาเดินทางกลับบ้านที่ออสเตรเลีย”
ฮาคิมซึ่งใช้หนังสือเดินทางของออสเตรเลีย ถูกควบคุมตัวพร้อมภรรยา เมื่อเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ ในวันอังคารที่ 27 พ.ย. 2561
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลได้รับรายงานว่า มีการส่งตัวฮาคิมและภรรยาไปควบคุมตัวที่ศูนย์กักตัวคนต่างด้าวซอยสวนพลู ในวันอาทิตย์ที่ 2 ธ.ค. ต่อมาในวันที่ 3 ธ.ค. มีการนำตัวฮาคิมไปขึ้นศาล และศาลได้สั่งฝากขังเป็นเวลา 12 วัน ระหว่างเดินทางกลับไปศูนย์กักตัวคนต่างด้าวซอยสวนพลู เจ้าหน้าที่ได้ยึดโทรศัพท์มือถือของเขาไว้
ฮาคิมได้รับโทษจำคุกเป็นเวลา 10 ปี จากการพิจารณาคดีอย่างไม่เป็นธรรมในบาห์เรนเมื่อปี 2557 ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถูกคุกคามหรือถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ในฐานะที่เคยเป็นนักฟุตบอลทีมชาติ เขาได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์พฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของบาห์เรน ที่ซ้อมทรมานนักฟุตบอล ซึ่งเข้าร่วมในการชุมนุมประท้วง ตัวเขาเองถูกจับกุมในเดือน พ.ย. 2555 และถูกซ้อมทรมาน
นับจากนั้นมา เขาได้ออกมาเผยแพร่ข้อมูลว่ามีการทรมานตัวเขา โดยระบุว่า “พวกเขาปิดตาผม (...และ) ตีที่ขาของผมอย่างแรง และบอกว่า ‘แกจะไม่มีโอกาสได้เล่นฟุตบอลอีก เราจะทำลายอนาคตของแก’” เป็นเหตุให้ฮาคิมหลบหนีไปออสเตรเลีย และได้รับสถานะผู้ลี้ภัยในปี 2560 เขาได้รับแจ้งเมื่อเดินทางไปถึงกรุงเทพฯ ว่า จะถูกส่งตัวกลับไปบาห์เรน ซึ่งมีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะทำให้เขาถูกคุมขังและทรมาน
การควบคุมตัวเขาเป็นไปตามการออกหมายแดงของตำรวจสากล ซึ่งเป็นการออกหมายโดยทางการบาห์เรนจากการตัดสินอย่างไม่เป็นธรรมว่าเขามีความผิดเมื่อปี 2557 ตามกฎหมายระหว่างประเทศ ถือเป็นเรื่องต้องห้ามในการส่งตัวบุคคลกลับไปยังดินแดนใด ๆ ที่มี่ชื่อได้ว่า บุคคลผู้นั้นมีความเสี่ยงอย่างแท้จริงที่จะถูกทรมาน หรือถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
“รัฐบาลออสเตรเลียตระหนักถึงความจำเป็น และได้ให้ที่ลี้ภัยแก่ฮาคิมกับครอบครัว เพื่อให้ปลอดพ้นจากการประหัตประหารในบาห์เรน รัฐบาลไทยต้องตระหนัก และเคารพสถานะผู้ลี้ภัยของเขา และส่งเขาและครอบครัวกลับไปออสเตรเลีย แทนที่จะส่งตัวเขาเพื่อไปเผชิญกับชะตากรรมที่โหดร้ายในบาห์เรน”