แบงก์พาณิชย์ จ่อเก็บค่าถอนเงินทั้ง ATM – หน้าเคาน์เตอร์
ธนาคารพาณิชย์ เตรียมหารือธนาคารแห่งประเทศไทย ถึงแผนเก็บค่าธรรมเนียมถอนเงินสด-เช็ค ทั้งจากตู้เอทีเอ็ม-หน้าเคาน์เตอร์ หลังเลิกเก็บค่าธรรมเนียมออนไลน์
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2561นายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาสมาคมธนาคารไทย รวมถึงธนาคารต่างๆ ได้หารือเรื่องการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการถอนเงินสด หน้าเคาน์เตอร์ และเครื่องเอทีเอ็มจริง ซึ่งมีการหารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.อย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีข้อสรุป เพราะธปท.ต้องการพิจารณาให้รอบคอบ ก่อนอนุญาตให้แบงค์สามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรมเงินสด หรือการใช้เช็คเงินสดต่างๆ ได้ สาเหตุที่ต้องเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรมเบิกถอนเงินสด เพราะธุรกรรมส่วนนี้เป็นต้นทุนที่สูงของธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการเงินสดตู้เอทีเอ็ม และพนักงาน
นางปรัศนี อุยยามะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ในอนาคตเมื่อธุรกรรมเกือบทั้งหมดอยู่บนช่องทางออนไลน์มากขึ้น คาดว่าการเก็บค่าธรรมเนียม จากการทำธุรกรรมผ่านเงินสด หรือผ่านเช็คเงินสด น่าจะเกิดขึ้นซึ่งปัจจุบันได้หารือร่วมกับธปท.ไปหลายครั้งแล้ว ส่วนจะสามารถเก็บได้ในเร็วๆ นี้หรือไม่ เชื่อว่าธปท.คงอยู่ระหว่างการพิจารณาให้รอบคอบ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมากทั้งการหันไปใช้คิวอาร์โค้ด พร้อมเพย์
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นหากสามารถเก็บค่าธรรมเนียมได้จริง คงไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในระยะเริ่มแรก แต่อาจเป็นการลดสิทธิประโยชน์ด้านเงินสดลง เช่น การถอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม ที่อาจให้สิทธิการถอนฟรีลดลง เพราะทุกวันนี้ทุกธนาคารให้ถอนเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็ม ข้ามธนาคาร ฟรีเฉลี่ย 5 ครั้งต่อเดือน เหล่านี้เชื่อว่าจะเห็นสิทธิประโยชน์เหล่านี้ลดลงก่อน
ด้านนายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ และผู้บริหารสายงานดิจิทัลแบงก์กิ้ง และนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มีโอกาสที่ธนาคารพาณิชย์จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการถอนเงินสด หรือจากเช็คเงินสดต่างๆ เหมือนในต่างประเทศ เช่นสหรัฐ หรือในแถบยุโรป เนื่องจากเหล่านี้เป็นต้นทุนของระบบธนาคาร แต่อาจยังไม่ได้เห็นเร็วๆ นี้ แต่อย่างน้อย 3 ปีข้างหน้าก็มีโอกาสได้เห็น สาเหตุเพราะ ธปท.อาจต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ดิจิทัล ว่ามีความหลากหลาย ทั่วถึงหรือไม่เพราะปัจจุบันหากดูการถอนเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็มพบว่า ยังเกินระดับ 8 ล้านล้านบาทต่อปี ไม่ได้ลดลงหากเทียบกับปีก่อนหน้า
ดังนั้นก็สะท้อนว่า การใช้เงินสดในระยะอันใกล้นี้ยังเป็นสิ่งจำเป็น ทั้งนี้หากดูการใช้โมบายแบงกิ้งวันนี้ พบว่าได้รับความนิยมสูงอยู่ในกลุ่มเขตชุมชนเมือง แต่ต่างจังหวัดการใช้ยังไม่แพร่หลาย ดังนั้นอาจจะต้องใช้ระยะเวลาสักพัก พฤติกรรมผู้บริโภคถึงเปลี่ยนไปสู่ดิจิทัล นอกจากนี้ระบบการชำระเงินยังเป็นโจทย์สำคัญ ที่จำเป็นต้องให้เกิดการชำระเงินใหม่ๆ หลากหลายมากขึ้นกว่าปัจจุบัน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้บริการได้
ที่มา : https://goo.gl/KC41bK