เทศกิจคิดส่งใบสั่ง'ขี่รถทางเท้า'ถึงบ้าน ผิดซ้ำๆชงยึดรถ
เทศกิจคิดส่งใบสั่งถึงบ้าน จัดการ”ขี่รถบนทางเท้า”ทำแบบตำรวจ เพิ่มค่าปรับแล้วยังไม่เข็ดเตรียมสั่งยึดรถ
นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมแนวดิ่งเทศกิจ 50 เขตว่า ที่ผ่านมาแม้กทม.จะออกมาตรการอย่างเข้มงวด ตามโครงการจับจริง ปรับจริง ทำให้ในรอบ 4 เดือน สามารถจับผู้ทำผิดข้อหาต่างๆรวมการขับขี่รถบนทางเท้าได้กว่า 10,000 ราย และปรับเป็นเงินได้กว่า 4 ล้านบาท แต่จำนวนผู้กระทำผิดกลับไม่ลดลงเลย โดยเฉพาะบริเวณที่ไม่มีเจ้าหน้าที่เทศกิจประจำจุด จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการให้เข้มงวดขึ้น โดยจะเพิ่มค่าปรับจากอัตราต่ำสุด 500 บาทเป็น 1,000 บาท ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เนื่องจากเชื่อว่าการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงด้วยค่าปรับที่สูงขึ้น จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ แม้ว่าที่ผ่านมาผู้ว่าฯกทม.ได้เคยมอบนโยบายถึงการปรับขั้นต่ำ 500 บาท โดยไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อปรับหรือเพิ่มภาระใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม หากการปรับอัตราเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 บาท หากไม่เห็นผลอีกจะพิจารณาปรับขึ้นอีก รวมถึงให้เจ้าหน้าที่ยึดรถจักรยานยนต์ หรือสิ่งของที่ใช้กระทำความผิดตามกฎหมาย สำหรับผู้ไม่สามารถจ่ายค่าปรับได้ และมอบรถคืนจนกว่าจะมาชำระค่าปรับ ทั้งนี้ตนยอมรับเสียงสะท้อนถึงกรณีข้อละเลยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เทศกิจ แต่ขอให้สังคมได้ให้ความเป็นธรรมต่อเจ้าหน้าที่ด้วย เนื่องจากอัตรากำลังที่มีอยู่อย่างจำกัด โดยแต่ละเขตจะมีเจ้าพนักงานราว 50-60 คน แต่ด้วยถนนในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่มีถนน ตรอกซอยจำนวนมาก เจ้าหน้าที่คงไม่สามารถประจำได้ทุกจุดและตลอด 24 ชั่วโมงในทุกวัน บางจุดจึงเล็ดลอดสายตาไปบ้าง ยกเว้นจุดที่ กทม.กำชับให้กวดขันบนถนนสายหลัก 233 สาย หากยังเกิดกรณีดังกล่าวอยู่อาจจะต้องมีการคาดโทษเจ้าหน้าที่เทศกิจต่อไป
นายสกลธี กล่าวว่า นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังมีการหารือถึงการเพิ่มโครงการคู่ขนานกับการนำกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) จับภาพผู้กระทำผิด พร้อมส่งใบสั่งเป็นจดหมายไปยังที่พักอาศัย โดยได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายของสำนักเทศกิจหารือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อศึกษารายละเอียดดังกล่าว ทั้งนี้ แม้ปัจจุบันกทม.จะกล้องซีซีทีวีในพื้นที่กรุงเทพฯถึง 50,000 ตัว แต่กล้องดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อจับผู้กระทำผิด ขณะเดียวกัน ยังมอบหมายให้สำนักการจราจรและขนส่งเขียนโครงการเสนอเสนอผู้บริหารเพื่อขอจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม รวมถึงเบื้องต้น กทม.จะต้องประสานกับทางกรมขนส่งทางบกเกี่ยวกับการขอเลขทะเบียนรถเพื่อนำมาดำเนินการตามกฎหมาย
ทั้งนี้ในที่ประชุมยังหารือกรณีจุดจอดรถจักรยานยนต์รับจ้าง (วินมอเตอร์ไซค์) ที่แต่เดิมกำหนดให้จอดบนทางซึ่งประสบปัญหากีดขวางการจราจรในบางจุด จึงได้มอบนโยบายสำนักเทศกิจ สำรวจทางเท้าที่มีขนาดกว้าง ดำเนินการปาดเกาะ เหมือนจุดจอดรถแท็กซี่ ไม่ให้รถจักรยานยนต์รับจ้างนำยานพาหนะไปจอดบนทางเท้าหรือกีดขวางการจราจรบนถนน เบื้องต้นสำรวจ 50 เขต พบมีจำนวน 400 จุด ส่วนทางเท้าที่มีขนาดแคบ ต้องหาทางแก้ไขในระยะยาว เช่น ย้ายจุดจอดหรือขอใช้พื้นที่เอกชน แต่คงไม่สามารถจะยกเลิกวินรถจักรยานยนต์ได้ เพราะเกรงว่าจะกระทบกับการใช้บริการประชาชนได้
ที่มา : https://www.dailynews.co.th/bangkok/679904