รัฐแก้วิกฤติพลังงาน-อาหาร สร้างโรงสีชุมชน-ยุ้งฉางรวม ตั้งองค์กรถาวรสำรองข้าว
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบกับมาตรการรองรับวิกฤตอาหารและพลังงาน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยจะส่งเสริมระบบเก็บสำรองอาหารและพลังงาน (food-energy Interaction) ในชุมชนเพื่อใช้เป็นฐาน เก็บกักอาหารสำหรับในประเทศ อาทิ การสร้างยุ้งฉางรวม การสร้างโรงสีชุมชน รวมถึงสนับสนุนการจัดตั้งองค์กรถาวรสำรองข้าวเพื่อประกันความมั่นคงด้านข้าว ในภาวะฉุกเฉิน
นอกจากนี้ที่ประชุมครม. ยังมีเห็นชอบกับมาตรการส่งเสริมพัฒนาระบบการประกอบอาชีพในระดับชุมชน ประกอบไปด้วย ส่งเสริมการทำเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม่และธนาคารโคกระบือตามแนวพระราชดำริเพื่อขยายกระบวนการเรียนรู้ระบบเกษตรอินทรีย์ ให้ครัวเรือนเกษตรมีความมั่นคงทางด้านอาหาร รวมถึงจะส่งเสริม การพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมเพื่อการประมง การพัฒนาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทั้งประมงชายฝั่ งและประมงน้ำจืดในระดับพื้นบ้านซึ่งจะสามารถขยายผลไปสู่ความร่วมมือกับต่างประเทศในน่านน้ำสากล และพัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมสัตว์น้ำได้
ในที่ประชุม ครม. ยังเห็นชอบกับมาตรการอื่นๆ ที่รองรับวิกฤตอาหารและพลังงานอื่นๆ ตามที่ถูกเสนอมา อาทิ พัฒนาการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าอาหาร เพิ่มศักยภาพการผลิตและการตลาดด้านปศุสัตว์ ส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าอาหาร ปรับโครงสร้างการผลิตภาคการเกษตรโดยสร้างระบบนิคมการเกษตร สร้างความเข้มแข็งให้ภาคการเกษตรทั้งระบบ เร่งรัดพัฒนาระบบขนส่ง (logistics) การผลักดันให้มีการใช้พลังงานทดแทนและส่งเสริมการนำของเสียกลับมาใช้ประโยชน์ในรูปของอาหารหรือพลังงานให้มากที่สุด เช่น ก๊าซชีวภาพ แอลกอฮอล์ ปุ๋ย อาหารสัตว์ รวมถึงส่งเสริมงานวิจัยและพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพที่ใช้พืชที่ไม่ใช่อาหาร อีกด้วย ทั้งนี้ที่ประชุมได้มอบหมายให้คณะกรรมการบริหารจัดการเรื่องอาหารและพลังงานเพื่อรองรับสถานการณ์วิกฤตอาหารและพลังงานของโลก นำมาตรการไปดำเนินการต่อไป