ส่องคดีทุจริตโลก : เมื่อ ปธ.ANOC ลงจากตำแหน่ง หลังถูกสอบปลอมแปลงกระบวนการอนุญาโตฯ จัดโอลิมปิก
"... ที่ผ่านมา นายชีคอะหมัด ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวมาโดยตลอด เขาชี้ว่ามีกระบวนการทางการเมืองอยู่เบื้องหลังการกล่าวหานี้ เนื่องด้วยตัวเขาเองมีประเด็นข้อพิพาทกับสมาชิกราชวงศ์คนอื่นๆของคูเวตที่เคยมีประวัติเป็นถึงนายกรัฐมนตรี ..ผมมีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของสวิสเซอร์แลนด์ และผมมั่นใจว่าชี้แจงความบริสุทธ์ของตัวเองที่หน้าบัลลังก์ศาลของสวิสเซอร์แลนด์ได้..."
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวใหญ่เกิดขึ้นในแวดวงกีฬาโลก
เมื่อสื่อกระแสหลักในประเทศญี่ปุ่นหลายแห่ง ได้ตีข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการทุจริตในคณะกรรมการกีฬาโอลิมปิกนานาชาติ ที่อาจจะส่งผลต่อการประชุมหารือเพื่อจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ค.ศ.2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งขณะนี้เหลือเวลาเตรียมการจัดการอีกไม่ถึง 600 วัน
ข่าวใหญ่ที่ว่า คือ การก้าวลงจากตำแหน่งประธานสมาคมสหพันธ์โอลิมปิกแห่งชาติ หรือ ANOC เป็นการชั่วคราว เมื่อวันที่ 26 พ.ย.2561 ที่ผ่านมา ของ นายชีคอะหมัด อัล-ฟาฮัด อัล-อาเหม็ด อัล-ซาบะห์ ( Sheikh Ahmad Al-Fahad Al-Ahmed Al-Sabah ) หลังถูกสอบสวนพฤติกรรมการทุจริตในคณะกรรมการกีฬาโอลิมปิกนานาชาติ โดยทางการสวิตเซอร์แลนด์
อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์กันว่าในวันที่ 28 พ.ย.นี้ทาง ANOC จะเลือกนายชีคอะหมัดกลับเข้ามาดำรงตำแหน่งใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ชีคอะหมัด อัล-ฟาฮัด อัล-อาเหม็ด อัล-ซาบะห์
สำหรับรายละเอียดของคดีทุจริตในคณะกรรมการกีฬาโอลิมปิกนานาชาตินั้น นายชีคอะหมัดถูกกล่าวหาจากทางอัยการด้านการป้องกันและปราบปรามการปลอมแปลงเอกสารของกรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ว่า มีส่วนพัวพันกับคดีทุจริตการปลอมแปลงกระบวนการพิจารณาข้อพิพาทของคณะกรรมการอนุญาโตตุลาการอันเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ระดับบริหารของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) จำนวน 4 คน ซึ่งนายชีคอะหมัดเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นและยาวนานของนาย Thomas Bach ประธาน IOC ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อการเลือกตั้งในสมาคมโอลิมปิก
ขณะที่มีรายงานข่าวว่า ในช่วงเวลาที่กรุงโตเกียวได้รับการเลือกให้เป็นเมืองที่จัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ค.ศ. 2020 เมื่อตอนเดือน ก.ย. ค.ศ. 2013 นั้น เป็นช่วงเดียวกับที่นาย Thomas ได้รับเลือกให้เป็นประธานบอร์ด IOC ซึ่งถือว่าในช่วงเวลานั้นอิทธิพลของนายชีคอะหมัดก็พุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดเช่นกัน
ขณะที่การก้าวลงจากตำแหน่งของนายชีคอะหมัดเมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา นั้น นาย Thomas ได้เรียกประชุมบอร์ดบริหาร IOC เพื่อจะพิสูจน์ความบริสุทธ์ของนายชีคอะหมัด ว่าการกระทำของนายชีคอะหมัดที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของคณะกรรมการอนุญาโตตุลาการของ IOC นั้นเป็นการกระทำที่เป็นไปตามกระบวนการของสมาคมโอลิมปิกหรือไม่
นอกจากนี้ IOC ยังได้ออกรายงานอันเนื่องมาจากการตรวจสอบของคณะกรรมการด้านจริยธรรมของ IOC ที่ประเมินกันว่าถ้าหากนายชีคอะหมัดมีความผิดในข้อหาการปลอมแปลงเอกสารจริง อาจจะต้องรับโทษจำคุกถึง 5 ปี
“ข้อเท็จจริงที่ว่าชีคอะหมัด ถูกตรวจสอบจากหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายว่าได้กระทำความผิดในคดีอาญาในเรื่องของการปลอมแปลงเอกสารนั้น ถือได้ว่าเป็นความผิดอันร้ายแรงและกระทบต่อการดำเนินการเพื่อจัดกิจกรรมกีฬาโอลิมปิก และยังกระทบต่อชื่อเสียงของ IOC ด้วย” รายงานจากคณะกรรมการจริยธรรมระบุดังกล่าว
ทั้งนี้ มีรายงานว่าทางคณะกรรมการด้านจริยธรรมยังได้ขอให้นายชีคอะหมัด ส่งข้อมูลการประชุมหารือกับเจ้าหน้าที่บริหารคนอื่นๆที่เมืองโลซาน ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าในช่วงต้นปี ค.ศ. 2019 ทางการเจนีวาจะมีการไต่สวนนายชีคอะหมัดในคดีปลอมแปลงเอกสารดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมา นายชีคอะหมัด ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวมาโดยตลอด เขาชี้ว่ามีกระบวนการทางการเมืองอยู่เบื้องหลังการกล่าวหานี้ เนื่องด้วยตัวเขาเองมีประเด็นข้อพิพาทกับสมาชิกราชวงศ์คนอื่นๆของคูเวตที่เคยมีประวัติเป็นถึงนายกรัฐมนตรี
“ผมมีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของสวิสเซอร์แลนด์ และผมมั่นใจว่าชี้แจงความบริสุทธ์ของตัวเองที่หน้าบัลลังก์ศาลของสวิสเซอร์แลนด์ได้” ชีคอะหมัดระบุในจดหมายที่ยื่นให้กับทางคณะกรรมการจริยธรรมของโอลิมปิกเมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งในเวลาต่อมา ทาง IOC ก็ได้เผยแพร่จดหมายดังกล่าวเป็นทางการ
ที่ผ่านมา แม้ว่านายชีคอะหมัดจะยังคงเป็นประธานสภาโอลิมปิกในภูมิภาคเอเชีย แต่เขาก็ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวได้ ซึ่งรวมไปถึงการพบปะกับตัวแทนสมาคมสหพันธ์โอลิมปิกแห่งชาติจำนวน 1,400 คน เพื่อหารือถึงการจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปีก 2020 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 28 และ 29 พ.ย. ที่ผ่านมาด้วย
นอกจากคดีนี้แล้ว นายชีคอะหมัด ยังถูกหน่วยงานสอบสวนสหรัฐอเมริกาสอบสวนเนื่องจากเข้าไปพัวพันกับสินบนการเลือกตั้งในสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศหรือ FIFA ซึ่งนายชีคอะหมัดได้ลาออกจาก FIFA ไปเมื่อเดือน เม.ย. ค.ศ. 2017 ไม่กี่วัน หลังจากถูกระบุด้วยเอกสารในชั้นศาลบรูคลินว่า เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการให้สินบน
ทั้งนี้ นอกเหนือจากนายชีคอะหมัดแล้ว ยังมีสมาชิก IOC อีก 2 คนถูกแบนให้ปฏิบัติหน้าที่ได้แก่นาย Patrick Hickey ตัวแทนจากสาธารณไอร์แลนด์ และยังทำหน้าที่เป็นบอร์ดบริหารใน IOC และนาย Frank Fredericks ตัวแทนจากประเทศนามิเบีย
โดยนาย Patrick ถูกจับกุมใน ค.ศ. 2016 ที่กรุงริโอ เดอจาเนโร ประเทศบราซิล ในข้อหาจำหน่ายตั๋วผีในงานโอลิมปิกฤดูร้อน และนาย Frank ถูกจับกุมโดยหน่วยงานสอบสวนของฝรั่งเศส หลังถูกสันนิษฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อคะแนนโหวตสถานที่ที่จะจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี ค.ศ. 2016 และจากกรณีการซื้อคะแนนโหวตดังกล่าวนั้นยังเป็นเหตุให้นาย Carlos Nuzman สมาชิกกิตติมศักดิ์ของ IOC จากประเทศบราซิล ต้องถูกแบนจากการปฏิบัติหน้าที่ใน IOC เช่นกัน (เรียบเรียงข้อมูลข่าวจาก :http://www.asahi.com/ajw/articles/AJ201811270012.html)
ทั้งหมดนี่ คือ ความเคลื่อนไหวล่าสุด เกี่ยวกับคดีทุจริตในแวดวงกีฬาระดับโลก ที่กำลังถูกจับตามองจากหลายฝ่ายในขณะนี้
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/