เอฟทีเอ ว็อทช์ ค้าน ใช้ม. 44 ยกคำขอสิทธิบัตรกัญชา หวั่นต่างชาติฟ้องค่าเสียหาย
เอฟทีเอ ว็อทช์ ค้าน 'ประยุทธ์' ออกมาตรา 44 ยกเลิกคำขอสิทธิบัตรกัญชา หวั่นถูกผู้ขอสิทธิต่างชาติฟ้องต่ออนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ เรียกค่าเสียหาย หนุนรบ.บังคับใช้ กม.ที่มีอยู่เคร่งครัดเเทน
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า วันที่ 27 พ.ย. 2561 กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (เอฟทีเอ ว็อทช์) ออกเเถลงการณ์ขอคัดค้านการที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบเเห่งชาติ (คสช.) จะออกคำสั่งตามมาตรา 44 เพื่อแก้ปัญหาคำขอสิทธิบัตรกัญชา ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
1) มาตรา 44 เป็นคำสั่งพิเศษของคณะรัฐประหาร ที่ไม่อาจถือได้ว่า เป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนอันชอบธรรมของการออกหรือการใช้กฎหมาย (due process of law) ไม่เป็นที่ยอมรับตามหลักนิติรัฐปกติ ซึ่งเป็นอำนาจพิเศษเฉพาะในกฎหมายไทยเท่านั้น แต่ขัดกับหลักการสากลในทางระหว่างประเทศ การใช้อำนาจเช่นนี้จึงมีความเสี่ยงที่จะถูกผู้ขอสิทธิบัตรชาวต่างชาติจะนำเรื่องขึ้นฟ้องร้องต่ออนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ตามกลไกระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐและเอกชน (Investor-state Dispute Settlement: ISDS) เพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย หรือที่สื่อไทยใช้คำเรียกว่า 'ค่าโง่' ได้ เช่นเดียวกับกรณีเหมืองทอง จ.เลย และรัฐบาลไทยก็มีโอกาสจะแพ้คดีเนื่องจากความไม่ชอบธรรมของอำนาจที่ใช้ออกคำสั่ง
2) การออกคำสั่งตามมาตรา 44 เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ไม่ได้แก้ที่ระบบอันเป็นต้นตอของปัญหา นั่นคือ การที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายของตัวเองอย่างเคร่งครัด อาทิ ไม่ใช้มาตรา 9 ที่ระบุถึงสิ่งที่ห้ามจดสิทธิบัตร เช่น สารสกัดตามธรรมชาติ จุลชีพ การใช้เพื่อการบำบัดรักษา และสิ่งที่ฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดี มาใช้ในการตรวจสอบคำขอสิทธิบัตรเบื้องต้น, ไม่ใช้มาตรา 5 ที่ว่าด้วยคุณสมบัติของสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถจดสิทธิบัตรได้ ซึ่งต้องมีความใหม่และมีนวัตกรรมที่สูงขึ้นมาพิจารณาตรวจสอบสิทธิบัตรอย่างเคร่งครัด แต่กรมทรัพย์สินทางปัญญากลับไม่ยกคำขอเหล่านี้ทิ้งไป ปล่อยให้คำขอเหล่านี้อยู่ในระบบจนเป็นการขัดขวางนวัตกรรมและการพัฒนาพืชกัญชาทางการแพทย์อยู่ขณะนี้ นอกจากนี้กรมทรัพย์สินทางปัญญายังออกคู่มือตรวจสอบสิทธิบัตรในการอธิบายมาตรา 9 พ.ร.บ.สิทธิบัตร ที่เกินไปกว่ากฎหมาย ซึ่งเท่ากับเป็นการเปิดทางให้จดสิทธิบัตรสารสกัดที่ถูกทำให้บริสุทธิ์ทั้งที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสารธรรมชาติซึ่งเกินกว่ากฎหมาย
3) ข้อเสนอเพื่อการแก้ปัญหานี้ที่ถูกต้อง คือ รัฐบาล คสช. ต้องกำกับดูแลให้กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และเร่งตรวจสอบสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ทางเคมีและชีววัตถุอย่างเข้มงวดและรอบคอบ และรายงานต่อสาธารณชนเป็นระยะถึงการยกคำขอสิทธิบัตรเหล่านั้น และให้ถือปฏิบัติเช่นเดียวกับยาอื่นๆ
ทั้งนี้ กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (เอฟทีเอ ว็อทช์) ขอย้ำอีกครั้งว่า เราสนับสนุนให้มีการยกคำขอสิทธิบัตรกัญชาทิ้งไป แต่ให้ใช้กระบวนการตามกฎหมายที่มีอยู่ ซึ่งต้องอาศัยความเอาจริงเอาจังของข้าราชการกรมทรัพย์สินทางปัญญา โดยไม่ใช้อำนาจพิเศษในการแก้ปัญหาที่จะยิ่งสร้างปัญหาให้รุนแรงกว่านี้โดยไม่จำเป็น
ภาพประกอบ:เว็บไซต์เอ็มไทย