เบื้องลึก ป.ป.ช.ชี้มูลทุจริตนายกอบต.ทำนบ สงขลา-จ้างเอกชนขาดคุณสมบัติรับงานงบแค่1.5แสน

"...น่าสนใจว่า การดำเนินการจัดจ้างโครงการออกแบบองค์ประกอบทางกายภาพของสภาพแวดล้อมทางภูมิทัศน์บริเวณพื้นที่โดยรอบที่ทำการอบต.ทำนบ  ที่มีวงเงินแค่หลักแสน แต่ส่งผลทำให้ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรายนี้ ต้องถูกชี้มูลความผิดคดีอาญา หลายมาตรา และถูกถอดถอนจากตำแหน่งด้วย มีรายละเอียดที่มาที่ไปอย่างไร?..."

นายสังสิทธิ สุวรรณเจริญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทำนบ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา คือ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) รายล่าสุด ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ลงมติชี้มูลความผิด กรณีดำเนินการจัดจ้างโครงการออกแบบองค์ประกอบทางกายภาพของสภาพแวดล้อมทางภูมิทัศน์บริเวณพื้นที่โดยรอบที่ทำการอบต.ทำนบ  โดยวิธีคัดเลือกแบบจำกัดข้อกำหนด ทั้งที่ ผู้รับจ้างขาดคุณสมบัติ  

โดย คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาสำนวนไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วมีมติเอกฉันท์ว่า การกระทำของ นายสังสิทธิ ผู้ถูกกล่าวหา มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 123/1 และประกอบพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 192 และกระทำการใดๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ พ.ศ.2542 และมีมูลความผิดกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริง เอกสาร หลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อยื่นฟ้องดำเนินคดีอาญาตามขั้นตอนทางกฎหมาย และส่งสำนวนการไต่สวนไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนเพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจกับนายสังสิทธิแล้ว และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับทราบด้วย (อ่านประกอบ : ป.ป.ช. ฟันนายกอบต.ทำนบ สงขลา จ้างเอกชนขาดคุณสมบัติออกแบบภูมิทัศน์ 1.48 แสน)

น่าสนใจว่า การดำเนินการจัดจ้างโครงการออกแบบองค์ประกอบทางกายภาพของสภาพแวดล้อมทางภูมิทัศน์บริเวณพื้นที่โดยรอบที่ทำการอบต.ทำนบ  ที่มีวงเงินแค่หลักแสน แต่ส่งผลทำให้ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรายนี้ ต้องถูกชี้มูลความผิดคดีอาญา หลายมาตรา และถูกถอดถอนจากตำแหน่งด้วย มีรายละเอียดที่มาที่ไปอย่างไร? 

สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบฐานข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างหน่วยงานภาครัฐ พบว่า เมื่อวันที่  15 พ.ค.2558  อบต. ทำนบ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา โดย  นายสังสิทธิ สุวรรณเจริญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทำนบ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ได้ออกประกาศเชิญชวนเอกชนที่สนใจเข้าร่วมเสนอราคาจ้างออกแบบองค์ประกอบทางกายภาพของสภาพแวดล้อมทางภูมิทัศน์บริเวณพื้นที่โดยรอบที่ทำการ อบต.ทำนบ โดยวิธีคัดเลือกแบบจำกัดข้อกำหนด กำหนดราคากลางงานอยู่ที่ 150,000 บาท กำหนดยื่นซองเสนองานตั้งแต่วันที 15-29 พฤษภาคม 2558 เวลา 09.00 น-16.00 น. และยื่นซองวันสุดท้ายในวันที่ 10 มิถุนายน 2558 เวลา 09.00 น.-16.00 น. ณ ศูนย์รวมข้อมูลข่าวสารการซื้อหรือจ้างระดับตำบล ที่ว่าการอำเภอสิงหนคร ชั้น 2 อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา

กำหนดเปิดซองและพิจารณาคัดเลือกตามข้อกำหนดในประกาศ ในวันที่ 11 มิถุนายน 2558 ณ ศูนย์รวมข้อมูลข่าวสารการซื้อหรือจ้างระดับตำบล ที่ว่าการอำเภอสิงหนคร ชั้น 2 อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ตั้งแต่เวลา 09.00 น.

ผู้เสนองานที่ผ่านการคัดเลือกเบื้องต้นให้ นำเสนอผลงาน ต่อคณะกรรมการ ในวันที่ 22 มิถุนายน 2558 ตั้งแต่เวลา 09.00 น-12.00 น.

ประกาศผลผู้ได้รับการคัดเลือก ในวันที่ 23 มิถุนายน 2558 เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป

สำหรับรายละเอียดงาน จ้างออกแบบองค์ประกอบทางกายภาพของสภาพแวดล้อมทางภูมิทัศน์บริเวณพื้นที่โดยรอบที่ทำการ อบต.ทำนบ  ประกอบไปด้วย 

1. ออกแบบองค์ประกอบทางกายภาพของสภาพแวดล้อมทางภูมิทัศน์ บริเวณด้านหน้าที่ทำการ อบต.ทำนบ ได้แก่ 1.1 พื้นที่ลานจอดรถสำหรับประชาชนติดต่อราชการ, 1.2 ลานออกกำลังกาย รวมค่าก่อสร้างไม่น้อยกว่า 400,000 บาท

2. ออกแบบองค์ประกอบทางกายภาพของสภาพแวดล้อมทางภูมิทัศน์ บริเวณด้านหลังที่ทำการ อบต.ทำนบ  ได้แก่  2.1 สระน้ำ สำหรับกักเก็บน้ำผิวดินเพื่อใช้อุปโภค, 2.2 งานถมดินปรับระดับพื้นที่บริเวณด้านหลังที่ทำการ อบต.ทำนบ ตลอดแนวเขตที่ดิน, 2.3 พนังกันดินและทางเดินเท้าบริเวณแนวเขตที่ดินด้านติดคลองสทิ้งหม้อ ค่าก่อสร้างไม่น้อยกว่า 1,800,000 บาท 

3. ออกแบบอาคารศาลาประชาคม ซึ่งจุคนได้ 150-200 คน โดยมีแนวคิดในการออกแบบเป็นอาคารสาธารณะ สามารถจัดกิจกรรมได้หลากหลาย เช่น จัดประชุม จัดเลี้ยง จัดงานรัฐพิธีต่างๆ เป็นอาคารกลางสระน้ำ มีรูปแบบทันสมัย โปร่ง สบายตา โดยสอดแทรกแนวคิดของการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ซึ่งประกอบด้วย 3.1 งานฐานราก, 3.2 งานโครงสร้างอาคาร, 3.3 งานหลังคา, 3.4 งานไฟฟ้า, 3.5 งานสุขาภิบาล, 3.6 งานระบบความปลอดภัย , 3.7 งานตกแต่งอาคาร รวมค่าก่อสร้างไม่น้อยกว่า 5,000,000 บาท

4. งานออกแบบอาคารสนามกีฬาฟุตซอล โดยมีแนวคิดในการออกแบบให้เป็นลานกีฬาในร่ม และยังสามารถใช้อาคารในการทำกิจกรรมอย่างอื่นได้ด้วย ซึ่งประกอบด้วย 4.1 งานฐานราก, 4.2 งานโครงสร้างอาคาร, 4.3 งานหลังคา, 4.4 งานพื้นสนาม, 4.5 งานระบบไฟฟ้า รวมค่าก่อสร้างไม่น้อยกว่า 1,500,000 บาท

รวมเงินค่าก่อสร้างทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 8,700,000 บาท

ขณะที่ แหล่งข่าวจากอบต. ทำนบ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่า เท่าที่ทราบ ป.ป.ช.ไต่สวนข้อเท็จจริงคดีนี้ พบว่า เอกชนที่ปรากฎชื่อเป็นคู่สัญญารับจ้างงานขาดคุณสมบัติ ไม่ได้ถูกรับรองผลงานด้านการออกแบบจากสภาสถาปนิก ซึ่งเป็นองค์กรควบคุมวิชาชีพสถาปัตยกรรม และยังมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับบริษัทเอกชนรายอื่น ที่ได้รับเชิญให้เข้ามาเสนองานด้วย   

"ในการประกวดราคาโครงการนี้ มีเอกชน 5 ราย ที่อบต.ทำนบ ส่งเรื่องให้มาคัดเลือกเป็นผู้รับจ้างงาน แต่ถูก ป.ป.ช. ไต่สวนข้อเท็จจริงพบว่า ผู้ได้รับงานว่าจ้าง และเอกชนรายหนึ่ง มีความเชื่อมโยงส่อว่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน ส่วนเอกชนที่เหลือบางราย ก็ถูกนำชื่อมาใช้ในการคัดเลือก ทั้งที่ ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นอะไรด้วยเลย" 

แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า แม้มูลค่างานในการออกแบบโครงการนี้ จะมีวงเงินเพียงแค่หลักแสนบาท แต่เนื่องจากการออกแบบดังกล่าว ถือเป็นจุดเริ่มต้นนำไปสู่ก่อสร้างงานโครงการ ที่มีวงเงินหลายล้านบาท ผลการไต่สวนคดีนี้จึงนับเป็นโครงการที่มีความสำคัญ ในการปกป้องรักษาผลประโยชน์ภาครัฐ และนำไปสู่การชี้มูลความผิดผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งทางคดีอาญา รวมไปถึงการถอดถอนออกจากตำแหน่งด้วย

อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในคดีนี้ ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด นายสังสิทธิ สุวรรณเจริญ  อบต.ทำนบ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ยังถือได้ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดออกมา